ไขปริศนาลึกลับภาพวาด เสียงกรีดร้อง ภาพวาดโดยเอ็ดวัด มุงก์ จิตรกรชาวนอร์เวย์
ไขปริศนาลึกลับภาพวาด เสียงกรีดร้อง ภาพวาดโดยเอ็ดวัด มุงก์ จิตรกรชาวนอร์เวย์
เสียงกรีดร้อง (นอร์เวย์: Skrik; อังกฤษ: The Scream) หรือ เสียงกรีดร้องของธรรมชาติ (เยอรมัน: Der Schrei der Natur) เป็นภาพวาดโดยเอ็ดวัด มุงก์ จิตรกรชาวนอร์เวย์ เป็นภาพบุคคลแสดงสีหน้าหวาดกลัวอยู่ด้านหน้า ด้านหลังมีบุคคลสองคนกำลังเดินห่างออกไป และด้านบนเป็นท้องฟ้าสีแดง มุงก์วาดภาพนี้ไว้ 4 ภาพและทำภาพพิมพ์หินจำนวนหนึ่ง โดยแบบที่เป็นที่รู้จักดีเป็นภาพวาดสีน้ำมัน สีฝุ่นเทมเพอรา และสีชอล์กบนกระดาษแข็งในปี ค.ศ. 1893 ปัจจุบันได้รับการจัดแสดงที่หอศิลป์แห่งชาติในกรุงดอนเมืองจาตุรจินดา
👉ค.ศ. 1893, สีน้ำมัน สีฝุ่น และสีชอล์กบนกระดาษแข็ง อาจเป็นภาพแบบที่รู้จักดีที่สุด เคยถูกโจรกรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1994 ก่อนจะตามคืนมาได้ในเดือนพฤษภาคม ปีเดียวกัน ปัจจุบันอยู่ที่หอศิลป์แห่งชาติ กรุงออสโล
ข้อมูลเบื้องต้น เสียงกรีดร้อง, ศิลปิน ...
มุงก์กล่าวถึงที่มาของ เสียงกรีดร้อง ในบันทึกส่วนตัวเมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1892 ว่า
ผมกำลังเดินไปตามถนนกับเพื่อนสองคน ตอนนั้นดวงอาทิตย์กำลังตกดิน ทันใดนั้นท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน ผมหยุด รู้สึกหมดแรงและพิงตัวกับราวกั้น มันเหมือนมีเลือดและเปลวไฟลอยอยู่เหนือฟยอร์ดและเมืองที่ผมอยู่ เพื่อนผมเดินจากไปแล้ว แต่ผมยังอยู่ตรงนั้น ตัวสั่นเทาด้วยความวิตก และรู้สึกได้ถึงเสียงกรีดร้องที่ดังมาจากสภาพแวดล้อมนั้น
มีการระบุว่าสถานที่ในภาพคือเนินเขาเอเกอบาร์ที่มองลงไปเห็นกรุงออสโลและฟยอร์ดออสโล ซึ่งในช่วงเวลาที่มุงก์วาดภาพนี้ เขามาเยี่ยมน้องสาวที่ป่วยเป็นโรคอารมณ์สองขั้วที่โรงพยาบาลจิตเวชที่ตั้งอยู่ที่ตีนเขา ในปี ค.ศ. 1978 รอเบิร์ต โรเซนบลัม นักประวัติศาสตร์ศิลป์ชาวอเมริกันเสนอว่ามุงก์อาจได้รับแรงบันดาลใจในการวาดบุคคลที่แสดงสีหน้าหวาดกลัวมาจากมัมมี่เปรูที่มุงก์เห็นในงานนิทรรศการโลกที่กรุงปารีสในปี ค.ศ. 1889
มีความพยายามในการอธิบายถึงสีท้องฟ้าในภาพ ทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่ามาจากความทรงจำของมุงก์ที่เห็นท้องฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากการปะทุของภูเขาไฟกรากะตัวเมื่อสิบปีก่อน ส่งผลให้ท้องฟ้ายามเย็นของซีกโลกตะวันตกมีสีแดงจัดนานหลายเดือน ในขณะที่อีกทฤษฎีหนึ่งกล่าวว่าเป็นผลมาจากเมฆมุก (nacreous cloud หรือ polar stratospheric cloud) ซึ่งเป็นเมฆที่ก่อตัวที่ชั้นสตราโตสเฟียร์และเกิดการเลี้ยวเบนของแสงจนปรากฏเป็นสีรุ้ง
👉ค.ศ. 1893, สีชอล์กบนกระดาษแข็ง อาจเป็นภาพแรก ๆ ของ เสียงกรีดร้อง ที่มุงก์วาด เนื่องจากมีการร่างองค์ประกอบในภาพ
เสียงกรีดร้อง เป็นหนึ่งในผลงานที่เป็นที่รู้จักดีของมุงก์ และเป็นหนึ่งในผลงานที่ส่งผลให้เกิดกลุ่มลัทธิสำแดงพลังอารมณ์ ช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 สีหน้าที่แสดงถึงความหวาดวิตกและสภาพแวดล้อมที่บิดเบี้ยว ทำให้ภาพนี้มักถูกเชื่อมโยงกับความผิดปกติทางจิต นอกจากนี้ยังส่งอิทธิพลต่อผลงานอื่น ๆ ในยุคหลัง เช่น หน้ากากโกสต์เฟซในภาพยนตร์ หวีดสุดขีด, ตัวละครไซเลนซ์ในซีรีส์ ดอกเตอร์ฮู และงานล้อเลียนอีกจำนวนมาก
👉ค.ศ. 1895, สีชอล์กบนกระดาษแข็ง ถูกประมูลในราคาราว 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี ค.ศ. 2012 ปัจจุบันเป็นชุดสะสมส่วนตัวของเลออน แบล็ก
👉ค.ศ. 1910, สีฝุ่นบนกระดาษแข็ง ภาพนี้เคยถูกโจรกรรมจากพิพิธภัณฑ์มุงก์ ในปี ค.ศ. 2004 ก่อนจะตามคืนมาได้ในปี ค.ศ. 2006
ก็อย่างว่าแล้วนะครับจิตรกรที่วาดภาพหรือคนที่ทำงานเกี่ยวกับศิลปะย่อมมีจินตนาการกว้างไกล บางทีภาพที่เราดูแล้วไม่น่าดูกลับเป็นภาพที่มีราคาแพงและเป็นที่น่าสนใจ
งานศิลปะต่างๆจิตรกรผู้วาดภาพย่อมแฝงปริศนาอะไรไว้ในภาพวาด คนที่มองภาพเหล่านั้นอาจจะตีความเป็นอย่างอื่นก็ได้นี่คือปริศนาและการไขปริศนาที่มาของภาพวาดที่ชื่อว่า เสียงกรีดร้อง ภาพวาดโดยเอ็ดวัด มุงก์ จิตรกรชาวนอร์เวย์