ผีต้องการอะไร?ทำไมต้องหลอก!
เรื่องของชีวิตหลังความตายนี่นะ จะว่าอธิบายง่ายก็ใช่ จะว่าอธิบายยากก็ใช่อีก เพราะตัว แปรของความเข้าใจอยู่ที่ความเป็น “สัมมาทิฏฐิ” คือ การเห็นโลกและชีวิตตามความเป็นจริง ของคนๆ นั้นว่าแค่ไหนอย่างไร( ซึ่งเดี๋ยวจะมาว่ากันอีกที ) .. ตรงนี้ ยกพื้นที่ให้คุณผีกันก่อน คำเตือนก่อนไปต่อ..**เป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ!
เชื่อว่าหลายคน เคยมีประสบการณ์แปลกกับอดีตมนุษย์ ที่ชื่อว่า คุณผี
และส่วนใหญ่ก็มักเจอแบบไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ คือ เสื้อผ้า หน้าผมทรุดโทรมจน ผวา หรือต่อให้มาแบบผมยาว ขาวสวย หมวยสไบ แต่ใยไปนั่งห้อยเท้าบนต้นไม้ ก็สวยหลอนไปอีก คนมันไม่คุ้นเคย ก็ต้องตกอกตกใจกันเป็นธรรมดา
จริงๆ ผี มีหลายประเภท แต่วันนี้ เราจะพูดโดยรวม โฟกัสกันที่ ความต้องการของผี เป็นหลัก ซึ่งหมายถึง อดีตมนุษย์ที่ตายแล้วกำลังบุญ(ความดี) ไม่มากพอที่จะไปสวรรค์ แต่ก็ไม่ได้ทำชั่วบาปกรรมไรมากมายจนต้องไปนรกอบายภูมิ จึงยังคงเป็นพลังงานที่เรียกว่าวิญญาณดำรงอยู่ซ้อนๆมิติกับโลกมนุษย์...
เข้าเรื่องเอาโดยย่อนะ... ผีมา เพราะผีมีธุระ ซึ่งธุระของผี เอาแบบปกติ (ไม่พิศดาร ) จากการสำรวจโดยการได้ยินได้ฟังมาจากผู้มีรู้มีญาณมีสมาธิจิตสูงๆ มี 2 ธุระ สำคัญใหญ่ๆ คือ
- ต้องการความช่วยเหลือ คือ มาขอส่วนบุญส่วนกุศล จากคนที่มีชีวิตที่มีสิทธิ์ทำบุญทำกุศลได้ ธุระนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผีที่สมัยเป็นมนุษย์เป็นคนคุ้นเคยใกล้ชิดสนิทกัน เช่น เป็นพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง เพื่อน ญาติ ... หรือ อาจไม่สนิท ไม่รู้จักกันมาก่อนก็ได้ แต่ก็มาหา เพราะผีได้เห็นว่ามนุษย์คนนี้เป็นคนใจดีมีบุญเยอะ(เขาจะเห็นความสว่างของบุญออกจากตัวคนๆนั้น) เห็นว่ามีบุญเยอะ ก็อยากจะมาขอแบ่งบุญหน่อย เพราะบุญที่ขอได้ ก็จะเป็นพลังงานที่ไปทำให้สภาพชีวิตในปรโลกดีขึ้น เช่น มีสภาพร่างผีดีขึ้น มีเสื้อผ้า มีอาหาร มีที่อยู่อาศัยดีขึ้น เป็นต้น...
ครานี้ มันจะเป็นปัญหาตรงที่ มาหาแล้ว สื่อสารกันไม่ได้นี่แหล่ะ เลยงง และคนก็เลยกลัว และเลยสรุปว่าผีมาหลอก ... คือ คุณผีตนนั้นๆ เขาอยู่คนละภพกับมนุษย์ แต่มันก็มีความเชื่อมกันได้ ก็สามารถเห็นกันได้ แต่แค่เห็น ไม่สามารถพูดคุยกันให้รู้เรื่องได้ เลยมาให้เห็น แล้วก็นิ่งๆ ใบ้ๆ อยู่อย่างนั้น หรือความพยายามในการสื่อสารต่างๆของเหล่าคุณผี ที่มนุษย์เอามาเล่าสู่กันฟัง เช่น หน้าต่าง ประตูเปิด ปิดเอง ข้าวของเคลื่อนที่ เสียงร้องให้ ... ฯลฯ อะไรก็แล้วแต่เพื่อเป็นการบอกให้มนุษย์ หรือญาติได้รู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้ และลำบากอยู่ ช่วยเขาด้วย ... แต่สิ่งที่มนุษย์ทำ คือ เผ่น ! ช่ายยยยย... เป็นใครก็เผ่น ^^ ( ถามว่ากลัวหรอ ... เปล๊า...แค่ไม่คุ้น! เสียงสูง! ^^ )
สรุปให้อีกที ว่าเหตุการณ์แปลกๆชวนหลอนใดๆเหล่านั้น คือ คุณผีน่ะเขาแค่อยากบอกว่า: ช่วยทำบุญให้เขาหน่อย เขายังลำบากอยู่... บุญเท่านั้นจะช่วยให้เขาหลุดพ้นจากความลำบากใดๆที่กำลังเผชิญอยู่ในปรโลกนี้
ลำบากอะไรบ้าง ทบทวนที่บอกไปอีกทีก็เช่น ไม่มีอาหารกิน ไม่มีเสื้อผ้าดีๆใส่ บางคนตายด้วยอุบัติเหตุ กายมนุษย์ตอนตายอาบเลือดยังไง สภาพร่างวิญญาณยังอาบเลือดและบาดเจ็บไม่หาย และความอัตคัตขัดสนในสัมปรายภพในอีกหลากหลายสภาพที่เขากำลังเป็นอยู่นั้นแหล่ะ **เมื่อเขาได้รับบุญ(ที่อุทิศให้) พลังบุญจะไปช่วยปรับเปลี่ยนสภาพชีวิตของเขาให้ดีขึ้น (ตามกำลังบุญที่อุทิศไป และที่เขารับได้) ... บางคนมาหาญาติ ญาติเข้าใจแล้วทำบุญอุทิศให้มากๆ ก็สามารถช่วยให้มีชีวิตที่ดีขึ้นขั้นสุขสบายเลยทีเดียว เช่น จากเป็นผีเร่รอนไร้บ้านต้องนอนศาลพระภูมิ หากินอาหารตามงานไหว้ เมื่อได้รับบุญก็มีบ้านมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง มีเสื้อผ้า มีอาหารเอง(ไม่ต้องรอตามงานไหว้งานแก้บน) ความเป็นอยู่สุขสบายตามกำลังบุญไป นี้คือธุระสำคัญข้อ1 ของคุณผี คือ มาขอส่วนบุญ!
- มาทำหน้าที่เพื่อนที่ดี หรือมาเป็นกัลยาณมิตร ส่วนใหญ่มักเจอที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่วัด สถานที่ปฏิบัติธรรม เป็นต้น คุณผีสายนี้ มักเป็นผีมีระดับขึ้นมา เรียกว่ามีตำแหน่งอาจเป็นเจ้าที่เจ้าทาง มีฤทธิ์มีอำนาจในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ณ สถานที่นั้นๆ เช่น รุกเทวา คือเทวดาที่มีวิมานบ้านช่องอยู่ตามต้นไม้ ฐานะมีอยู่มีกินสุขสบาย หรืออาจอยู่อาศัยซ้อนมิติอยู่ในบ้านเรา ที่เราเรียกผีบ้านผีเรือน
ธุระของคุณผีสายนี้ ก็แบบเดียวกันกับข้อแรก เขาก็อยากได้บุญกับมนุษย์ที่ทำความดี เช่น คนๆนั้นอาจเป็นลูกดีมีความกตัญญู อาจเป็นคนชอบนั่งสมาธิ ทำบุญ สวดมนต์ หรือทำความดีอื่นๆ เป็นประจำสม่ำเสมอ แสงสว่างของบุญในตัวก็สว่างมาก .. คุณผีเห็นก็อยากมีส่วนในบุญกุศลในความดีนั้นด้วย คุณผีหรือเทวดาตนนั้นเขาก็จะมาดูแลรักษาคนๆนั้น บางตนเขาก็ดูแลเราเงียบๆ บางตนก็อาจอยากให้เรารู้ ก็อาจมีวิธีแสดงตนก๊อกๆแก๊กๆให้เรารู้สึกแปลกๆงงๆ เป็นต้น
หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นกรณีมาเตือนให้เราตั้งใจทำความดี หรือเตือนไม่ให้เราทำสิ่งที่ไม่สมควรทำ เช่น เราอาจไปนั่งสมาธิที่วัด แต่บางเวลาเราก็ขี้เกียจไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรม คุณผีเขาอาจเอ็นดูอยากให้เราตั้งใจปฏิบัติธรรม(+เขาเองก็จะได้บุญด้วย) เขาก็จะมีวิธีมาเตือนเรา หรือบางทีเขาก็มาเตือนคนที่ไม่เคารพสถานที่อันเนื่องด้วยพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์(เช่น โบสถ์ วัด วิหาร ที่เขาดูแลรักษาอยู่ เป็นต้น) .. เขาก็มาเตือนในแบบของเขา ที่แปลว่า อย่าทำแบบนี้มันไม่ดี ไม่น่ารักนะจ๊ะมนุษย์ เป็นต้น แล้วเมื่อคนที่ถูกเตือน ทำสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งที่ดีเป็นบุญกุศล คุณผีเขาก็จะได้ส่วนในบุญกุศลกับคนๆนั้นไปด้วย ในฐานะที่ช่วยเตือนสติให้เพื่อนมนุษย์ทำความดี อยู่ในบุญกุศล อยู่ในร่องในรอยของศีลของธรรมอันดีงาม
หรืออีกกรณีง่ายๆไม่มีไรมาก คือ เขาอยากอนุโมทนาบุญกับเรา เขาก็มาหาแค่นั้นเลย มากระทำการสื่อสารอะไรสักอย่างให้รู้ว่าเขาขออนุโมทนาขอมีส่วนในบุญกุศลนั้นด้วย ซื่อๆ ตรงๆ ซึ่งไม่ต้องตกใจกลัว เราก็แค่ตั้งจิตระลึกถึงกุศลที่ได้ทำ แล้วอธิษฐานจิตแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้เขาไปว่า.. บุญกุศลใดหรือความดีใดที่เราได้ทำไว้ดีแล้ว ขอให้ท่านอนุโมทนาขอให้มีส่วนในบุญกุศลด้วยนะ ขอให้ท่านมีความสุข พ้นจากทุกข์ภัยทั้งหลาย มีชีวิตที่เป็นสุขเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป (+ และไม่ต้องโชว์ตัวก็ได้นะ ^^ )
นี่คือ ผีมาเพื่อเป็นเพื่อนเป็นกัลยาณมิตร คอยช่วยให้เราทำความดี คอยดูแลรักษาคนที่ทำความดี แล้วเขาจะได้บุญไปด้วย แบบที่โบราณว่าไว้... คนดีผีคุ้ม นั้นเอง
สรุปว่า คุณผีไม่ได้มาหลอกหรอก แต่เพราะ ...
- สื่อสารกันไม่ได้ ก็เลยไม่รู้เรื่องกัน ( จริงๆ เขาก็คงทักทายพูดคุยละ แต่มันคนละมิติแล้วไง ถึงจะเห็นแต่ก็ไกลกันคนละภพแล้ว ก็ไม่ได้ยินกัน)
- เหตุการณ์แปลกๆ เป็นความพยายามจะสื่อสาร เลยกลายเป็นหลอนไป ก็คนมันไม่คุ้น!
แต่ต่อไปนี้ไม่ต้องกลัวแล้วนะ ไม่ว่าจะมาสภาพไหน ให้เข้าใจได้เลยว่า เขาต้องการความช่วยเหลือ ทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลให้เขาไป แค่นี้ก็ถูกใจคุณผีไปดีแล้ว
ถามว่า มีเหตุอื่นๆ อีกไหม ที่ผีมา ก็มีนะ แต่ประเด็นใหญ่ใจความสำคัญที่สุด สำหรับชีวิตในสัมปรายภพ คือ ความต้องการบุญนี่ละ คือจบภพสาม!