เอลนีโญ ! อาจกระทบต่อประเทศไทยรุนแรงมากขึ้น ?
ปรากฏการณ์เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน มีลักษณะเด่นคืออุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการแปรผันของสภาพอากาศในหลายภูมิภาคทั่วโลก
ความรุนแรงของเอลนีโญสามารถแบ่งออกเป็น 4 ระดับ ดังนี้
- เอลนีโญอ่อนมาก (El Niño-like) : อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นน้อยกว่า 0.5 องศาเซลเซียส
- เอลนีโญอ่อน (El Niño) : อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นระหว่าง 0.5-0.9 องศาเซลเซียส
- เอลนีโญปานกลาง (Moderate El Niño) : อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นระหว่าง 1.0-1.4 องศาเซลเซียส
- เอลนีโญรุนแรง (Strong El Niño) : อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
จากการคาดการณ์ของศูนย์อุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า ปรากฏการณ์เอลนีโญในปี 2566 มีโอกาสที่จะรุนแรงถึงระดับปานกลางถึงรุนแรงมาก โดยมีอุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกอุ่นขึ้นมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
ผลกระทบของเอลนีโญรุนแรงสามารถส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศในหลายภูมิภาคทั่วโลก ดังนี้
- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย : เกิดฝนแล้งอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดภัยแล้ง ไฟป่า และปัญหาการขาดแคลนน้ำ
- อเมริกาใต้ : เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม
- ทวีปอเมริกาเหนือ : เกิดพายุเฮอริเคนรุนแรง
- แอฟริกาตะวันออก : เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วม
- เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ : เกิดพายุไต้ฝุ่นรุนแรง
การเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงจึงเป็นสิ่งสำคัญ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ดังกล่าว
ประเทศไทยตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยผลกระทบของเอลนีโญรุนแรงต่อประเทศไทย สรุปได้ดังนี้
- ภัยแล้ง : ประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะเกิดฝนแล้งอย่างรุนแรง ส่งผลให้เกิดปัญหาการขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญของประเทศ
- ไฟป่า : ไฟป่าอาจเกิดขึ้นได้ง่ายขึ้นในพื้นที่ที่แห้งแล้ง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อม
- ผลผลิตทางการเกษตรลดลง : ภัยแล้งส่งผลให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลง โดยเฉพาะพืชฤดูแล้ง เช่น ข้าวนาปรัง ข้าวโพด และยางพารา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารของประเทศ
- ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น : ผลผลิตทางการเกษตรที่ลดลงอาจทำให้ราคาสินค้าเกษตรสูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการ
- การท่องเที่ยวลดลง : ภัยแล้งอาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งทะเลและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ
นอกจากผลกระทบที่กล่าวมาแล้ว เอลนีโญรุนแรงอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ในประเทศไทยอีกด้วย เช่น การเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำในแม่น้ำและทะเล การเกิดโรคระบาดในสัตว์และพืช การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของสัตว์ป่า เป็นต้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีการวางแผนและเตรียมความพร้อมรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรง โดยอาจดำเนินการดังนี้
- จัดทำแผนบริหารจัดการน้ำเพื่อรับมือกับภัยแล้ง
- เตรียมความพร้อมสำหรับการดับไฟป่า
- สนับสนุนเกษตรกรในการปรับปรุงระบบการผลิตเพื่อลดความเสี่ยงต่อภัยแล้ง
- เตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น
การร่วมมือกันของทุกภาคส่วนในการเตรียมรับมือกับปรากฏการณ์เอลนีโญรุนแรงจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปรากฏการณ์ดังกล่าวได้