ออโรรา ปรากฏการณ์มหัศจรรย์ ของธรรมชาติ
มีหลายต่อหลายคน ไฝ่ฝัน ที่จะไปล่า แสงเหนือ ขอให้มีโอกาสได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาตินี้สักครั้ง ก็ยังดี ซึ่งบางคนขนาดบินข้ามน้ำข้ามทะเลไป แต่กลับพลาดโอกาส ซึ่ง สภาพอากาศในแถบขั้วโลกมักมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแบบที่คาดการณ์ไม่ได้อยู่บ่อยครั้ง
แสงเหนือ หรือ ออโรรา (Aurora) เป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์บนฟากฟ้า แถบขั้วโลกเหนือ มีลักษณะเป็นแสงสวยงามเรืองรองสะท้อนอยู่บนท้องฟ้า จนถูกขนานนามว่าเป็น "การเต้นรำของแสงสี" (The Bright of Dancing Lights) หรือ "การเริงระบำของจิตวิญญาณ" (Dance of The Spirits)
ประเทศที่นักล่าแสงเหนือ ถวิลหานี้อยู่บริเวณแถบขั้วโลก เช่น ไอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวีเดน นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย มักเกิดขึ้นในแถบประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตละติจูดสูง ซึ่งก็คือ บริเวณขั้วโลกที่มีอุณหภูมิต่ำ อากาศหนาวเย็น ซึ่งหากเกิดบริเวณใกล้ขั้วโลกเหนือ จะเรียกว่า แสงเหนือ (Aurora borealis) และบริเวณใกล้ขั้วโลกใต้ เรียกว่า แสงใต้ (Aurora australis)
แสงเหนือ-แสงใต้ เกิดจากอนุภาคอิเล็กตรอน โปรตอน หรือไอออนอื่น ๆ ที่มีพลังงานสูงถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์ขณะกำลังโคจร ซึ่งอนุภาคเหล่านี้จะเคลื่อนที่มากับลมสุริยะและเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลก เมื่ออนุภาคเคลื่อนที่ผ่านชั้นบรรยากาศในระดับความสูงประมาณ 80 – 1,000 กิโลเมตร จากพื้นดินจะชนเข้ากับโมเลกุลของก๊าซที่อยู่ในชั้นบรรยากาศ และปลดปล่อยพลังงานออกมาในรูปของแสงที่เรามองเห็นเป็นสีต่าง ๆ ซึ่งสีของแสงที่ปรากฏให้เห็นบนท้องฟ้าจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับว่าอนุภาคดังกล่าวชนกับโมเลกุลของก๊าซในช่วงระดับความสูงใด
รวมถึงชนิดของก๊าซที่พบในชั้นบรรยากาศนั้น ๆ ด้วย โดยก๊าซออกซิเจนจะให้แสงสีเขียวหรือสีแดง ไนโตรเจนให้แสงสีน้ำเงินหรือสีม่วง ส่วนฮีเลียมให้แสงสีฟ้าหรือสีชมพู
แสงเหนือ – แสงใต้ เกิดขึ้นตลอดทั้งปี หากแต่ว่าบริเวณขั้วโลกมีช่วงเวลากลางวันกลางคืนที่สั้น-ยาว ไม่เท่ากัน ดังนั้นการล่าแสงเหนือ-แสงใต้ ที่ดีจึงต้องมีช่วงเวลาที่เหมาะสมเพื่อเพิ่มโอกาสการพบมากที่สุดด้วย
ขอบคุณข้อมูลดีๆ บางส่วนจาก wikipedia