“รับน้องข้ามฟาก” จุดเริ่มต้นประเพณีการรับน้องในไทย!
งานรับน้องใหม่ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ศิริราช เมื่อพ.ศ. ๒๔๗๕ และนับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีประเพณีนี้เกิดขึ้น หัวใจของงานรับน้องใหม่ คือ การสร้างความสมัครสมานสามัคคีให้กับนักศึกษาแพทย์ โดย นักศึกษาแพทย์อวย เกตุสิงห์ เลขานุการสโมสรนักศึกษาแพทย์ในขณะนั้น เป็นผู้เสนอให้จัดงานขึ้นเพื่อต้อนรับนักเรียนแพทย์ที่สำเร็จเตรียมแพทย์ชั้นปีที่ ๒ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งจะข้ามฟากมาเรียนแพทยศาสตร์ต่ออีก ๔ ปีที่ศิริราช ให้มาพร้อมกันที่ท่าพระจันทร์ รุ่นพี่จะแจวเรือจ้างข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปรับมาขึ้นที่ท่าหอชาย รุ่นพี่จะรอต้อนรับ จากนั้นพากันไปกราบพระพุทธรูปที่อยู่หน้าหอพัก รุ่นน้องแนะนำตัวกับรุ่นพี่ จากนั้นร่วมรับประทานอาหาร งานรับน้องใหม่สร้างความประทับใจให้แก่ทุกคน
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยังสืบต่อประเพณีรับน้องใหม่มาทุกปี และปัจจุบันเรียกติดปากกันว่า “งานรับน้องข้ามฟาก” นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ ๒ จะนั่งเรือข้ามฟากมายังท่าน้ำโรงพยาบาลศิริราช คณบดีและอาจารย์ผู้ใหญ่จะรับน้องขึ้นจากเรือด้วยการดึงมือพร้อมรอยยิ้มแห่งไมตรี น้องใหม่จะไปกราบพระพุทธรูป ลอดซุ้มรับขวัญจากรุ่นพี่ จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงพิธีที่สำคัญยิ่งคือ การกล่าวปฏิญาณตนต่อหน้าพระรูปสมเด็จพระบรมราชชนก
…ข้าพเจ้า จักไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว มีความเอ็นดู เป็นเบื้องหน้า บำเพ็ญประโยชน์ เกื้อกูลแก่ผู้อื่น ซึ่งประสบทุกข์ ไม่สามารถนิ่งดูดายได้ เพราะกรุณา
ข้าพเจ้า จะละกรรมอันชั่วร้าย และจักตั้งอยู่ในธรรม ของสัปบุรุษทุกเมื่อ ไม่เป็นผู้เห็นแก่อามิสมุ่งแต่จะเกื้อกูล
ข้าพเจ้า จะศึกษาขนบธรรมเนียมและจรรยาแพทย์ และปฏิบัติตนตามแนวทางที่แพทย์จะต้องปฏิบัติ เพื่อจะได้เป็นแพทย์ที่ดีต่อไปในอนาคต… (คัดบางส่วนจากคำปฏิญาณตนของนักศึกษาแพทย์)
จากนั้นจะเข้าสู่พิธีบายศรีสู่ขวัญและงานเลี้ยงรื่นเริงในช่วงค่ำ
ศ. นพ. อวย เกตุสิงห์ (ศิริราช รุ่น ๓๘) ได้กล่าวไว้ว่า “เรียนร่วมสำนัก รักเหมือนร่วมแม่” ; ความเป็นพี่น้องนั้นสำคัญ และยิ่งเป็นพี่น้องร่วมครรภ์มารดาเดียวกันด้วยแล้ว ความผูกพันก็ยิ่งแน่นแฟ้น
ความเป็น “รุ่นพี่” ของชาวศิริราชไม่ได้เกิดขึ้นด้วยอำนาจ แต่เกิดขึ้นด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และไมตรีจิตที่มีให้กับ “รุ่นน้อง” อย่างคนที่อยู่ร่วมในครอบครัวเดียวกัน และ “ความเคารพ” ของรุ่นน้องที่มีต่อรุ่นพี่ก็ไม่ได้เกิดจากความหวาดกลัว หากแต่เกิดจากความรู้สึกเคารพรักในใจอย่างแท้จริง “ซีเนียริตี้” ของศิริราช เป็นความผูกพันของรุ่นพี่ที่มีต่อรุ่นน้อง โดยที่รุ่นพี่ตระหนักรู้อยู่เสมอว่า เรามีรุ่นน้องให้คอยดูแลห่วงใย คอยประคับประคองให้น้องก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตได้อย่างราบรื่น ไม่อ้างว้างเดียวดายดังคำกล่าวที่ว่า “ที่ศิริราช พี่จะคอยดึง เพื่อนจะประคอง น้องจะช่วยดัน” … นพ.อดิศร รัตนโยธา (ศิริราชรุ่น๑๑๕)
อ้างอิงจาก: https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0vN3TXjVjyq7txfPqfJ2JSkh8JA4mSoSA6fuo1gYykjfmTSM2Dpws4D2svpDWso7Zl&id=100044739000097&mibextid=Nif5oz
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
'ฮุนเซน' ควันออกหู หลังลาวฉวยโอกาสขายของตัดหน้า แย่งสัมปทานจีน
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
เลขเด็ด "หวยไทยรัฐ" งวดวันที่ 16 ธันวาคม 68 มาแล้ว!..รีบส่องเลย ก่อนหมดแผง!!
ซาอุฯ สั่ง "มันอัดเม็ดไทย" เพิ่ม 30,000 ตัน! เกษตรกรเฮลั่น
นี่คือสิ่งมีชีวิตที่สูงที่สุดและใหญ่ที่สุดในโลก Redwood และ Sequoia
เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับของจีน ทดสอบบินและยิงกระสุนจริงครั้งแรกแล้ว
‘ดร.ธรณ์’ แนะนำ ถ้าจะย้ายที่อยู่ จังหวัดไหนเหมาะที่สุด ที่ไม่มีมลพิษของฝุ่นและภัยพิบัติทางธรรมชาติ



