ทำไมสุนัขกับแมวจึงไม่ถูกกัน
สุนัขกับแมวเป็นสัตว์ที่มีลักษณะนิสัยไม่แตกต่างกัน
แม้ว่าจะเป็นสัตว์ที่ชอบเที่ยวเหมือนกัน แต่สำหรับตัวของสุนัขนั้นจะชอบเที่ยวออกจากบ้านแค่เฉพาะในเวลากลางวันและไปเพียงไม่นาน ส่วนใหญ่ก็จะรีบกลับเข้าบ้านมาอยู่กับเจ้าของเพื่อนั่งพักผ่อนคอยตรวจดูความผิดปกติภายในบ้านเหมือนยามหากได้กลิ่นหรือได้ยินเสียงผิดปกติก็จะเห่าเรียกเจ้าของทันที แม้แต่เวลาที่มีแขกมาบ้าน รักสันโดษ
ส่วนแมวมักจะเป็นสัตว์ที่ชอบเที่ยวนู่นเที่ยวนี่ตลอดเวลาหากเราไม่ได้เลี้ยงภายในบ้าน รักอิสระสูง แต่พอบทจะได้กลับมาหาเจ้าของนี่ก็คลอเคลียให้เขาชอบเป็นที่หนึ่งเลย เรียกได้ว่าเป็นสัตว์ที่ขี้อ้อนเก่ง ล่าสัตว์เล็กดี แต่ก็ขี้กลัวง่ายกว่าสุนัขมาก และเจ้าเล่ห์สุด ๆ จึงทำให้สัตว์ที่มีความซื่อตรงกับสัตว์เจ้าเล่ห์อย่างสุนัขกับแมวมักจะไม่ถูกกันสุนัขกับแมวมีขนาดตัวคนละแบบกัน
แม้ว่าภาพรวมของสุนัขกับแมวจะดูคล้ายกัน แต่ความจริงแล้วสัตว์ทั้งสองชนิดนี้มีลักษณะร่างกายที่ต่างกันมาก โดยสุนัขจะมีลำตัวที่อวบกว่าแมวและดูมีเนื้อมีหนังที่แข็งแรงกว่า ตัวก็สูงสง่า มีสายตาที่ว่องไว แตกต่างกับแมวที่ตัวเตี้ย มีขนาดเล็ก กล้ามเนื้อลำตัวก็ดูผอมบาง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็สามารถใช้ความที่ขาเล็กและตัวเล็กกว่าวิ่งได้ว่องไวราวกับเสือจนหลายครั้งสุนัขที่ต้องการไล่จับสัตว์ตัวเล็กกว่าก็ตามจับไม่ทัน ด้วยตามธรรมชาติของสัตว์ใหญ่นั้นมักจะมองสัตว์เล็กเป็นเหมือนเหยื่ออยู่แล้วจึงทำให้สุนัขกับแมวไม่ถูกกันเท่าไหร่
สุนัขกับแมวมักมีความอิจฉาในรักที่เจ้าของมีให้เสมอ
ในกรณีที่บ้านหลังหนึ่งเลี้ยงสุนัขกับแมวไว้คู่กันอาจจะทำให้เกิดการอิจฉากลัวว่าเจ้าของจะแย่งความรักที่มีให้ต่อตัวเองได้
และยิ่งเป็นสัตว์คนละชนิดอยู่แล้วจึงทำให้สุนัขกับแมวไม่ถูกกัน มักจะไล่ล่ากันบ่อย ๆ ส่วนแมวก็มักจะเป็นฝ่ายร้องยั่วสุนัขให้โมโหบ่อย ๆ ตรงนี้เจอบ่อยมากจากประสบการณ์ตรง เรียกได้ว่าหากไม่เกลียดแบบแค้นก็เป็นการเกลียดหน้ากันเฉย ๆ