เทคนิค"ลดความอ้วน"ที่คุณอาจพลาดไป!? ทำง่ายได้ผลจริง!!
นอกจากโรคอ้วน จะเสี่ยงต่อโรคต่างๆ มากมาย อย่างโรคหัวใจ เบาหวาน หลอดเลือด ยังพบว่าความอ้วนมีส่วนทำให้เซลล์แก่ก่อนวัยด้วย และยังมีงานวิจัย ที่พบว่าโรคอ้วน เพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งอีกหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งเต้านมในวัยหมดประจำเดือน มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งลำไส้ มะเร็งกะเพาะอาหาร ดังนั้น การควบคุมน้ำหนัก ให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม จึงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคได้ ในทางกลับกัน ถือเป็นการป้องกันไม่ให้แก่ ก่อนวัย และยังทำให้ชีวิตยืนยาวขึ้นอีกด้วย
เทคนิคที่ใช้ได้จริงแบบไม่อันตราย
- จดบันทึกทุกอย่างที่กินใน 1 วัน เมนูอาหาร ของทานเล่น เครื่องดื่ม หรือสิ่งที่กินทุกอย่าง ในแต่ละวัน ช่วยให้ลดน้ำหนักได้เป็น 2 เท่าของคนที่ไม่จดบันทึก เพราะนั่นจะช่วยให้เราระวังมากขึ้นกับการเลือกทาน และพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลจริง
- จินตนาการถึงอาหารที่อยากกิน ครั้งต่อไปที่คุณหิว และอยากกินอะไรหวานๆ ขึ้นมา ลองหลับตาและนึกถึงภาพสิ่งที่คุณอยากกินที่สุดตอนนั้น มีการศึกษาพบว่า วิธีนี้จะช่วยให้คุณกินน้อยลงเมื่อถึงเวลากินจริงได้ เขาอธิบายปรากฎการณ์นี้ว่า ช่องว่างระหว่างภาพในจินตนาการ กับประสบการณ์จริงที่ได้ลิ้มรสอร่อยนั้น แคบมากกว่าที่ทุกคนคิด ดังนั้นการจินตนาการถึงอาหารจานโปรดเวลารู้สึกหิว ช่วยทำให้เราลดปริมาณการทานลงได้อย่างได้ผล
- ใช้จานชามสีฟ้า งานวิจัยพบว่าคนเรามีแนวโน้มจะทานอาหารมากขึ้น เมื่อสีอาหารเป็นสีที่เข้ากันกับภาชนะ เช่น สีขาว สีเขียว สีแดง สีเหลือง ดังนั้นการใช้ภาชนะสีฟ้า ซึ่งเป็นสีที่เข้ากันได้น้อยที่สุดกับอาหารแทบทุกประเภท จึงส่งผลให้ลดความอยากอาหารได้นั่นเอง
- ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะที่สุด มีการทดลองว่าผู้ที่ดื่มน้ำเปล่า 2 แก้ว ก่อนมื้ออาหารประมาณ 30 นาที ทุกมื้อ เป็นเวลา 3 เดือน สามารถลดน้ำหนัก จากวิธีนี้เพียงวิธีเดียวได้ถึง 3-5 กิโลกรัม และคำอธิบายเรื่องนี้คือ การดื่มน้ำช่วยทำให้กระเพาะตึงตัว และทำให้หิวน้อยลง เมื่อร่างกายเราขาดน้ำ สมองจะสั่งการให้ต่อมหิวทำงาน เพื่อเพิ่มเติมน้ำเข้าสู่ระบบ ทั้งๆ ที่บางที เรายังไม่ทันรู้สึกหิวด้วยซ้ำ ดังนั้นหากเราดื่มน้ำน้อยเกินไป ร่างกายจะตอบสนองทำให้เรากินอาหารเกินความต้องการ
- อยู่ในที่เย็นๆ เข้าไว้ งานวิจัยพบว่า คนที่อาศัยในเขตที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 19 องศาเซลเซียส จะตรวจพบว่ามีไขมันบราวน์เพิ่มขึ้น และ Brown Fat นี้มีส่วนอย่างมากในการช่วยเผาผลาญแคลอรีขณะหลับ นั่นแปลว่าการออกกำลังกายในห้องแอร์อย่างฟิตเนส จึงอาจลดน้ำหนักได้ดีกว่าการออกกำลังกายในที่ร้อนจัด แต่การให้ผิวถูกแสงแดดบ้างสักวันละ 5 นาที ก็ยังคงจำเป็นเสมอสำหรับการสังเคราะห์วิตามินดีอยู่นะ
- ตื่นเช้าสักหน่อย ถ้าต้องเลือกระหว่างตื่นแต่เช้ามาออกกำลังกายก่อนไปทำงาน กับการออกกำลังกายหลังเลิกงาน ให้คุณเลือกออกกำลังกายตอนเช้าเสมอ เพราะเขาวิจัยพบแล้วว่า การออกกำลังกายตอนเช้าส่งผลต่อการลดน้ำหนักได้ผลดีที่สุด
- ลองเล่นเวทดูบ้าง เบิร์นอย่างเดียวเพราะคิดว่าจะช่วยสลายไขมันหน้าท้องนั้น อาจไม่เวิร์คอีกต่อไป เพราะการสร้างกล้ามเนื้อนี่ล่ะ ที่จำเป็นพอๆ กัน มีสถิติพบว่าคนที่เล่นเวท 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 10 นาที และทำติดต่อกัน นาน 2 เดือน สามารถลดไขมันหน้าท้องได้เห็นผล นั่นเพราะการเล่นเวทเทรนนิ่งคือการเปลี่ยนไขมันเป็นกล้ามเนื้อ และการเล่นเวทที่หลายคนเข้าใจว่าคือการยกดัมเบลเท่านั้นก็ผิดอีก เพราะการแพลงกิ้ง (Planking) สคอวท (Squat) ง่ายๆ ก็คือเวทเทรนนิ่งที่ให้ผลดีเช่นกัน
วิธีการลดน้ำหนัก ต้องคำนึงถึงปัจจัยทางด้านจิตวิทยา และมีการพิสูจน์ผลลัพธ์ในกลุ่มผู้ทดลองจริง แถมยังทำได้ง่ายๆ เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในชีวิตประจำวันของเรา หากฝึกทำทุกวันจนเคยชินได้ เป้าหมายการลดน้ำหนักก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน