ภัยร้ายจากมดที่มีพิษร้ายแรงที่สุด สามารถทำให้เสียชีวิตได้ ในประเทศไทย
มดตะนอยที่พบเจอได้บ่อยมากๆๆวัดจากข้อมูลในอินเตอร์เน็ตที่มีคนพูดถึง คือ Tetraponera Rufonigra หรือ มดตะนอยอกส้ม เป็นมดที่เจอได้ตั่งแต่แถบ อินเดีย ศรีรังกา ลากยาวไปจนจรดเวียดนาม เลยทีเดียว โดยมดชนิดนี้จะชอบอยู่อาศัยทำรังในต้นไม้ โดยเฉพาะพวกตอไม้พุๆทั้งหลาย เอาเป็นว่า ถ้าเจอมดที่มีรูปร่างแบบนี้ ตัวเรียวๆยาวๆ ตูดแหลมๆ พยายามอย่าไปยุ่งกับมันนะครับ แม้กระทั่งพวก Trap Jaw ที่หลายๆคนเจอหรือเลี้ยงอยู่ก็กัดและต่อยนะคะ ไม่เชื่อลองดูได้ ลองแล้วมาบอกด้วย
สำหรับคนที่โดนมดชนิดนี้ต่อย ถ้าคนคนนั้นมีการแพ้พวกเหล็กในของแมลง ก็จะเกิดอาการ Anaphylaxis Shock ตอนแรกผมว่าจะแปลเป็นไทยให้อ่าน แต่ นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เคยสัมภาษณ์เอาไว้ค่อนข้างจะเข้าใจง่าย
“อันตรายของมดตะนอย เกิดจากการที่มดตะนอยต่อยด้วยเหล็กใน ซึ่งการต่อยของมดจะแตกต่างจากผึ้ง คือ มดเมื่อต่อยแล้วจะสามารถดึงเหล็กในกลับ ทำให้สามารถต่อยได้หลายครั้ง ผู้ถูกต่อยจะถูกต่อยซ้ำๆ ด้วยมดตัวเดิม ในขณะที่ผึ้งจะต่อยเพียงครั้งเดียวแล้วทิ้งเหล็กในไว้ที่แผลของผู้ถูกต่อย เหล็กในที่ยื่นออกมาจากปลายท้องมดจะเชื่อมต่อกับต่อมพิษที่อยู่ภายในท้อง ซึ่งต่อมพิษจะผลิตสารประกอบโปรตีน และสารอัลคาลอยด์ และสารที่ทำให้ผู้ถูกต่อยเกิดอาการแพ้คือสารประกอบพวกโปรตีน โดยสารโปรตีนเหล่านี้จะทำให้ผู้ถูกต่อยมีอาการต่างๆ เช่น เจ็บปวดบริเวณแผล แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก อาเจียน ซึ่งหากบางรายที่แพ้รุนแรงถ้ารักษาไม่ทันอาจทำให้เสียชีวิตได้ และไม่เฉพาะแต่มดตะนอยเท่านั้นที่มีเหล็กในและมีต่อมพิษ มดชนิดอื่นๆ เช่นมดคันไฟก็มีสารพิษที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน” นพ.บุญชัย กล่าว
ในกรณีของคนที่แพ้
รศ.นพ.วินัย วนานุกูล ภาควิชาอายุรศาสตร์ และ ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า "อาการแพ้พิษจากแมลงสามารถสังเกตได้ โดยอาการเริ่มต้นจะมีผื่นบวมแดงขึ้นตามตัวอย่างผิดปกติ บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียร่วมด้วย ตามมาด้วยอาการหายใจลำบาก อึดอัด แน่นหน้าอก ความดันเลือดตก ซึ่งจะเป็นอันตรายหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยระยะเวลาในการแสดงอาการจะต่างกันออกไป ตั้งแต่เป็นนาที จนถึงเป็นชั่วโมง เมื่อได้รับพิษจากแมลง สัตว์ และเกิดอาการแพ้โดยมีอาการเหมือนข้างต้น จะต้องไปพบแพทย์ทันที เพราะ หากปล่อยให้อาการหนักจนถึงขั้นหายใจไม่ออก ความดันตก จะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม สามารถรักษาได้แต่ต้องไปพบแพทย์ให้ทันเวลา ส่วนการกินยาแก้แพ้เพื่อรักษาตนเองนั้นมักจะไม่ได้ผลทันเวลา โดยเฉพาะถ้าเป็นอาการแพ้ชนิดที่รุนแรง
จำเป็นต้องให้ยาอีกชนิดหนึ่งชื่อ เอพิเนฟริน (epinephrine) หรืออะดรีนาลิน (adrenalin) และต้องฉีดเข้าหลอดเลือดดำ หรือใต้ผิวหนังเพื่อขยายหลอดลมและเพิ่มความดันโลหิตโดยตรง ซึ่งยาจะออกฤทธิ์ทันทีจึงจะสามารถช่วยได้ทัน ผู้ป่วยควรได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน หากช้าเกินไปจนสมองขาดออกซิเจนก็ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน"
แล้วในกรณีของคนที่ไม่แพ้หละ?
หลังจากโดนต่อย อาจจะบวม แดงซ้ำๆ เจ็บปวด หรือ ปวดมากๆๆๆ ชา ตามปกติเหมือนคนโดนแมลงต่อย แต่อาการอาจจะอยู่ยาวเป็นอาทิตย์ ถ้าโดนต่อยทีเดียว ก็ดีไป แต่ถ้าโดนต่อยหลายๆที่หละ??
มดตะนอยนั้นมีความดุร้ายมากๆ การันตีโดยผู้เลี้ยงมดชนิดนี้จากที่อ่านมา คือมันพร้อมที่จะกัด และ ต่อย ทุกสิ่งทุกอย่างที่รุกรานมัน แค่เอาไม้ไปแหย่ๆมันก็กัดและต่อยแบบเอาเป็นเอาตายให้ได้แล้ว
ดูแลตนเองเบื้องต้น
ได้รับอันตรายจากสัตว์มีพิษ จำพวก ผึ้ง ต่อ แตน มด
๑. มีเหล็กในอยู่ในแผลจะต้องเอาเหล็กในออกให้หมด (เฉพาะผึ้ง)
๒. ประคบความเย็น เพื่อลดความเจ็บปวด
๓. ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดและสบู่ แล้วทาครีมสตีรอยด์
๔. ถ้าปวดมาก ให้กินยาพาราเซตามอล
๕. รายที่ถูกต่อต่อยควรกินยาแก้แพ้ร่วมด้วย
๖. ถ้าผื่นมีเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า ๒ นิ้ว หรือ คลื่นไส้ อาเจียนปวดท้องหรือมีอาการแน่นหน้าอก หายใจลำบาก หรือถูกกัดต่อยเป็นจำนวนมากกว่า ๒๐ จุด ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
อ้างอิงจาก: https://www.doctor.or.th
:https://www.gotoknow.org
:https://www.tnnthailand.com