หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทำไมพ่อแม่ส่วนใหญ่มักส่งลูกช่วง8-12ขวบเรียนพิเศษ?

เนื้อหาโดย ilikepost

อดคิดไม่ได้เลยว่า การแข่งขันในการเรียนเพื่อที่จะได้เกรดดี หรือสอบได้ในลำดับที่ดี นั้นปกติจะมีในเด็กวัยรุ่นช่วงมัธยม หรือเคร่งเครียดเพื่อที่จะสอบเข้ามหาลัยที่ต้องการ แต่ปัจจุบันพวกเรากลับเห็นได้ชัดว่า การแข่งขันในด้านของการเรียนนั้นลามมาถึงเด็กช่วงวัย 8-12ขวบ จนเรียกได้ว่าเป็นวัฒนธรรมไปเลยก็ไม่เกินจริง เด็กแข่งขันกันเรียนอย่างเข้มข้นและเคร่งเครียดมากขึ้น

ซึ่งสิ่งนี้อาจจะไปขัดกับพัฒนาการของเด็กในช่วงวัย 8-12 ขวบหรือเปล่า ช่วงวัยนี้ควรมีเวลาได้เล่นสนุกสนานตามวัยไหม สิ่งที่จะเป็นผลกระทบของการพัฒนาการเด็กตามอายุหรือไม่ ซึ่งพัฒนาการของเด็กในวัย 8-12ขวบก็ต่างกันออกไป ดังนี้

พัฒนาการเด็กอายุ 8 ปี คือจะชอบที่จะแสดงออกกับการเล่น การแสดงต่าง ๆ เริ่มสนใจสิ่งที่ตัวเองชอบและจดจ่อกับสิ่งนั้นเป็นพิเศษ เช่น การสะสมของ วาดภาพ อ่านการ์ตูน หนังสือนินทาน ฟังวิทยุ ตัวละครที่ชื่นชอบ เป็นต้น

พัฒนาการเด็กอายุ 9 ปี สามารถแก้ปัญหาและรู้จักหาเหตุผลโดยอาศัยการสังเกต เด็กวัยนี้โตขึ้นมากแล้วและเริ่มต้องการอิสรภาพเพิ่มขึ้น และชอบที่จะเลียนแบบการกระทำของไอดอลที่ชื่นชอบ

พัฒนาการเด็กอายุ 10 ปี สามารถตัดสินใจด้วยตนเองด้วยการคิดก่อนตัดสินใจ เข้าใจวันเดือนปีและทำให้สามารถศึกษาประวัติศาสตร์สำคัญ

พัฒนาการเด็กอายุ 11-12 ปี เริ่มเห็นความคิดของเพื่อนสำคัญมากกว่าความคิดเห็นของพ่อแม่ ต้องการให้ผู้อื่นเข้าใจและยอมรับในความคิดของตนด้วย

แล้วเหตุผลอะไรบ้างที่พ่อแม่ให้ลูกเรียนพิเศษตั้งแต่อยู่ประถม

  1. ความคาดหวังกับลูกว่าโตขึ้นจะต้องทำอาชีพที่พ่อแม่คาดหวังไว้ให้
  2. เพราะค่านิยมของสังคม ที่พ่อแม่นิยมอวดลูก ยิ่งลูกใครเก่งกว่า พ่อแม่ก็จะได้หน้า
  3. ความเชื่อว่าการจดจำในวัยเด็กนั้นมีประสิทธิภาพ จะดีกว่าไปเรียนเอาตอนโตแล้ว
  4. เพราะลูกเรียนอ่อนจึงให้ลูกไปเรียนพิเศษเพิ่มเพื่อจะได้เรียนทันเพื่อน

และไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ดี การส่งลูกเรียนพิเศษไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่มันเป็นเรื่องที่ควรทำด้วยซ้ำ เพียงแค่ไหนบางครั้งพ่อแม่ควรรับฟังความเห็นของเด็กบ้าง เช่น ควรให้ลูกได้มีเวลาเล่นสนุกตามวัยบ้าง ได้เล่นกับเพื่อนๆ ได้เล่นกีฬา และมีกิจกรรมกับครอบครัว ลูกจะได้รู้สึกผ่อนคลายไม่เครียดจนเกินไป ท้ายที่สุดพ่อแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ลูกถนัดทางที่ลูกชอบ หากลูกไปทางการเรียนไม่รอดจริงๆ ก็ไม่ควรตะบี้ตะบันบีบบังคับให้ลูกเรียนเพราะสุดท้ายผลเสียก็ตกอยู่กับตัวลูกเอง

เนื้อหาโดย: ilikepost
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
ilikepost's profile


โพสท์โดย: ilikepost
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
5 VOTES (5/5 จาก 1 คน)
VOTED: ilikepost
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์ปลานับแสนตายเพราะน้ำในเขื่อนร้อนจนแห้งเพชรกล้า เด็กชายนำโชค งวด 2 พฤษภาคม 2567ไม่ควรกิน"แตงโม"ถ้าอยู่ในคน7กลุ่มนี้!!ดาราญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในกลุ่มฆๅตกรที่ฆ่ๅคนตๅยคลิปฝนตกหนัก กลายเป็นไวรัลในจีน30 แคปชั่นต้อนรับเดือนพฤษภาคม 2567 ความหมายดี สวัสดีเดือนพฤษภา hello mayสัญญาณเตือนอาการสมองเริ่มเสื่อม ถ้าเริ่มมีอาการแบบนี้ต้องระวังละเน่อภาพปริศนากุมารสร้างบุญ 2พ.ค.67
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
ฉันขายให้ผู้ดีกิน! "เดย์ ฟรีแมน" โต้ขายขนมแพง ตอกกลับเจ็บจี๊ด มีหน้าชาทุกคอมเม้นต์ข้าวไข่ดาว 2 ฟอง 70 บาทความสุขอยู่ที่ตัวเราคลิปฝนตกหนัก กลายเป็นไวรัลในจีน
กระทู้อื่นๆในบอร์ด สาระ เกร็ดน่ารู้
เตือนภัย! มิจฉาชีพแฝงตัวกับเรื่อง 18+..หลอกลวงทุกรูปแบบahead: ข้างหน้า ตรงไปข้างหน้าปลาที่มีพิษมากที่สุดในโลก หากเจอมันต้องอยู่ให้ห่างprompt: โดยทันที รวดเร็ว ทันทีทันใด
ตั้งกระทู้ใหม่