จังหวัดในภาคใต้ของไทยที่ถือได้ว่าเจริญมากที่สุด
ปรากฏการณ์ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีคนใหม่ป้ายแดง จ่อควบตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง เจ้าของอำนาจ ด้านการใช้จ่ายงบประมาณ จัดเก็บรายได้รัฐ และยังมีบทบาท ในการออกมาตรการ การเงิน การคลัง รวมถึงแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญๆ ของประเทศ ถูกมองจะทำให้การผลักดันนโยบายของพรรคเพื่อไทย เป็นเรื่องง่ายมากขึ้น เพราะเจ้าของนโยบาย และมีอำนาจสูงสุด นั่งเก้าอี้กำกับเสียเอง
จังหวัดภูเก็ต เรียกว่า เป็นเมืองท่องเที่ยวระดับ TOP ของประเทศไทย ฉายาไข่มุกแห่งอันดามัน ที่มีความหมายต่อ GDP ไทยอย่างมาก ย้อนไปช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีรายงานว่า “ภูเก็ต” มีรายได้จากการท่องเที่ยว สูงถึง 4.4 แสนล้านบาท (สูงเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ) ทำให้มูลค่าเศรษฐกิจของจังหวัดภูเก็ต หรือ GDP ขยับสูงถึง 2.51 แสนล้านบาท หรือเป็นรายได้ต่อหัวประชากร 428,351 บาท/คน/ปี
ปี 2565 ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวกลับมา 4.83 ล้านคน สร้างรายได้คืนมา 166,770 ล้านบาท จนถึงปัจจุบัน ความคึกคักเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกำลังเปลี่ยนแปลงหลายๆ แง่ ภายใต้ความหวังของภาคเอกชนในพื้นที่ ว่าการท่องเที่ยวของภูเก็ตจะกลับมาฟื้นตัว 100% อย่างแน่นอนในปี 2567 กับนักท่องเที่ยวที่จะแตะที่ 14 ล้านคน และรายได้จะทะลุ 4.4 แสนล้านบาทอย่างที่เคยทำได้
ทั้งนี้ ภาคท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต คาดว่า ปีนี้ภูเก็ตจะมีรายได้จากการท่องเที่ยวไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนล้านบาท ตลาดเป้าหมายหลัก ยังเป็น จีน รัสเซีย อินเดีย ตะวันออกกลาง ออสเตรเลีย และยุโรป