หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ความรักสีเทา

โพสท์โดย kaewtaphrombut

 

ตอนที่ 1 แต่งงานกับผมได้ไหม


เมื่อมาถึงสำนักงานกิจการพลเรือน วิเวียน วิลเลียมรู้สึกกังวลมากที่รู้ว่าชายที่เธอจะจดทะเบียนสมรสด้วยยังมาไม่ถึง 
นี่มันก็ล่วงเลยเวลาที่ตกลงกันไว้ไปกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว ขณะที่เธอกำลังจะติดต่อหาเขา กลับกลายเป็นเขาที่โทรหาเธอแทน
ทันทีที่เธอรับสาย เสียงโกรธจัดของเขาก็แผดออกมาผ่านสายโทรศัพท์ “วิเวียน วิลเลี่ยม นังตอแหล เธอลืมเรื่องน่าอายที่ตัวเองเคยทำตอนอยู่มหาวิทยาลัยไปแล้วเหรอ กล้าดียังไงที่คิดจะมาแต่งงานกับฉันในตอนนี้จะบอกอะไรให้นะ ว่าฝันไปเหอะ ตอนนี้ฉันตาสว่างแล้ว ก็นึกสงสัยอยู่ที่เธอรีบยกเรื่องแต่งงานขึ้นมาทั้งที่เราเพิ่งรู้จักกันได้แค่สามวัน ถ้าแฟนเก่าฉันไม่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันเธอ ฉันคงโดนเธอหลอกไปแล้ว นังหน้าด้าน”
พูดจบ เขาก็วางสายไป
วิเวียนไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะพูดแก้ต่างให้ตัวเอง
นิ้วที่กำลังกำโทรศัพท์เปลี่ยนเป็นสีขาว ในขณะที่ริมฝีปากขยับมุบมิบอย่างไร้สุ้มเสียง
ชายหนุ่มไม่คิดจะลดเสียงลงเลยสักนิด ซึ่งหมายความว่าคนจำนวนมากคงจะพลอยได้ยินที่เธอคุยโทรศัพท์ไปด้วย สายตาที่ทุกคนจ้องมองเธอเต็มไปด้วยความดูถูกดูแคลนและรังเกียจ ทิ่มแทงใส่เธอราวกับเข็มนับพันเล่ม
มันเหมือนกับค่ำคืนฝันร้ายเมื่อสองปีก่อนไม่มีผิด
เธอรู้สึกราวกับกำลังถูกกลืนหายเข้าไปในความมืดมิด ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าไร ก็ไร้ทางหลีกหนี…
เม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มหน้าผากของเธอ พร้อมทั้งสีหน้าที่ซีดเผือดอย่างหนัก ทั้งร่างของเธอเริ่มสั่นเทิ้มอย่างไม่อาจควบคุม
ห่างออกไป ดวงตาสีดำอันลุ่มลึกสุดหยั่งถึงคู่หนึ่งมองหญิงสาวที่กำลังตัวสั่นเทาอย่างครุ่นคิด พร้อมกับนิ้วมืออันเรียวยาวที่เคาะอยู่บนพนักเก้าอี้อาของเขา
"คุณนอร์ตันครับ" ในตอนนั้นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งรีบตรงมายังข้างกายของฟินนิค นอร์ตันอย่างรีบร้อน ก่อนจะโน้มตัวลง เขากระซิบว่า "คุณโลเปซแจ้งผมว่าเธอยังรถติดอยู่บนถนนครับ เธอบอกว่าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อยอีกหนึ่งชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี่"
"นายบอกให้เธอกลับบ้านไปได้เลย บอกเธอว่าไม่ต้องลำบากมาแล้ว" ฟินนิคไม่หันหน้ามองอีกฝ่ายแม้แต่น้อย สายตาคมกริบของเขาจ้องมองไปยังวิเวียน พร้อมกับพูดเสริมเสียงเรียบว่า "ฉันไม่ชอบผู้หญิงอวดดี"
"แต่..." ผู้ช่วยหนุ่มของเขาทำหน้าไม่สบายใจ "คุณปู่ของคุณกำลังเร่งรัดให้คุณได้แต่งงานจริงๆ นะครับ..."
คล้ายว่าเขาไม่ได้ยินสิ่งที่ผู้ช่วยของตนพูด ฟินนิคกดปุ่มบนอาของเขาให้เลื่อนไปทางวิเวียน
"ขอโทษนะครับ คุณผู้หญิง โปรดแต่งงานกับผมได้ไหมครับ"
เสียงกังวานดังขึ้น ฉุดวิเวียนออกจากความมืดที่กำลังจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว
เมื่อเงยหน้าขึ้น เธอแปลกใจนิดหน่อยกับสิ่งที่เห็น
เธอไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นตอนไหน ทว่าดูเหมือนชายบนรถวีลแชร์คนหนึ่งจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ
รูปลักษณ์ของเขาสมบูรณ์แบบถึงขั้นสามารถทำให้คนหยุดหายใจได้ คิ้วเรียวคมที่ประดับอยู่บนใบหน้าอันคมคาย ดูราวกับว่าใบหน้าของเขาสลักเสลาขึ้นจากหินอ่อน กลายเป็นผลงานชิ้นเอกอันไร้ที่ติ
แม้เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาจะดูเรียบง่าย การออกแบบจะขับเน้นความผอมเพรียวของเขา แต่ก็เห็นโครงสร้างอันบึกบึนทรงพลัง
การนั่งอยู่บนรถวีลแชร์ไม่ได้ลดทอนรัศมีความสูงส่งและความทระนงของเขาเลยแม้แต่น้อย กลับกัน มันมีแต่จะทำให้เขาดูสันโดษและเกินเอื้อมยิ่งขึ้น
กระทั่งชายหนุ่มถามซ้ำอีกครั้ง วิเวียนจึงสะดุ้งตื่นจากภวังค์ที่เธอกำลังจมอยู่
"คะ"
"ช่วยไม่ได้จริงๆ ที่ผมแอบได้ยินสิ่งที่คุณพูดคุยก่อนหน้านี้ คุณอยากจะรีบแต่งงานใช่ไหมครับ"
คำพูดของเขาทำเอาเธอหายใจติดขัด พร้อมกับความอดสูและความช้ำใจที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง
ไม่รอให้เธอตอบกลับ ชายหนุ่มพูดต่อด้วยน้ำเสียงเฉยชา "บังเอิญผมเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ในเมื่อเป้าหมายของเราเหมือนกัน ทำไมเราไม่ยื่นมือมาช่วยกันล่ะครับ" เขาพูดในลักษณะเหมือนกับกำลังเจรจาเรื่องธุรกิจ ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรในชีวิตเลยสักนิด
ถึงตอนนี้ ในที่สุดวิเวียนก็เข้าใจแล้วว่าผู้ชายคนนี้กำลังเอาจริงเรื่องแต่งงาน แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ เราเพิ่งเจอกันเองนะ การแต่งงานแบบสายฟ้าแลบมันเป็นเรื่องที่เกินจะรับได้
"คุณคะ เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ คุณไม่คิดว่าตัวเองรีบร้อนและบุ่มบ่ามเกินไปหน่อยเหรอคะ"
"คุณเองก็ไม่รู้จักผู้ชายพวกที่คุณไปนัดบอดมาด้วยเหมือนกันนั่นแหละ"
คำตอบของเขาราบเรียบและตรงไปตรงมา ทำเอาวิเวียนไม่ทันตั้งตัวและพูดไม่ออก
"อ้อ ผมเข้าใจแล้ว คุณดูถูกผมเพราะผมเป็นคนพิการใช่ไหม"
"ไม่ใช่นะคะ" นั่นคือคำที่เธอตอบกลับไปโดยอัตโนมัติ เมื่อเธอสังเกตเห็นแววขบขันนิดๆ ในดวงตาสีดำของเขา เธอจึงตระหนักได้ว่าเมื่อครู่เธอได้ทำในสิ่งที่เขาต้องการไปแล้ว
"คุณผู้หญิง" เขากุมมือตัวเองวางไว้บนตักอย่างเรียบร้อย ก่อนจะจ้องมองเธอด้วยสายตาเร่าร้อน "ผมค่อนข้างมั่นใจว่าคุณต้องการการแต่งงานครั้งนี้อย่างมาก ถ้าคุณพลาดโอกาสในตอนนี้ไป อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าจะมีครั้งหน้าอีก"
เธอต้องยอมรับเลยว่าเขาพูดจาโน้มน้าวเก่งมาก เขาพูดถูก ฉันต้องการการแต่งงานครั้งนี้อย่างที่สุด ความจริงแล้ว พูดกันตามตรงก็คือฉันต้องการมีรายชื่อในทะเบียนบ้านที่เมืองนี้ เพียงเพราะเมื่อถึงตอนนั้นฉันจะได้มีสิทธิ์ขอประกันสุขภาพที่นี่ และจ่ายค่ารักษาพยาบาลแพงๆ ให้กับแม่
เวลาผ่านไปทีละน้อยขณะที่เธอจ้องมองเขาเนิ่นนาน จนสุดท้ายเธอจึงกัดฟันพูดออกมาว่า "คุณเป็นพลเมืองถาวรที่นี่หรือเปล่า ในเมืองซันไชน์น่ะ"
ริมฝีปากของเขายกขึ้นยิ้มเยาะนิดๆ "ใช่"
อีกครั้งหนึ่งที่วิเวียนเงียบไป นิ้วมือของเธอกำใบยื่นขอทะเบียนบ้านแน่น
ถึงแม้เขาจะพิการ แต่ผู้ชายตรงหน้าเธอก็มีมารยาทและรูปลักษณ์ที่เหนือกว่าผู้ชายแย่ๆ พวกนั้นที่เธอเคยนัดบอดมาเมื่อเร็วๆ นี้อย่างชัดเจน โธ่ วิเวียน เป้าหมายหนึ่งเดียวของเธอในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาคือการแต่งงานกับคนท้องถิ่นให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่ใช่เหรอ  ตอนนี้โอกาสนั้นตกมาอยู่ในมือของเธอแล้วนะ ยังจะมัวลังเลอะไรอยู่อีก
ความรู้สึกขัดแย้งตีกันไปมาในตัวเธอ ในที่สุด เธอกัดริมฝีปากและยึดมั่นในทางแก้ปัญหาของตัวเอง หญิงสาวพยักหน้าตอบตกลง "ก็ได้ค่ะ ฉันตกลง"


ตอนที่ 2 ก็แค่แต่งงาน


หนึ่งชั่วโมงถัดมา วิเวียนเดินออกจากสำนักกิจการพลเรือนพร้อมกับกำใบทะเบียนสมรสสีแดงในมือแน่น เธอรู้สึกเหมือนกับกำลังลอยล่องอยู่บนอากาศ ราวกับทุกสิ่งเป็นเพียงแค่ความฝัน
เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะได้มาแต่งงานแบบปุบปับกับผู้ชายที่เธอพบเพียงเพราะความบังเอิญ หรือนี่จะเป็นโชคชะตา
เธอหลุบตาลง มองดูรูปถ่ายที่เขาและเธอนั่งเคียงข้างกัน สีหน้าของชายหนุ่มไร้อารมณ์ ส่วนเธอแสดงความอึดอัดและดูสงวนท่าทีอย่างเห็นได้ชัด
ด้านล่างของรูปภาพคือชื่อของพวกเขาทั้งสองคน ตลกสิ้นดีที่ฉันเพิ่งมารู้จักชื่อสามีหมาดๆ ของตัวเอง จากใบทะเบียนสมรส ฟินนิค นอร์ตัน ชื่อเรียบง่ายแต่ก็เหมาะกับผู้ชายแบบเขาดี
“วิเวียน วิลเลี่ยม
ชายคนนั้น ฟินนิคเองก็กำลังจ้องมองใบทะเบียนสมรสของเขาเช่นกัน เขาออกเสียงชื่อของเธอช้าๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขาเอื้อนผ่านลิ้นที่ม้วนแล้วคลี่ออกอย่างนุ่มนวล การเปล่งเสียงของเขาทำให้เธอเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง
ขณะที่เธอกำลังเหม่อกับการเปลี่ยนสถานะการสมรส จู่ๆ มือหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ บัตรเครดิตใบหนึ่งถูกคีบอยู่ระหว่างสองนิ้ว
"คุณวิลเลี่ยม ผมรู้ว่าการแต่งงานและได้สวมแหวนแต่งงานเป็นหนึ่งในเรื่องที่ผู้หญิงใฝ่ฝันมากที่สุด แต่น่าเสียดาย ผมขอโทษที่ต้องบอกว่าผมไม่มีเวลาที่จะจัดการกับเรื่องทั้งหมดนั้น ถ้าคุณอยากได้แหวนจริงๆ ไปเลือกเองสักวงได้เลยนะ"
พอหันหน้ากลับมา วิเวียนก็สบสายตาที่ยากจะคาดเดาของฟินนิค
"เรื่องนั้นไม่จำเป็นหรอกค่ะ" เธอรีบโบกมือปฏิเสธเขาทันที "ฉันไม่สนเรื่องพิธีรีตองอะไรแบบนั้นหรอก"
เธอเลยวัยที่จะมาใส่ใจกับเรื่องโรแมนติคแบบนั้นไปนานแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอไม่อยากรู้สึกว่าตัวเองติดค้างอะไรกับเขา แม้ว่าเขาจะเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของเธอแล้วก็ตาม
"อย่างน้อยก็ไปซื้อแหวนสักวงเถอะ" พูดจบ เขาก็คว้าข้อมือเธอ แล้วยัดบัตรเครดิตใส่ในมือของเธอ
ชั่วขณะที่มือของพวกเขาสัมผัสกัน อุณหภูมิในร่างกายพวกเขาที่ต่างกันเล็กน้อยก็ส่งอาการกระตุกเหมือนถูกไฟช็อตมาที่ร่างของวิเวียน เธอค่อนข้างประหลาดใจกับความอบอุ่นของเขา
"งั้นก็ได้ค่ะ" ในเมื่อพวกเขาเป็นคู่แต่งงานใหม่แล้ว จะว่าไป เธอไม่อยากทะเลาะกับเขาเพราะความหวังดีของเจ้าตัว ดังนั้นเธอจึงรับบัตรเครดิตมาแล้วเก็บไว้ในกระเป๋าถือของเธอ
"ผมมีนัดประชุมตอนบ่าย ต้องขอตัวก่อนล่ะ คุณหาทางกลับเองแล้วกันนะ" น้ำเสียงของเขาราบเรียบเช่นเคย
"ได้ค่ะ" เธอไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าเขาจะปฏิบัติกับเธอเหมือนภรรยาจริงๆ ที่เขาจะรักและพะเน้าพะนอนั้นคือเหตุผลว่าทำไมเธอถึงไม่ผิดหวังเลยสักนิดที่เขาทิ้งเธอไว้ที่นี่
ทันใดนั้นก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า "ยังไง... เดี๋ยววันนี้ผมจะส่งที่อยู่ของผมให้คุณอีกทีนะ สะดวกเมื่อไหร่ก็ย้ายเข้ามาได้เลย"
พวกเขาแลกเบอร์โทรศัพท์กันแล้วตอนรับใบทะเบียนสมรส
"ฉันไม่รีบค่ะ" เธอตอบกลับทันที
แม้จะสมเหตุสมผลที่พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันหลังแต่งงาน แต่ความจริงแล้วเธอยังไม่ได้เตรียมใจจะไปอยู่ใต้ชายคาเดียวกันในฐานะคนแปลกหน้าเลยแม้แต่น้อย
บางทีน้ำเสียงปฏิเสธของเธออาจชัดเจนเกินไป ฟินนิคเลยเงยหน้าเหลือบมองเธอ วิเวยนหน้าแดงเล็กน้อยด้วยความเขินอาย
แต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เพียงแค่กดปุ่มบนรถวีลแชร์ของตนให้หันไปอีกทาง "ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมขอตัวก่อน"
"ค่ะ"
เธอรอจนเขาขึ้นรถสีดำ ก่อนที่ตัวเองจะกลับเช่นกัน
หลังจากนั้น เธอต่อสายหาฝ่ายทรัพยากรบุคคลของบริษัทเธอทันที เธอบอกพวกเขาว่าเธอใกล้จะได้ขึ้นทะเบียนในเมืองซันไชน์แล้ว
เธอถอนหายใจเฮือกยาวอย่างโล่งอก เมื่อพวกเขายืนยันแล้วว่าจะสมัครประกันสุขภาพให้กับเธอและครอบครัว
ในขณะที่การแต่งงานวันนี้เป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างบุ่มบ่ามสำหรับเธอ อย่างน้อยที่สุด เธอก็สามารถแก้ไขปัญหาที่คอยกวนใจอยู่จนสำเร็จ ในที่สุด เธอก็ไม่ต้องทุกข์ใจกับค่ารักษาพยาบาลของแม่อีกแล้ว
เมื่อมาถึงนิตยสารแกลมเมอร์ที่ทำงานของเธอ วิเวียนพบว่ายังไม่ถึงเวลาการสัมภาษณ์ในช่วงบ่าย เธอจึงใช้เวลาว่างที่เหลืออยู่ไปที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ติดกัน เพื่อซื้อแหวนแต่งงานคู่หนึ่งด้วยบัตรเครดิตที่ฟินนิคให้ไว้
จากนั้น เธอจึงกลับมาที่โต๊ะทำงานและนั่งลง ตั้งใจว่าจะอ่านข้อมูลการสัมภาษณ์ในช่วงบ่ายนี้เป็นครั้งสุดท้าย ตอนนั้นเอง ซาร่าก็ไถเก้าอี้ในที่ทำงานของเธอเข้ามา ดวงตาของเธอเป็นประกายขณะถามว่า "วิเวียน แหวนอะไรน่ะ"
"ช่างสังเกตจังเลยนะ" วิเวียนไม่ตั้งใจจะปกปิดอะไรอยู่แล้ว อย่างไรเสีย ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็รู้แล้วว่าเธอย้ายทะเบียนบ้าน ไม่นานทุกคนในบริษัทก็จะรู้ว่าเธอเปลี่ยนสถานะการสมรสแล้ว "ฉันเพิ่งแต่งงานน่ะ"
"ยินดีด้วยนะ วิเวียน" ซาร่าพินิจมองแหวน แล้วออกความเห็นว่า "สามีเธอซื้อให้เหรอ เพชรไม่ค่อยใหญ่เนาะ ราคาเท่าไหร่น่ะ"
"พันกว่านิดๆ"
วิเวียนไม่รู้อะไรเกี่ยวกับประวัติทางการเงินของฟินนิคเลย เธอจึงเลือกแหวนคู่ที่ราคาถูกที่สุดและเรียบง่ายที่สุดเท่าที่จะหาได้
ซาร่าคิ้วขมวด และพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม "วิเวียน นั่นมันไม่พอหรอกนะ แหวนแต่งงานคือสัญลักษณ์ของการแต่งงานของพวกเธอ แล้วผู้ชายคนนั้นจะพึ่งพาได้ยังไง ถ้าเขาไม่มีปัญญาจะซื้อแหวนที่ดีกว่านี้ให้เธอ"
"ไม่เป็นไรหรอก เขาทำดีที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วล่ะ" วิเวียนตอบ เมื่อสังเกตเห็นสายตาเห็นใจของหญิงสาวอีกคน เธอจึงรับรู้ได้ว่าซาร่าคงคิดว่าสามีหมาดๆ ของเธออาจจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร
"พอเถอะ เลิกคุยเรื่องนี้เถอะ" เธอเปลี่ยนบทสนทนาอย่างรวดเร็ว ตั้งใจจะไม่วนเวียนอยู่กับมันอีกต่อไป "เธอพร้อมที่จะสัมภาษณ์ต่อจากนี้หรือยัง"
"ฮ่าฮ่าฮ่า แน่นอนที่สุด" อุบายการเบี่ยงเบนความสนใจของวิเวียนได้ผล ซาร่าชี้ไปที่ชุดของตัวเอง "วิเวียน เป็นไงบ้าง ฉันสวยไหม"
ในตอนนั้นเองที่วิเวียนเพิ่งสังเกตว่าเพื่อนร่วมงานของเธอสวมชุดกระโปรงสีชมพูขาว ส่วนผมของเธอก็ถูกจัดแต่งอย่างประณีต
"สวยเลิศเลยจ้ะ" วิเวียนเอ่ยชม
ซาร่าหน้าแดงระเรื่อเพราะคำชมของเธอ แววตาเป็นประกายอย่างมีความสุข "ถ้าอย่างนั้น เธอว่าฉันจะมีโอกาสได้คบกับประธานหนุ่มโสดผู้ร่ำรวยแห่งบริษัทฟินเนอร์กรุ๊ปหรือเปล่า"


ตอนที่ 3 ท่านประธานคือสามีของฉัน


วิเวียนทำตาปริบๆ อย่างแปลกใจ เธอถึงบางอ้อทันทีว่าทำไมซาร่าถึงได้อุตส่าห์แต่งเนื้อแต่งตัวให้ดูดีนักหนา คนที่พวกเธอจะสัมภาษณ์ในช่วงบ่ายหลังจากนี้ก็คือประธานบริษัทฟินเนอร์กรุ๊ปนั่นเอง
ในเมืองซันไชน์ ฟินเนอร์กรุ๊ปเปรียบได้กับตำนาน
เมื่อสามปีก่อน จู่ๆ บริษัทผุดขึ้นมาจากไหนก็ไม่รู้ จากนั้นก็สร้างชื่อเสียงในธุรกิจทางการเงินอย่างรวดเร็ว โดยใช้กลวิธีที่แข็งกร้าวสุดโต่ง
ภายในช่วงสั้นๆ แค่สามปี พวกเขาจะกลายมาเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลทางการเงินของเมืองซันไชน์ โดยเทียบเท่าสามตระกูลอันดับต้นๆ ของเมือง
ทว่า สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนมากที่สุดคือท่านประธานของบริษัท
จนถึงตอนนี้ ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาชื่ออะไร หน้าตาเป็นอย่างไร ตัวตนทุกอย่างของเขาเป็นปริศนา ซึ่งเป็นความจริงอย่างหนึ่งที่ยิ่งทำให้เขาดูน่าค้นหามากขึ้นไปอีก
ไม่มีตัวอย่างไหนจะดีไปกว่าซาร่า คนที่ตั้งใจใช้เวลาแต่งองค์ทรงเครื่องมาโดยเฉพาะ เมื่อเธอรู้ว่าพวกเธอจะได้สัมภาษณ์ท่านประธานผู้ยากจะหาตัวเจอ
แววขบขันฉายอยู่ในดวงตาของวิเวียน ขณะพูดล้อว่า "ซาร่า เธอแน่ใจเหรอว่าอยากจะสร้างความประทับใจให้กับเขา เธอไม่กลัวเหรอว่าท่านประธานอาจจะเป็นตาแก่หัวล้านน่ะ"
"อี๋ ฉันไม่เชื่อหรอก" ซาร่ากระทืบเท้าด้วยความหงุดหงิด "ข่าวลือบอกว่าเขาน่าจะยังหนุ่มจริงๆ นะ"
ตรงข้ามกับการแสดงออกถึงความคาดหวังของซาร่า เจนนี่พูดอย่างจริงจังเป็นที่สุดว่า "การสัมภาษณ์ครั้งนี้เป็นโอกาสครั้งเดียวในชีวิต เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด นี่เป็นครั้งแรกที่ท่านประธานตอบรับการสัมภาษณ์ของสื่อจริงๆ ยอดขายของเราจะต้องสูงเป็นประวัติการณ์แน่ ถ้าเราถ่ายรูปเขาได้"
วิเวียนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
เป็นความจริงที่ประธานของฟินเนอร์กรุ๊ปไม่เคยยอมให้สัมภาษณ์เลยสักครั้ง ตอนนิตยสารแกลมเมอร์ส่งคำเชิญไปครั้งแรก ในตอนแรกเขาปฏิเสธไปตามปกติ ไม่คาดคิดว่าจะมีสายโทรศัพท์โทรกลับเข้ามาเมื่อวาน บอกว่าเขาตอบตกลง
ไม่ต้องบอกเลยว่า ข่าวดีแบบปุบปับทำเอาหัวหน้าบรรณาธิการต่างก็ตกตะลึงกันไป
หลังจากซักซ้อมเนื้อหาการสัมภาษณ์เป็นครั้งสุดท้ายแล้ว วิเวียน ซาร่าและเจนนี่ก็มุ่งหน้าไปยังฟินเนอร์กรุ๊ปพร้อมกับช่างภาพอีกคน
ฟินเนอร์กรุ๊ปตั้งอยู่ในเขตการเงินของเมืองซันไชน์ พวกเธอทักทายพนักงานต้อนรับที่ชั้นหนึ่ง แจ้งเหตุผลที่มา จากนั้นก็ขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นบนสุด
"พวกคุณมาจากนิตยสารแกลมเมอร์ใช่ไหมคะ" เลขานุการเดินเข้ามาต้อนรับทันทีที่พวกเธอเดินออกจากลิฟท์ "คุณนอร์ตันรอพวกคุณอยู่ด้านในค่ะ"
พูดจบก็เดินนำพวกเธอเข้าไปในห้องทำงานของท่านประธาน
วิเวียนชะงักเล็กน้อยตอนได้ยินสิ่งที่เลขาพูด
คุณนอร์ตันเหรอ ใครจะคิดล่ะว่าประธานบริษัทฟินเนอร์กรุ๊ปจะใช้นามสกุลเดียวกับสามีหมาดๆ ของฉันเลย
ก่อนที่พวกเธอจะเข้าไป ซาร่าที่กำลังประหม่ากระตุกแขนเสื้อของวิเวียน แล้วกระซิบว่า "ผมฉันดูดีแล้วใช่ไหม ผมยุ่งหรือเปล่า โอ๊ย ขอให้ไม่ยุ่งเถอะ..."
วิเวียนหัวเราะคิกคักเบาๆ ก่อนจะกระซิบตอบว่า "เธอดูดีแล้ว ผมไม่กระดิกสักเส้น มัน..."
ตอนนั้น เธอบังเอิญเหลือบมองเข้าไปในห้องทำงานขณะที่พูดอยู่ พอเห็นเงาร่างหนึ่งผ่านบานกระจก เธอก็ตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจพร้อมกับเสียงที่แผ่วลงเรื่อยๆ ความคิดที่จะพูดให้ความมั่นใจกับซาร่าหายไปจนหมด
ถึงตอนนั้น สายตาของซาร่าก็จับจ้องไปที่ชายหนุ่มเช่นกัน ทันใดนั้น เธอลืมทุกอย่างเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของตัวเองไปจนหมด อาการตกตะลึงฉายชัดในน้ำเสียงที่ตะกุกตะกักของเธอ "คุณพระช่วย ประธานบริษัทฟินเนอร์กรุ๊ป...เขานั่งวีลแชร์จริงๆ เหรอ"
ก่อนที่วิเวียนจะทันได้พูดอะไร รถวีลแชร์คันนั้นก็เคลื่อนมาเผชิญหน้าพวกเธออย่างช้าๆ
ซาร่าอ้าปากค้าง "โห ขะ...เขาหล่อจัง หล่อกว่าดาราอีก"
เรื่องที่เขานั่งอยู่บนรถวีลแชร์ถูกเสน่ห์อันน่าดึงดูดใจของเขาบดบังไปโดยปริยาย ทำให้ซาร่าเผลอกระซิบออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
วิเวียนไม่ได้ยินที่เธอพูดสักคำ
จุดสนใจของเธออยู่ที่ชายหนุ่มเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลที่ต่างจากเพื่อนร่วมงานของเธอโดยสิ้นเชิง ชั่วขณะนั้น เธอรู้สึกราวกับสมองหยุดสั่งการ เธอจ้องมองเขาด้วยอาการงุนงงสุดขีด
แสงแดดที่สาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบบางเสี้ยวของใบหน้าของเขาในเงามืด ในขณะที่ดวงตาดำขลับของเขายังคงเย็นชาเช่นเคย
เขาคือฟินนิค
ประธานบริษัทฟินเนอร์กรุ๊ปคือฟินนิคอย่างนั้นหรือ


ตอนที่ 4 คุณโสดไหม


การเผยตัวทำให้วิเวียนตะลึงงัน เธอยังไม่ทันได้โต้ตอบ ฟินนิคก็ส่งยิ้มน้อยๆ ให้พวกเธอ "พวกคุณมาจากนิตยสารแกลมเมอร์ใช่ไหม เชิญนั่งครับ"
“วิเวียน ยังยืนอยู่ทำไมน่ะ”
เสียงทักท้วงจากซาร่าดึงวิเวียนออกจากภวังค์ แล้วเธอจึงเดินตามพวกเขาไปยังโซฟา
ฟินนิคเลื่อนรถเข้ามาและหยุดอยู่ตรงหน้าพวกเธอ ซาร่าเอ่ยถามด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นว่า "คุณนอร์ตัน เราเริ่มเลยไหมคะ"
"ครับ" สีหน้าของฟินนิคค่อนข้างเรียบเฉย จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้เหลือบมองวิเวียนแม้แต่แวบเดียว ราวกับทั้งสองเป็นคนแปลกหน้าอย่างสิ้นเชิง
ท่าทีหมางเมินของเขาถึงขั้นทำให้วิเวียนสงสัยว่าชายคนนี้เป็นใครสักคนที่หน้าตาเหมือนกับสามีหมาดๆ ของเธออย่างกับแกะหรือเปล่า
"เอาละค่ะ... คุณนอร์ตันคะ เพราะคุณเป็นบุคคลลึกลับมากจนถึงตอนนี้ ทุกคนอยากรู้ใจจะขาดแล้วค่ะว่าชื่อจริงของคุณคืออะไร" ซาร่าที่กำลังหน้าแดงระเรื่อเริ่มการสัมภาษณ์ "ช่วยบอกชื่อของคุณกับพวกเราได้ไหมคะ"
"ฟินนิค นอร์ตัน" เขาตอบห้วนๆ ทันทีที่คำพูดหลุดจากริมฝีปากบางๆ ของเขา ความหวังของวิเวียนก็พังทลาย
ฟินนิค นอร์ตัน เขาคือสามีหมาดๆ ของฉันจริงๆ
"ฟินนิค นอร์ตัน ชื่อเพราะจังเลยค่ะ" เจนนี่เอ่ยชมพร้อมรอยยิ้ม "ต่อไป เราอยากจะยิงคำถามคุณสักชุดนะคะ"
พูดจบ เจนนี่ก็หันไปส่งสายตาให้วิเวียน เมื่อเห็นว่าวิเวียนยังคงมองฟินนิคอย่างเหม่อลอย เธอจึงแอบหยิกหญิงสาวที่กำลังฝันกลางวันไปหนึ่งที
"โอ๊ย" วิเวียนอุทานออกมาอย่างเจ็บปวด พร้อมกลับฟื้นคืนสติ
ก่อนมาที่นี่ พวกเธอตกลงกันว่าจะให้วิเวียนเป็นคนสัมภาษณ์ ส่วนซาร่าและเจนนี่เป็นผู้จดบันทึก
พอเห็นสายตาตำหนิของเจนนี่ วิเวียนก็รีบข่มอารมณ์ขุ่นเคืองของตัวเองลง แล้วปรับท่าทีให้สมกับเป็นมืออาชีพ "คุณนอร์ตัน คุณเป็นชาวเมืองซันไชน์แต่ดั้งเดิมใช่ไหมคะ"
"ผมว่าจะบอกว่าผมเป็นลูกครึ่งก็ได้" ตรงกันข้ามกับวิเวียนที่ตื่นตระหนกไปก่อนหน้านี้ ฟินนิคกลับเยือกเย็นเหมือนน้ำแข็ง "ผมเกิดที่นี่ แต่ไปอยู่ที่ประเทศ A ตอนยังเด็กมากน่ะครับ"
พอได้ยินคำพูดของเขา วิเวียนรู้สึกเหมือนอยากจะระเบิดหัวเราะออกมาทันที ผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอนั้นน่าจะเป็นสามีของเธอ แต่เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย
แต่ตอนนี้เธอกำลังทำงานอยู่ ดังนั้นเธอจึงเลิกคิดฟุ้งซ่าน เธอดำเนินการสัมภาษณ์ต่อ แล้วถามคำถามตามรายการที่พวกเธอเตรียมมาก่อนหน้านี้
ต่อจากนั้นการสัมภาษณ์เป็นไปอย่างราบรื่น ฟินนิคค่อนข้างจะให้ความร่วมมือ ถึงแม้จะเย็นชาไปหน่อย แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ไม่ใช่คนไร้เหตุผลและใจร้ายเหมือนในข่าวลือที่เล่ากันมาเลย
การสัมภาษณ์ดำเนินไปเรื่อยๆ วิเวียนลืมไปชั่วขณะว่ากำลังสัมภาษณ์สามีตัวเองอยู่ แต่พอเธอเห็นคำถามต่อไป คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ห้องทำงานนั้นตกอยู่ในความเงียบแบบกระอักกระอ่วน
"วิเวียน มัวทำอะไรอยู่" ซาร่ากระทุ้งศอกใส่เธอ
เธอปั้นรอยยิ้มเป็นเชิงขอโทษ "ต้องขออภัยด้วยค่ะ คุณนอร์ตัน คำถามต่อไปค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัว และฉันมั่นใจว่าผู้อ่านหญิงจะต้องสนใจคำตอบของคุณแน่นอนค่ะ" วิเวียนข่มกลั้นความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังสุมอยู่ในอกของเธอไว้ ก่อนจะฝืนตัวเองให้ถามออกไป "คุณยังโสดไหมคะ คุณนอร์ตัน"
วิเวียนแทบจะกัดลิ้นตัวเองกับคำถามโง่เง่าที่หลุดออกมาจากปากของเธอ
โอ๊ย ถ้าซาร่ากับเจนนี่ไม่ได้อยู่ที่นี่ตอนนี้ ฉันคงไม่ต้องถามคำถามที่รู้คำตอบอยู่แล้วหรอก
เธอเงยหน้าเหลือบมองเขาไปในดวงตาของฟินนิคด้วยความประหม่า เธอสาบานได้เลยว่าเธอเห็นแววขบขันเล็กน้อยฉายวูบผ่านดวงตาไร้อารมณ์ของเขา
แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับหายวับไปอย่างรวดเร็วเหมือนตอนปรากฏให้เห็น ปล่อยให้สงสัยว่าหรือเธอจะคิดไปเองกันแน่
เขาเผยอปากแล้วพูดเนิบๆ ว่า "อืม...แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ คุณผู้หญิง"


ตอนที่ 5 แหวนสวยนะ


วิเวียนใจสั่นระรัวกับคำตอบของเขา
ฉันคิดว่ายังไงน่ะเหรอ ฉันไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนั้นด้วยซ้ำ
แม้ในใจเธอจะคิดแบบนั้น ทว่ายังคงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มน้อยๆ "ฉันขอเดานะคะ...ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งอย่างคุณ ฉันว่าต้องแต่งงานแล้วแน่นอน ฉันพูดถูกไหมคะ คุณนอร์ตัน"
จากนั้นเธอก็หลบสายตาเขา พร้อมกับความรู้สึกผิดที่คืบคลานเข้ามาในใจ จากนั้นครู่เดียวเธอก็ตำหนิตัวเองที่รู้สึกแบบนั้น
ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วย เขาต่างหากที่ปิดบังตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง แกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉัน นี่ฉันไม่ได้ผิดสักหน่อย
ฟินนิคที่นั่งตรงข้ามสังเกตเห็นอาการที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยของเธอ เพราะอารมณ์ขัดแย้งในตัวเองปรากฏชัดอยู่เต็มใบหน้าของหญิงสาว
ริมฝีปากของเขากระตุกเล็กน้อยจนเกือบจะมองไม่ออก
ก่อนการสัมภาษณ์ครั้งนี้ เขารู้อยู่แล้วว่าเธอคือคนที่จะมาสัมภาษณ์เขา อันที่จริง อาจจะถูกต้องกว่าที่จะบอกว่าเขาตอบตกลงเพียงเพราะรู้ว่าเธอทำงานที่นิตยสารแกลมเมอร์
เธอคิดว่าวันนี้เป็นการพบกันครั้งแรกระหว่างเขาและเธอ แต่ที่จริง เขาเห็นเธอตอนไปนัดบอดเมื่อสามวันก่อนแล้ว
ในตอนนั้น เขาค่อนข้างมั่นใจว่าไม่เคยเจอเธอมาก่อน แต่ไม่รู้ทำไมเธอกลับดูเป็นคนคุ้นเคยอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับเขา ดังนั้นเขาจึงสั่งให้คนของเขาไปสืบเรื่องเธอ
เป็นความบังเอิญโดยแท้ที่เขาพบเธออีกครั้งที่สำนักงานกิจการพลเรือนเมื่อเช้านี้ ผู้ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยไม่มา ซ้ำยังโทรมาทำให้เธออับอาย
นึกถึงข้อมูลที่คนของเขาหามาได้ เขาจึงเข้าหาเธอและเสนอให้พวกเขาแต่งงานกันแทน
เขาโยนคำถามก่อนหน้านี้ให้เธอตอบ เพราะอยากจะแหย่เธอเล่น ไม่ได้คาดคิดว่าเธอจะประหม่าและเขินอายกับเรื่องนั้น มันไม่ตรงกับสิ่งที่เขารู้เรื่องราวในอดีตของเธอเลย
เขาเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งเฉยไม่เปลี่ยนแปลงว่า "ครับ ผมแต่งงานแล้ว ความจริงเพิ่งแต่งไปเมื่อสองสามวันก่อนนี่เอง"
ขณะพูดคำนั้น เขาขยิบตาใส่วิเวียน ทำให้หญิงสาวใจเต้นแรงยิ่งกว่าเดิม
ก่อนที่เธอจะได้โต้ตอบ ซาร่าก็ส่งเสียงคร่ำครวญเกินเหตุออกมาด้วยความผิดหวัง
"คุณนอร์ตัน คุณแต่งงานแล้วเหรอคะ โหย ผู้อ่านสาวๆ ของเราจะต้องอกหักกันเป็นแถบๆ" ซาร่าถอนหายใจอย่างเศร้าสร้อย ก่อนจะตื่นตัวและกระฉับกระเฉงขึ้นมา "ฉันอยากรู้จังเลยค่ะว่าภรรยาของคุณนอร์ตันเป็นผู้หญิงแบบไหน เธอเป็นลูกสาวจากหนึ่งในตระกูลที่ทรงอิทธิพลหรือเปล่าคะ"
"ซาร่า" วิเวียนดึงแขนของหญิงสาวช่างสอดรู้สอดเห็น นั่นมันไม่ได้อยู่ในรายการคำถามที่พวกเราเตรียมมาสักหน่อย มันเป็นเรื่องส่วนตัวเกินไปแถมค่อนข้างหยาบคายอีกด้วย
ค่อยยังชั่วที่ฟินนิคไม่ได้หัวเสีย เขายิ้มน้อยๆ และเลือกที่จะเงียบต่อไป
"เอาล่ะ คงถามเรื่องส่วนตัวของคุณนอร์ตันเพียงเท่านี้ ไปที่คำถามเกี่ยวกับบริษัทบ้างดีกว่า" เพราะไม่อยากวนเวียนอยู่กับหัวข้อการแต่งงานนานไปกว่านี้ วิเวียนรีบจึงดึงการสัมภาษณ์ให้กลับเข้าเรื่อง
คำถามต่อๆ ไปนั้นตรงประเด็น เพราะพวกเธอเน้นแต่เรื่องงานของเขาทั้งหมด ในที่สุดการสัมภาษณ์ก็จบลงด้วยดี
"ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สัมภาษณ์กับทางนิตยสารแกลมเมอร์ครับ" ฟินนิคจับมือพวกเธอทีละคนหลังจบการสัมภาษณ์ เมื่อถึงคราวของวิเวียน เขาหยุดชั่วครู่ สายตาของชายหนุ่มจ้องไปยังแหวนที่เธอสวมอยู่ ริมฝีปากของเขาโค้งเป็นรอยยิ้มล้อเลียน "แหวนสวยนะครับ"
วิเวียนแก้มร้อนผ่าวขณะที่ใบหน้าของเธอแดงขึ้น หญิงสาวชักมือกลับและเดินตามคนอื่นๆ ออกจากห้องทำงาน
ความตึงเครียดที่ไหลพล่านอยู่ในตัวเธอหายไปทันทีที่พวกเธอออกมาจากห้อง
ซาร่าที่อยู่ข้างเธอกรีดร้องอย่างดีอกดีใจ "คุณพระ ฉันได้จับมือกับประธานฟินเนอร์กรุ๊ปด้วย ฉันจะไม่ล้างมือทั้งอาทิตย์เลย"
วิเวียนหัวเสียจนอยากจะตบตีอีกฝ่าย เมื่อเห็นเลขาของฟินนิคเดินมาหาพวกเธอ พร้อมกับกล่องเล็กๆ หลายใบที่ห่อของขวัญหลายชั้นในมือ
"สวัสดีค่ะ นี่เป็นของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแสดงความขอบคุณจากท่านประธานของเราให้กับพวกคุณทุกคนค่ะ โปรดรับไว้ด้วยนะคะ"
เมื่อรับกล่องหนึ่งในนั้นมา ซาร่าก็เป็นปลื้มยิ่งกว่าเดิม "โอ้โห เราได้รับของขวัญด้วย คุณนอร์ตันช่างมีน้ำใจจัง"
เธอเปิดกล่องอย่างกระตือรือร้น เผยให้เห็นผ้าพันคอผ้าไหมของชาแนลผืนหนึ่งอยู่ข้างใน
"ให้ตายเถอะ ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นถึงท่านประธาน ความใจกว้างของเขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ" เธอพูดไม่หยุด "ดูสิ เราได้กันคนละสีด้วย วิเวียน รีบเปิดของเธอเร็วๆ สิ ฉันอยากเห็นว่าของเธอเป็นสีอะไร"
วิเวียนไม่ได้อยากเปิดกล่อง แต่ซาร่าตื๊อไม่เลิก หญิงสาวทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงเปิดฝากล่องขึ้น
เมื่อเหลือบมองสิ่งที่อยู่ในนั้น ใบหน้าเธอถอดสี เธอรีบปิดฝาอย่างแรง ก่อนที่คนอื่นจะได้เห็นว่ามันคืออะไร

💟อ่านต่อไป👉

โพสท์โดย: kaewtaphrombut
อ้างอิงจาก: นิยายรอบประเภท
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
kaewtaphrombut's profile


โพสท์โดย: kaewtaphrombut
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
เพื่อนเจ้าสาวจูบเจ้าบ่าวกลางเวที..งานนี้ช็อกกันทั้งงานงานสบาย เงินดี ไม่เหนื่อย พระปลอมโดน พญานาคแผลงฤทธิ์เงินดิจิทัล 10,000 บาท เฟส 3 มาแน่! คนทั่วไปรับผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระตุ้นเศรษฐกิจปี 2568เด็ก12 พ่อแม่พามาจัดงานวันเกิด พร้อมน้อง6 ขวบ แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้องต้องสูญเสียพ่อแม่ น้องออกมาโพสว่า ”ไปไม่ลาเลยน่ะพ่อแม่ ไปสบายแล้วน่ะจากไปไม่มีวันกลับมามะเร็งลำไส้ใหญ่ โรคร้ายที่มากับเมนูอร่อยเคล็ดลับ บำรุงผิวหน้าหนาว แก้ปัญหา “ผิวแตก” ดูแลผิวให้ชุ่มชื้นตลอดวันผักที่มีแคลเซียมมากกว่านม 4 เท่า! ค้นพบแหล่งแคลเซียมธรรมชาติที่ขายดีตามตลาดแต่ยังน้อยคนรู้จักจะโดนจับอยู่แล้ว! สาวฝรั่งยังจะขอเอ้าท์ดอร์ให้เสร็จก่อนจะโดนจับ!ชงเอง ถามเอง ตอบเอง! ชา VS กาแฟ อะไรดีต่อใจและไม่ทำร้ายร่างกาย? (ฉบับคนติดเครื่องดื่ม)ช่างสักลาย มืออาชีพ แต่ผลงานลายเส้นเหมือนเด็กอนุบาลไม่ตรงปก ขู่ทำร้ายร่างกาย ชาวเน็ตวิจารณ์ยับ ฝีมือ กากเภสัชกรเผย!..อาหารเสริมวิตามิน 3 ชนิดที่คุณควรหยุดกิน!อดนอน 15 วัน! เล่าเรื่องหลอนเกิดอะไรขึ้นจากการทดลองสุดสยอง?
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ชงเอง ถามเอง ตอบเอง! ชา VS กาแฟ อะไรดีต่อใจและไม่ทำร้ายร่างกาย? (ฉบับคนติดเครื่องดื่ม)อดนอน 15 วัน! เล่าเรื่องหลอนเกิดอะไรขึ้นจากการทดลองสุดสยอง?สาวรับเก็บอึหมา รายได้ไม่ธรรมดาปีละ 8.5 ล้าน..ลูกค้าเยอะจนต้องขยายกิจการเด็ก12 พ่อแม่พามาจัดงานวันเกิด พร้อมน้อง6 ขวบ แต่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้น้องต้องสูญเสียพ่อแม่ น้องออกมาโพสว่า ”ไปไม่ลาเลยน่ะพ่อแม่ ไปสบายแล้วน่ะจากไปไม่มีวันกลับมา
กระทู้อื่นๆในบอร์ด นิยาย เรื่องเล่า
เสียงกระซิบในความมืดบ้านหลังเก่าโบราณสถานอายุกว่า 1,300 ปี แห่งไซบีเรีย ซึ่งเต็มไปด้วยปริศนาที่รอคำตอบโบสถ์เซนต์แมรี่แห่งไซออน, เอธิโอเปีย
ตั้งกระทู้ใหม่