พระพิฆเนศ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ที่ประเทศไทย
องค์พระพิฆเนศ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ประวัติความเป็นมา
วัดสมานตั้งอยู่ริมแม่น้ำปางประกง ใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานของพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่นิยมมาสักการะบูชา และมีพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวม ซึ่งเรื่องราวเกี่ยวกับวัดและพระพิฆเนศให้นักท่องเที่ยวได้ทราบกันอีกด้วย ปางนอนเสวยสุขนั้นมีความหมายว่า เป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ เนื้อองค์มีสีชมพู รอบฐานมีปางต่าง ๆ ถึง 32 ปางให้ชม ภายใต้ฐานพระพิฆเนศเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเกี่ยวกับพระพิฆเนศปางต่าง ๆ พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าพระพิฆเนศไปบูชาที่บ้าน ทางวัดได้เปิดให้ประชาชนสักการะกราบไหว้องค์พระพิฆเนศ โดยจัดพื้นที่ให้เป็นศาลาริมแม่น้ำ ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศจำลองปางต่าง ๆ อีกทั้งมีพระพุทธรูป ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพร วัดสมานรัตนาราม (Wat Saman Rattanaram) เป็นวัดที่เป็นแหล่งศูนย์รวมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของศาสนาพุทธ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และองค์ทวยเทพของจีน ภายในวัดโดดเด่นด้วยเทวรูปองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขเนื้อสีชมพูขนาดใหญ่ และยังมีเทวรูปเจ้าแม่กวนอิม องค์พระราหู พญานาค ศาลเทพเจ้าจีน และพระพุทธรูปต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้แวะสักการะตามความเชื่อเพื่อความเป็นสิริมงคล นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นจุดชมทัศนียภาพริมแม่น้ำบางประกงที่มีความสวยงามอีกแห่งหนึ่งในจังหวัดฉะเชิงเทราอีกด้วย
ที่ตั้งวัดสมานรัตนาราม
ตั้งอยู่เลขที่ 2012 ตำบาลบางแก้ว อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000
เบอร์โทรติดต่อ 081-983 0400
วัดสมานรัตนาราม (วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร) มีเนื้อที่ประมาณ 26 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา เป็นวัดที่มีประวัติความเป็นมา จากการบอกเล่าต่อกันมาว่า มีคหบดีท่านหนึ่ง ชื่อว่าขุนสมานจีนประชา เป็นท่านขุนที่มีคนเคารพนับถือมาก เดิมชื่อจ่าย แซ่ตั้น ภายหลังได้เลื่อนเป็นหลวงสมานเพิ่มนคร เมื่อท่านถึงแก่กรรม ภรรยาทั้ง 2 ของท่าน (นางทับทิม และนางผ่อง) รวมถึงน้องสาว (นางยี่สุ่น) มีความศรัทธาที่จะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่หลวงสมาน จึงสร้างวัดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2422 ซึ่งเป็นวัดราษฎร์ที่ปกครองโดยคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย และตั้งชื่อว่า “วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร” ภายหลังผู้สร้างวัดได้ถวายต่อมายังพระในคณะธรรมยุต ชาวบ้านโดยทั่วไปก็ยังคงเรียกติดปากกันว่า “วัดใหม่ขุนสมาน” เรื่อยมา
จนกระทั่งช่วงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส (สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 10) ได้เสด็จออกตรวจสังฆมณฑลตามลำน้ำบางปะกง ทรงเห็นชื่อวัดไม่สอดคล้องกับตำบลไผ่เสวก จึงเปลี่ยนชื่อใหม่ให้เป็น “วัดไผ่เสวก” (ชื่อตำบลเดิม) ซึ่งต่อมาตำบลไผ่เสวกได้รวมเข้ากับตำบลบางแก้ว พระเถระและชาวบ้าน จึงได้เปลี่ยนชื่อวัดใหม่ โดยมีความตั้งใจให้มีคำว่า “สมาน” และคำว่า “แก้ว” (ตามชื่อตำบล) จึงเปลี่ยนมาเป็น “วัดสมานรัตนาราม” และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน
วัดสมานรัตนาราม หรือที่หลายคนรู้จักดีในชื่อของ วัดพระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา เพราะพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขนี้เอง ที่ทำให้วัดสมานรัตนารามแห่งนี้มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีผู้ใดมาขอพรก็มักจะสำเร็จสมดังใจหวัง จนทำให้เป็นที่นับถือของคนทั่วไปอย่างรวดเร็ว พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์นี้ มีเนื้อองค์เป็นสีชมพูและอาจเรียกได้ว่า เป็นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปางนอนเสวยสุขนั้นมีความหมายว่า เป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ เนื้อองค์มีสีชมพู