การป่วยน้ำท่วมเยื้อหุ้มปอด โดยไม่ทราบสาเหตุ

ผมมีประสบการณ์ จากการป่วยด้วยภาวะคน ทั่วไปเป็นคือภาวะน้ำท่วมเนื้อเยื้อหุ้มปอด แต่สิ่งที่ไม่ปกติ คือการป่วยครั้งนี้ ไม่สามารถหาสาเหตุของ ภาวะ และโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ (ซึ่งผมป่วยตั้งแต่18กรกฎาคม2566-ปัจจุบัน ก็ยังไม่ทราบสาเหตุ) แต่อาการโดยรวม เริ่มๆดีขึ้นแต่ยีงไม่หายขาด เนื่องจากกินยาที่หมอให้ (ยาสเตียรอยด์) และหมอยังนัดดูอาการอยู่ และนี่คือ Time Line การป่วยของผม

ช่วงเดือน มีนาคม-มิถุนายน มีอาการไอเรื้อรัง เวลาโดนแอร์จะไอหนักมาก ผมเลยไม่ได้ใส่ใจตัวเองใช้ชีวิตปกติ กินดื่มปกติ

จนกระทั่งช่วง 16 กรกฎาคม 2566 ได้มีอาการ เหนื่อยง่าย เหมือนพักผ่อนไม่เพียงพอ เลยไปหาหมอ หมอวินิจฉัยว่า เป็นกรดไหลย้อน เราเองก็เชื่อหมอ เลยกลับมากินยาตาม อาการและไม่ดีขึ้น(โรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้านสิทธิประกันสังคม)

วันที่18 กรกฎาคม 2566 อาการยังไม่ดีขึ้น แถมตอนนอนรู้สึกหายใจไม่ออก หายใจเหนื่อย อาการแย่กว่าเดิม เลยตัดสินใจเลิกงานแล้วไปหาหมออีกครั้ง คราวนี้ หมอตรวจ เอ๊กเรย์พบภาวะ ผิดปกติมีน้ำในเยื้อหุ้มปอด แต่ก็ยังให้ยามากิน และให้หยุดดูอาการ3วัน

วันที่ 22 กรกฎาคม 2566 อาการยังไม่ดีขึ้น แถมตอนนอนรู้สึกหายใจไม่ออก หายใจเหนื่อย อาการแย่กว่าเดิม เรียกง่ายๆอาการเหมือนเดิมเลยกลับมาหาหมออีกครั้ง คราวนี้หมอได้ตรวจ และบรรเทาอาการเหนื่อยโดยการเจาะเอาน้ำในเยื้อหุ้มปอดออก และนอนพักโรงพยาบาล 3 วัน

ตอนอยู่โรงพยาบาลเหมือน อาการจะดีขึ้น หมอเลยปล่อยตัวกลับ 

หลังจากที่กลับจากโรงพยาบาลแล้ว มารักษาตัวต่อที่บ้าน อาการของผมก็ยังไม่ดีขึ้น

วันที่28 กรกฎาคม 2566 ก็ได้แอดมิทที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง (ที่เดิม)เนื่องจากนอนแล้วหายใจไม่ออก รักษาอาการแบบครั้งแรกที่เข้าโรงพยาบาลครั้งแรก แล้วออกมาในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 ซึ่งทางโรงพยาบาลตรวจทุกอย่างแต่ก็ยังไม่ทราบ สาเหตุโรคที่แน่ชัด จึงเริ่มมีการปรึกษาทางครอบครัว ว่าเราควรไปรักษา ที่โรงพยาบาลอีกแห่ง(สำรองเงินออกเองเพราะไม่ได้ทำประกันชีวิต) เนื่องจากอาการยังไม่ดีขึ้น และเริ่มหายใจติดขัด เนื่องจากน้ำที่ดูดออกไปครั้งที่แล้ว เริ่มกลับมา และยาที่ให้กินก็ไม่ได้ผล ทำให้ต้องตัดสินใจไปรักษา อีกที่หนึ่งซึ่งต้องยอมออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด 

วันที่3สิงหาคม 2566 ได้ตรวจที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง (โรงพยาบาลรัฐบาลที่ปทุมธานีแห่งหนึ่ง) ทำการเจาะเลือด เจาะปอด ตรวจทุกอย่าง ทำสแกนคอมพิวเตอร์ สารพัด แต่ก็ยังไม่ทราบผล หรือสาเหตุของโรคที่แน่ชัด ซึ่งระหว่างนี้  ได้มีการเจาะน้ำในปอด ออกไปอีก2ครั้ง แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น 

วันที่15สิงหาคม 2566 ระหว่างกำลังนอนพักผ่อนได้มีการฝันแปลกๆ เกี่ยวกับ ว่าเรากำลังนั่งรถไฟ ไปที่ไหนสักที่หนึ่ง โดยคนที่อยู่บนรถไฟขบวนนั้นนั่งกันนิ่งมาก เรารู้สึกไม่ดีเลยหาทางออกจากรถไฟ ขบวนนั้น ซึ่งออกมาสำเร็จ ซึ่งเป็นช่วงที่แฟนเรา เห็นเราผิดปกติ หายใจเหมือนเป็นเฮือกสุดท้าย แฟนเลยปลุก เขย่าตัวให้เราตื่น ซึ่งตัวผมเองก็รู้สึกตัวมาพอดี ซึ่งช่วงนั้นรู้สึก ใไม่ดีขวัญเสียเป็นอย่างมาก จึงได้ไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลเดิม(โรงพยาบาลสิทธิประกันสังคมอีกครั้ง) รอบนี้หมอไม่ได้ เจาะเอาน้ำออกเหมือนเคย แต่ให้ยาตัวใหม่ เป็นยา สเตียรอยด์แบบฉีดและรุนแรงมาก ซึ่งตัวผมเองก็พึ่งรู้ผลข้างเคียงของยาตัวนี้ รอบนี้รักษาตัว 4 วัน มีอาการน้ำในเยื้อหุ้มปอดลดลง แต่อาการหอบเหนื่อย ยังคงมีอยู่ 

ซึ่งช่วงเวลา วันที่ 19สิงหาคม2566-31สิงหาคม2566 ก็ได้กินยาสเตียรอยด์แบบเม็ด(กิน5เม็ดมื้อเช้า-เย็น) และเฝ้าสังเกตอาการมาโดยตลอด ซึ่งทางคุณหมอ ได้ให้การวินิจฉัยโรค แบบยังไม่สามารถสาเหตุที่แท้จริงว่า เกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวในปอด ซึ่งโรคหรือความผิดปกติดังกล่าว (หมอบอกว่าจะเจอเคส1ใน1,000,000ผมคือคนที่โชคดีใช่ไหม) ซึ่งแนวทางการรักษาตอนนี้คือกินยาสเตียรอยด์อย่างเดียว 

และปัจจุบัน 15 กันยายน 2566 อาการของผมนะตอนนี้ ก็ดีขึ้นไม่มีน้ำในเยื้อหุ้มปอดแล้ว แต่ ก็ยังมีอาการ หอบเหนื่อยอยู่บ้าง (หมอปรับยาให้กิน2เม็ดมื้อเช้า-เย็น) ซึ่งสรุปทั้ง2โรงพยาบาลที่รักษา ก็ยังไม่ทราบสาเหตุอยู่ดี ทำให้ผมอยากสอบถามว่า มีท่านผู้อ่านท่านใด มีคนรู้จักเป็นเคสแบบนี้ไหม และประกันชีวิต สามารถเบิกโรคร้ายได้ไหมเคสแบบนี้ 

ค่าใช้จ่ายของผม เคส ประกันสังคม หมดไป150,000+ ส่วนเงินส่วนตัวออกค่าใช้จ่ายค่าส่วนต่างหมดไป 40,000 กว่าบาท จึงอยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ ของการดูแลสุขภาพด้วยครับ เพราะผมเป็นคนไม่ดูแลสุขภาพตัวเองเลย จนเกิดจุดเปลี่ยนครั้งนี้ในชีวิต 

ทุกวันนี้ เหล้าเบียร์ ไม่กิน ไม่กินของทอด หัดมากินผักผลไม้เพิ่มมาก