อำพรางรัก ตอนที่ 2 คดีฆาตรกรรมนวลฉวี
ตำนานรักแสนเศร้าของเราสามคน สะพานนวลฉวี
คดีฆาตรกรรมอำพรางศพที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อนที่คนรุ่นเก่า ๆ ยังจำได้เรื่องราวความรักของผู้หญิงที่ชื่อ นวลฉวีกับนายแพทย์ อธิป ผู้ชายที่ทำให้ชื่อของเธอเป็นที่รู้จักในนามของ สะพานนวลฉวี
นวลฉวีคือใคร
นวลฉวี เพชรรุ่ง เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลามคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลเชียงงา อำเภอบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี มีพี่น้องสิบคน ครอบครัวของเธอมีฐานะดีมีที่นาให้เช่า พี่น้องของเธอทุกคนได้รับการศึกษามีหน้าที่การงานที่มั่นคงและเป็นที่นับหน้าถือตา เธอเป็นคนตัวเล็ก รูปร่างบาง และเรียนเก่งสามารถสอบเข้าคณะพยาบาลเป็นนักศึกษาคณะพยาบาลที่ศิริราชพยาบาลจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2497
หลังจากเรียนจบเธอมาเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลภูมิพลประมาณปีกว่าจึงย้ายมาเป็นพยาบาลที่โรงพยาบาลเมืองบ้านหมี่ จังหวัด ลพบุรี สาเหตุที่เธอย้ายออกจากโรงพยาบาลภูพลเพราะเธอไปมีเรื่องกับคนไข้ เธอทำงานอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งปี ในปี พ.ศ. 2501 เธอย้ายมาทำงานที่โรงพยาบาลยาสูบและพักอยู่ที่นั่น
พบรัก นายแพทย์ อธิป สุญาณเศรษฐกร
หลังจากทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลยาสูบได้ระยะหนึ่ง นวลฉวีพร้อมกับเพื่อนที่ชื่อโมทนีชวนกันไปเที่ยวที่จังหวัดลำปางทำให้เธอได้พบกับนายแพทย์ อธิป สุญาณเศรษฐกร หรือเรียกสั้น ๆ ว่า หมออธิป หมออธิปใช้เวลาสามถึงสี่วันพานวลฉวีและเพื่อนเที่ยวลำปางหลังจากนั้นเธอกับเพื่อนได้ชวนกันไปเที่ยวต่อที่จังหวัดเชียงใหม่
หมออธิป คือใคร
นายแพทย์ อธิป สุญาณเศรษฐกร มีพี่น้องทั้งห้าคน หมออธิปเป็นลูกคนสุดท้องเกิดและโตอยู่ในจังหวัดกรุงเทพมหานครพื้นเพเป็นคนจังหวัดฉะเชิงเทรา พ่อและแม่มีอาชีพรับราชการทำงานอยู่ในกระทรวงพาณิชย์ หมออธิปเรียนจบชั้นมัธยมปลายสายวิทย์คณิตที่โรงเรียนสวนกุหลาบ เขาจบการศึกษาชั้นมัธยมปลายในปี
พ.ศ.2494เข้าศึกษาต่อที่คณะแพทย์ศาสตร์และจบการศึกษาในปีพ.ศ.2500จากศิริราชพยาบาล หลังจากเรียนจบเขาได้รับหมายเกณฑ์เข้าประจำสำรองราชการ กรมกำลังพลทหารอากาศ เขาได้รับตำแหน่งว่าที่เรืออากาศโทเข้ารับราชการเป็นนายแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลรถไฟ ต่อมาในปีพ.ศ. 2501 หมออธิปย้ายไปเป็นแพทย์รถไฟ หัวหน้าเขต 4 จังหวัดลำปางทำให้เขาได้พบกับนวลฉวี
ใจปฏิพัทธ์หากัน
หนุ่มเมืองกรุงต้องมาใช้ชีวิตท่ามกลางป่าเขาอยู่ในพื้นที่ห่างไกลความเจริญ ความเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยวใจย่อมเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา หลังจากหมออธิปได้เจอกับหมออธิปทำให้หัวใจของเขาเริ่มหวั่นไหวถวิลหาแต่ถึงหญิงสาวที่ชื่อ นวลฉวี เธอเป็นผู้หญิงที่เอาใจเก่ง มีเสน่ทำให้หมออธิปตกหลุมรักนวลฉวีตั้งแต่แรกเห็น ความรักค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทั้งคู่ค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสองคนติดต่อพูดคุยกันทางจดหมาย
หกเดือนต่อมาหมออธิปย้ายกลับไปทำงานที่โรงพยาบาลรถไฟทั้งสองคนยังคงส่งจดหมายไปหากันอยู่เนือง ๆ จนในที่สุดทั้งสองคนได้เสียกลายเป็นสามีภรรยาโดยพฤตินัย ความรักของทั้งสองคนเป็นไปได้ด้วยดีจนกระทั่งในปีพ.ศ.2501 นวลฉวีตกเลือดโดยไม่ทราบสาเหตุนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยาสูบเป็นเวลาหนึ่งเดือน เธอไม่ยอมปริปากบอกใครว่าแม้แต่หมออธิปเธอก็ไม่ยอมบอกแต่จากการสังเกตุอาการของเธอ หมออธิปรู้ในทันทีว่าเธอแท้งลูก
โลกสองใบของหมออธิป
หมออธิปพบรักกับผู้หญิงคนใหม่ชื่อว่า นางสาว สมบูรณ์ สืบสาน ศึกษาอยู่ที่วิทยาลัยเทคนิคทุ่งมหาเมฆและที่สำคัญเธอเป็นเพื่อนวัยเด็กของหมออธิปทั้งสองคนรักใคร่ชอบคอกันฉันท์ชู้สาวโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าหมออธิปมีเมียอยู่แล้ว ความรักดำเนินไปได้ด้วยดีจนกระทั่ง ในปี พ.ศ.2502 หมออธิปได้สอบชิงทุนฮุมโบลก์เขาได้ไปเรียนต่อที่ประเทศเยอรมันเพื่อที่เขาจะได้กลับมาเป็นหัวหน้าแผนกจักษุที่โรงพยาบาลรถไฟ
ในเดือนมกราคม เขาถูกโรงพยาบาลส่งไปฝึกงานที่แผนก หู ตา จมูก ในสมัยนั้นแผนกเหล่านี้ยังรวมกันอยู่ใช้เวลาฝึกงานอยู่ที่นี้ประมาณหกเดือน หลังจากเลิกงานเขาต้องไปเรียนภาษาเยอรมันเพิ่มเติมสถานทูตทำให้เวลาที่มีให้นวลฉวีลดน้อยลงไปด้วย นวลฉวีเองก็เริ่มระแคะระคายในตัวของหมออธิป
เธอมาเฝ้าหมออธิปที่โรงพยาบาลรถไฟและตามหมออธิปไปทุกหนทุกแห่งเหมือนเงาตามตัว เจอหมออธิปที่ไหน เจอนวลฉวีที่นั่น การกระทำของนวลฉวีทำให้หมออธิปอึดอัดรู้สึกคาญนวลฉวีเป็นอย่างมากจนกระทั่งในวันที่ 11 มีนาคม 2502 หมออธิปจดทะเบียนสมรสกับนวลฉวีที่เขตยานนาวาตามความต้องการของนวลฉวีแต่ในใจของเขาไม่อยากจดทะเบียนสมรสกับนวลฉวี เขาทำเพื่อตัดความรำคาญและคิดว่านวลฉวีจะเลิกตามเขาสักที
“ ที่จริงผมไม่อยากจดทะเบียนสมรสกับเธอหรอกเพราะอะไรหรอมันก็ก็พูดยาก หลายเรื่องที่บอกไม่ถูกคือเขาชอบตามผมทุกวันทุกคืน งานการเขาก็ไม่ทำ มานั่งเฝ้า ผมนี่รำคาญสุด ๆ ผมไม่อยากจดหรอกแต่ก็ต้องจดมันอยากให้จดก็จดไปจะได้ตัดปัญซะที ”
คำกล่าวของหมออธิป
ความวุ่นวายมาเยือนหมอธิป เมื่อ นางสาว สมบูรณ์ สืบสมานทราบว่าหมออธิปได้จดทะเบียนสมรสกับนวลฉวี เธอขอร้องกึ่งบังคับให้หมออธิปไปจดทะเบียนสมรสกับเธอด้วย หมออธิปพาเธอไปจดทะเบียนสมรสในวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ . 2502 ที่อำเภอพระเนตรซึ่งนั่นหมายความว่าหมออธิปจดทะเบียนสมรสซ้อน
“ พอผมจดทะเบียนกับนวลฉวี สมบูรณ์เขารู้ ขอจดทะเบียนกับเขาอีก ผมตัดปัญหานี้ไป อยากให้เรื่องมันเงียบจะได้ไม่ไปบอกใครให้เป็นขี้หูคนอื่น ” หมออธิปคิดผิด นวลฉวีกับสมบูรณ์พยายามแสดงตัวเป็นตัวจริงของอธิปทำให้ทั้งสองคนมีปากเสียงทะเลาะกันเป็นประจำทุกครั้งและที่สำคัญทั้งสองคนยังเคยทะเลาะกันที่โรงบาลทำให้หมออธิปต้องร้องขอให้ผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลออกคำสั่งห้ามนวลฉวีและสมบูรณ์เข้ามาในโรงพยาบาลโดยเด็ดขาด
ปัญหารักสามเศร้าเราสามคนยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมแพ้ นวลฉวีไม้ต้องการเสียหมออธิปให้กับสมบูรณ์ถึงขั้นไปหาอาจารย์ที่วิทยาลัยไปบอกกับอาจารย์ของสมบูรณ์ว่าเธอิเป็นชู้กับสามีของตนเองจนเวลาผ่านล่วงเลยไปหมออธิปยังไม่มีทีท่าที่จะแต่งงานกับกับนวลฉวีแต่เธอต้องการแต่งงานกับเขา สารพัดวิธีที่เธอใช้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้หมออธิปแต่งงานกับเธอโดยที่ตนเองไม่เคยรู้ตัวว่าหมออธิปหมดรักไปนานแล้ว ในเดือนพฤษภาคมนวลฉวีบอกกับครอบครัวว่าหมออธิปกับเธอกำลังจะแต่งงานกัน ทางครอบครัวของนวลฉวีเชิญหมออธิปมากินข้าวเพื่อคุยรายละเอียดเรื่องแต่งงานแต่หมออธิปไม่รู้เรื่อง
“ ผมไม่ได้บอกเธอ เธอคิดไปเอง ”
ในเดือนมิถุนายนพ่อของนวลฉวีมาหาเธอที่กรุงเทพ นวลฉวีเล่าเรื่องความสัมพันธ์ของตนเองกับหมออธิปให้พ่อฟังว่าตนเองมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันมากกว่าคู่รักทั่วไปสมัยทำงานที่โรงพยาบาลรถไฟ พอหมออธิปรู้เขาจึงบอกกับพ่อของนวลฉวีว่าตนเองจะดูแลเธอแต่แล้วทุกอย่างก็เงียบไป
นวลฉวีไปหาหมออธิปที่โรงพยาบาลกลับเจอหมออธิปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น นวลฉวีไม่พอใจต่อว่าหมออธิปทำให้ทั้งสองคนมีปากเสียงกันทะเลาะกันรุนแรงกว่าทุกครั้ง นวลฉวีต้องการย้ายเข้าไปอยู่บ้านของอธิป ก่อนย้ายไปหมอบ้านของหมออธิปนวลฉวีบอกกับพี่เขบว่าตนเองกำลังย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของหมออธิปโดยไม่รู้ว่าครอบครัวของหมออธิปและตัวของอธิปเองจะยินดีให้เธอเข้าไปอยู่บ้านของเขาหรือเปล่าผลปรากฏว่าครอบครัวของหมออธิปไล่นวลฉวีออกจากจากบ้าน เธอไปรอหมออธิปตั้งแต่เช้าจนถึงตีหนึ่งก็ไม่ยอมกลับ พอหมออธิปกลับมาบ้านก็โดนพ่อแม่ด่า
“ เมียแกเป็นบ้าหรือเปล่า ”
เหตุการณ์เลวร้ายที่ได้พบเจอถูกเขียนลงในสมุดบันทึกเพื่อระบายความเศร้าที่มีอยู่ภายในใจ นวลฉวีไปหาหมออธิปที่โรงพยาบาลเดินดุ่ม ๆ เข้าไปหมออธิปในทันที นวลฉวีบันทึกเหตุการณ์เลวร้ายในวันนั้นลงในสมุดบันทึกไว้ว่า
“ ดิฉันพบนายแพทย์ อธิป สามีฉันที่โรงพยาบาลรถไฟจากนั้นคุยเรื่องปัญหาชีวิตของเราทั้งสอง ” หมออธิปโกรธไม่พอใจนวลฉวีเป็นอย่างมาก
“ ผมต้องทำงานนะ มากวนอยู่ได้ ” สิ้นเสียงหมอธิชกนวลฉวีเข้าตรงไปหน้าของนวบฉวีอย่างจัง เธอตะโกนออกมาเสียงด้วยความเจ็บปวด
“ ช่วยด้วยหมอรังแกผู้หญิง หมอจะฆ่าเมีย ”
เสียงโวยวายของนวลฉวีทำให้คนที่อยู่ในละแวกนั้นได้ยิน หมออธิปรีบปลอบใจเธอและพาเธอไปยังยังคนไข้ เหตุการณ์ในวันนั้นนวลฉวีแจ้งความบอกกับตำรวจว่าเธอถูกหมออธิปทำร้ายร่างกาย หลังจากที่ตำรวจไกล่เกลี่ย หมออธิปยอมตกลงทำตามเงื่อนไขของนวลฉวี เธอไม่เอาเรื่องหมออธิปไม่ต้องการให้หมออธิปเสียอนาคตมีประวัติด่างพร่อย
ตำรวจลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทุกอย่างจบลงด้วยดี เหตุการณ์ในวันนั้นเธอได้บันทึกเรื่องราวทุกอย่างไว้ในในสมุดบันทึกอย่างละเอียด บาดแผลของเธอที่ถูกหมออธิปต่อยติดเชื้อทำให้ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เธอให้หมออธิปเป็นคนรักษา เขาไม่ค่อยเต็มใจนักแต่ต้องจำยอมทำตามความต้องการของนวลฉวี ถึงแม้เขาจะเป็นแพทย์เจ้าของไข้นวลฉวีแต่เขาไม่ค่อยมาหานวลฉวีถ้าไม่จำเป็น ในใจตอนนี้ของหมออธิปหมดรักนวลฉวีไปแล้ว เขาพูดออกมาด้วยความไม่พอใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ไว้ว่า
“ อยากจะบ้าตายถูกบังคับให้มานอนเฝ้าด้วย โอ๊ย ! ผมต้องทำงงานนะบางคืนต้องมาเฝ้าทั้งที่ทำงานอยู่ไปเฝ้านานก็ไม่ได้เดี๋ยวสมบูรณ์อาละวาดอีกเรื่องมันวุ่นวายไปกันใหญ่แล้ว ”
พ่อของนวลฉวีทราบเรื่องที่นวลฉวีถูกหมออธิปทำร้ายไปหาหมออธิปแต่หมออธิปไม่ได้สนใจและใส่ใจเรื่องนี้เท่าที่ควร หมออธิปมีท่าทีแปลกไปจากเดิมจนสังเกตได้ว่าหมออธิปเปลี่ยนไป เขาตอบเพียงสั้น ๆ ว่า แล้วแต่ศาล
นวลฉวีบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นไว้ว่า
“ เชิญแกไปหาเมียใหม่ตามสบายเถอะ ฉันรู้นะว่าปีศาจในตัวแกจะแสดงบทบาทอย่างไรในอนาคต ”
นวลฉวีถูกหมออธิปทำร้ายร่างกายครั้งที่สอง เขาดึงสะโพกของเธอไปกระแทกกับก๊อกน้ำอย่างแรงทำให้เลือดไหล เธอได้รับความเจ็บปวดทางกายเป็นอย่างมาก ส่วนความเจ็บปวดทางใจเกินจะบรรยายเป็นคำพูดได้ นวลฉวีได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสารวัตรฝ่ายสืบสวนมีใจความว่า
หมออธิปไม่ทำตามทัณฑ์บนที่เคยให้ไว้ นอกจากนั้นยังททารุณกับเธออีก ทำร้ายร่างกายเธอโดยดึงสะโพกไปกระแทกกับก๊อกน้ำและเลือดไหล ความเจ็บปวดสุดจะบรรยายจึงอยากขอให้พิจารณาดำเนินคดีใหม่อีกครั้ง ในวันที่ 28 สิงหาคม หมออธิปมาที่สถานีตำรวจเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เขารับสารภาพว่าตนเองได้ทำร้ายนวลฉวี
หลังจากนั้นสามวันนวลฉวีนัดให้หมออธิปไปพบเพื่อนของเธอที่ชื่อ ธวัช ที่ทำการรถไฟสทานกษัติริย์ศึกเวลาในเวลาสิบโมงเช้า เพื่อนคนนี้เป็นที่ปรึกษาในคดีนี้ เขาแนะนำให้หมออธิปคืนดีกับนวลฉวี หมออธิปรับปาก เขาเขียนจดหมายปิดผลึกส่งไปให้กับพันตำรวจเอกท่านหนึ่งที่ทำคดีนี้
“ เราจะคืนดีกัน ” หลังจากนั้นหมออธิปกับนวลฉวีเข้าพบพันตำรวจเอกเจ้าของคดีที่สน.พญาไทให้ระงับคดีนี้ หลังจากนั้นนวลฉวีกับหมออธิปไปกินข้าวที่โรงหนังคิงส์
ธวัชไม่สบายขอลางานมาเยี่ยมนวลฉวี เธอชวนเขาไปถวายยาให้พระที่วัดสามง่ามพร้อมทั้งให้พระดูดวงให้
“ ต่อไปนี้ดวงชะตาจะดีขึ้นแล้ว ”
หมออธิปไปหานวลฉวีคุยเรื่องเรือนหอในเวลานั้นธวัชอยู่กับนวลฉวีด้วย ในระหว่างที่หมออธิปคุยกับนวลฉวี ธวัชขอตัวกลับบ้านไปก่อนทำให้นวลฉวีอยู่กับหมออธิปสองคน หลังจากนั้นไม่นานนางพยาบาลมาเรียกให้หมออธิปไปทำคลอดให้คนไข้จนถึงเที่ยงคืน เขาจึงพานวลฉวีไปส่งที่โรงพยาบาลยาสูบ
เธอโทรไปเล่าให้ธวัชฟังว่าตนเองทะเลาะกับหมออธิป หลังจากธวัชเลิกงานให้เขาไปเจอที่โรงพยาบาลยาสูบจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง เย็นวันนั้นหลังจากเลิกงานธวัชไปทำธุระแล้วแวะไปหานวลฉวีตอนหนึ่งทุ่มแต่ไม่เจอเธอ รปภ.บอกกับธวัชว่านวลฉวีแต่งตัวออกไปข้างนอกนานแล้ว นวลฉวีจากไปแล้วเหลือไว้เพียงร่างไร้วิญญาณ
อ้างอิงจาก: https://www.thaipbs.or.th/program/TruthNeverDies/episodes/52867
https://www.komchadluek.net/today-in-history/388033