เวียดนาม3:เดินย่าน Old Quarter
ออกจากวัดง็อก เซิน ก็ผ่านอนุสาวรีย์ Martyrs’ Monument ผู้สละชีพในการต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระของประเทศอย่างกล้าหาญ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากโรงละครหุ่นกระบอกน้ำ (Municipal Water Puppets) ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดี ว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของเวียดนาม จากนั้นก็เริ่มเดินตะลุยย่านต่างๆ ใช้เวลาไม่นาน ก็เริ่มคุ้นเคยกับการเดินในย่าน Old Quarter แห่งนี้ คือเริ่มหูตาไวก่อนข้ามถนน รู้แล้วว่าสามารถมองหาชื่อถนนได้จากป้ายชื่อร้านซึ่งจะมีชื่อถนนกำกับอยู่ด้วย เริ่มเรียนรู้วิธีการปฏิเสธใช้บริการพี่ๆมอเตอร์ไบค์อย่างสุภาพและด้วยรอยยิ้ม จะได้ไม่ถูกพี่ๆเค้าตามตื้อตลอดทาง รู้วิธีการกล่าวทักทายและปฏิเสธคำเชื้อเชิญอุดหนุนสินค้าจากร้านค้าต่างๆอย่างไม่เสียน้ำใจกัน
กิจกรรมการค้าขายสินค้าประเภทต่างๆถูกแบ่งเป็นย่านอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นย่านขายเสื้อผ้า เครื่องประดับ โคมไฟ เครื่องดนตรี ขนม กระดาษ สมุนไพร ฯลฯ สินค้าจากย่านต่างๆเหล่านี้เพิ่มสีสันและความหลากหลายให้สามารถเดินทอดน่องชมได้อย่างเพลินตาอยู่ไม่น้อย สิ่งหนึ่งที่ประทับใจมาก คือแม่ค้าดอกไม้สดในชุดท้องถิ่นพร้อมหมวกโนนลา (หมวกเวียดนาม) นำดอกไม้ใส่ตะกร้าหรือกระบุงใบใหญ่ติดไว้ที่หน้ารถและท้ายรถจักรยาน ขี่แร่ขายกันทั่วไป มันเป็นภาพเรียบๆง่ายๆ แต่ดึงดูดให้ฉันยกกล้องถ่ายรูปขึ้นมาบันทึกภาพได้ทุกครั้งที่เห็น แม่ค้าที่ย่านขายขนมบอกว่า คนที่นี่เค้านิยมนำดอกไม้ไปไหว้พระกันทุกวัน แม่ค้าขี่จักรยานขายดอกไม้จึงมีให้เห็นอยู่ทั่วไปและตลอดทั้งวัน
มองผ่านเข้าไปภายในร้านค้า แทบทุกร้านต้องมีรูปของท่านโฮจิมินห์วีรบุรุษของเวียดนาม ประดับด้วยธงชาติเวียดนามตั้งอยู่ เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและความระลึกถึงท่าน ชาวเวียดนามนับถือท่านมากจากการอุทิศชีวิตในการรวบรวมประเทศให้เป็นปึกแผ่น เรียกได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจคนทั้งชาติและเป็นสิ่งกระตุ้นเตือนถึงความรักชาติได้ดียิ่ง ทราบประวัติและเรื่องราวของท่านอย่างลึกซึ้งแล้ว ขอน้อมเคารพและชื่นชมท่านร่วมกับชาวเวียดนามด้วยอีกคน
กลิ่นโชยหอมของกาแฟสะกดให้ต้องหยุดพักชิมกาแฟที่ย่านร้านกาแฟร้านหนึ่งริมถนน P Hang Buom ไม่พลาดแน่นอน สำหรับกาแฟเวียดนามที่ย้ำในสมุดบันทึกตัวใหญ่ว่า “เวียดนามส่งออกกาแฟเป็นอันดับต้นๆของโลก” นอกจากรสชาติที่ไม่ทำให้ผิดหวังแล้ว ยังประทับใจกับการต้อนรับลูกค้าของทางร้านที่เรียบง่ายแต่จริงใจ ด้วยเก้าอี้เล็กนั่งพื้นหนึ่งตัวพร้อมถ้วยกาแฟ ที่เพียงแค่เข้าไปกดน้ำร้อนในบ้าน แล้วเจ้าของร้านก็ลากเก้าอี้นั่งพื้นอีกตัวมานั่งคุยด้วย ไม่นาน “ไบค์” เด็กชายตัวอ้วนกลมพร้อมรอยยิ้มใสๆก็ออกมานั่งด้วย ไบค์น่ารักมาก ไม่มีท่าทีกลัวคนแปลกหน้าเลย ยังเต๊ะท่าเป็นนายแบบรุ่นจิ๋วให้ถ่ายรูปอีกด้วย แล้วไบค์ก็ค่อยๆขยับมานั่งตักฉัน ทั้งๆที่กาแฟหมดไปนานแล้ว แต่ฉันก็นั่งจ้ออยู่กับเจ้าของร้านและไบค์เกือบชั่วโมง ตั้งแต่วันนั้น ฉันกลายเป็นลูกค้าประจำที่ต้องแวะมาให้น้องไบค์นั่งตักทุกวันที่อยู่ฮานอย
ยังไม่ทันหมดครึ่งวัน ก็เดินตามแผนที่ Walking Tour เยี่ยมชมย่านและสถานที่ที่น่าสนใจต่างๆจนหมด ทำให้รู้จักย่านที่พักนักท่องเที่ยวราคาถูกที่มีทั้งแบบเกสเฮ้าส์ โรงแรม และห้องพักรวมหรือที่เรียกกันว่า “Dormitory” อีกหลายแห่ง
ราคาห้องพักน่าสนต่อคืนของโรงแรม “Real Darling Cafe Guest House” ที่พบจากข้อมูลที่มีอยู่ ทำให้ฉันตาโตรีบเร่งฝีเท้าเดินหาโรงแรมแห่งนี้ให้ได้ มาเจอโรงแรมแห่งนี้ที่ถนน Pho Hang Quat ราคาและคุณภาพของห้องพักสมราคาเป็นที่พอใจดังที่คาดไว้ แล้วยังได้ทราบข้อมูลแพ็คเก็จทัวร์ซึ่งพ่วงเป็นอีกกิจการหนึ่งของโรงแรมด้วย จริงๆแล้ว ไม่ใช่แค่โรงแรมอย่างเดียวที่พ่วงกิจการบริษัททัวร์ ตลอดไปจนถึงบริการจำหน่วยตั๋วเดินทางทุกประเภทในลักษณะนี้ ทั้งร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกใหญ่ๆก็พ่วงธุรกิจลักษณะนี้ไว้ด้วยเช่นกัน เป็นอันครบวงจรบริการพร้อมสรรพสำหรับนักท่องเที่ยว
นั่งดูโปรแกรมแพ็คเก็จทัวร์อยู่สักพัก ชื่อ “ฮาลองเบย์ เมืองเว้ และเมืองฮอยอัน” สะกิดให้ฉุดคิดขึ้นมาว่า ถึงเวลาต้องวางแผนการเดินทางให้ตัวเองได้แล้ว เหมือนเป็นธรรมเนียมว่า มาประเทศเวียดนามทางตอนเหนือก็ต้องไปอ่าวฮาลอง ไม่ว่าแพ็คเก็จไหนก็ต้องมีโปรแกรมไปอ่าวฮาลองบรรจุอยู่ด้วย และจากการเป็นเป็นมรดกโลกที่องค์กรยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนให้อ่าวฮาลองเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติในปี 2537 จึงเป็นธรรมเนียมที่โน้มน้าวความสนใจได้ไม่น้อย ตัดสินใจซื้อทัวร์ไปฮาลองเบย์ที่ออกเดินทางในวันรุ่งขึ้นเป็นเวลา 2 วัน 1 คืน รวมค่าตั๋วรถ เรือ อาหาร ที่พักตลอดการเดินทางไว้แล้ว ต่อด้วย City Tour 1 วันในวันถัดมาหลังกลับมาจากฮาลองเบย์ รวมค่ารถ อาหารกลางวันและค่าตั๋วเข้าชมสถานที่ต่างๆไว้แล้วเช่นกัน จบด้วยจองตั๋วรถโดยสารประจำทางไปเมืองเว้
ระหว่างทางเดินกลับโรงแรม ลองเปลี่ยนเส้นทางเดินเข้าไปในซอยเล็กๆแต่ไม่ถึงกับเปลี่ยวจนเกินไปเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ ผ่านสตูดิโอวาดภาพเหมือนเล็กๆแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ชื่นชมศิลปะเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว จึงหยุดแอบดูพี่ๆเค้าแสดงฝีมือด้วยเทคนิคต่างๆ มีทั้งสีน้ำ สีน้ำมัน สีชอล์คและอีกหลายเทคนิค ฝีมือดีมากทีเดียว ร้านขายผลงานศิลปะที่ให้พบเห็นหลายร้านในย่าน Old Quarter แห่งนี้ ยืนแอบดูเพลินๆจนเมื่อยขา กลับไปพักผ่อนที่ห้องดีกว่า วันนี้เดินมาทั้งวันแล้ว...แอบนึกอิจฉาพี่ๆศิลปินเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลเรื่องค่าตอบแทนหรือความชอบความสามารถส่วนตัว ก็ได้ฝากฝีมือผลงานศิลปะสร้างสรรค์จรรโลงโลกดีๆไว้ จริงซิ แล้วเราล่ะ...ได้ฝากอะไรดีๆให้กับโลกใบนี้บ้างแล้วหรือยัง?