เทรนด์ทางธรกิจในไทย ปี 2567
เทรนด์ทางธุรกิจในประเทศไทยน่าจับตามองในปี 2567
ปี 2567 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงและพลิกผันมากมาย เทรนด์ต่างๆ ในโลกและประเทศไทยก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน ธุรกิจต่างๆ ควรศึกษาและเตรียมพร้อมรับมือกับเทรนด์เหล่านี้ เพื่อให้สามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
สำหรับเทรนด์ในประเทศไทยที่น่าจับตามองในปีหน้า ได้แก่
-
การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าและบริการออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคจะมองหาช่องทางการซื้อสินค้าและบริการที่สะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า ตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าถึง 1.7 ล้านล้านบาทในปี 2567
-
การขยายตัวของตลาดดิจิทัล (Digital Market) เกิดจากการพัฒนาของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจต่างๆ หันมาใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น ตลาดดิจิทัลในประเทศไทยคาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าถึง 1.2 ล้านล้านบาทในปี 2567
นอกจากนี้ ยังมีเทรนด์ที่น่าสนใจอื่นๆ อีกมากมาย เช่น
- สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี (Wellness) ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับสุขภาพกายใจมากขึ้น มองหาผลิตภัณฑ์และบริการที่ช่วยให้พวกเขามีสุขภาพดีและมีความสุข ทั้งในด้านการออกกำลังกาย อาหาร การดูแลผิวพรรณ และการดูแลจิตใจ
- ความยั่งยืน (Sustainability) ผู้บริโภคจะเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
- ความคุ้มค่า (Value) ผู้บริโภคจะคำนึงถึงความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจชะลอตัว
- เทคโนโลยีล้ำสมัย (Advanced Technology) เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ความเป็นจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) จะพัฒนาและแพร่หลายมากขึ้น นำมาใช้ในชีวิตประจำวันและภาคธุรกิจ
- ความหลากหลายและเท่าเทียม (Diversity and Inclusion) ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับความหลากหลายและเท่าเทียมในทุกแง่มุม ทั้งในสังคมและในธุรกิจ
ธุรกิจต่างๆ ควรศึกษาและเตรียมพร้อมรับมือกับเทรนด์เหล่านี้ โดยการพัฒนาช่องทางการขายและการตลาดออนไลน์ ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป