นักวิชาการกฎหมาย ชี้ ทนายความที่ทำหนังสือยื่นโนติสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายย่อมเข้าข่ายเป็นความผิดมรรยาททนายได้
""_____ ประเด็นเรื่อง " "ปังชา"" นั้น ไม่ยากเลย เพราะมีเอกสารของทางราชการเผยแพร่ออกมาแล้วว่า เครื่องหมายการค้าที่ ทางร้านขออนุญาตนั้น คือ ""#เครื่องหมายการค้าภาพ"" ซึ่งในภาพจะประกอบไปด้วยภาพประดิษฐ์ และอักษรหรือคำประดิษฐ์
ดังนั้น เครื่องหมายการค้า จึงต้องยึดตามภาพที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเป็นหลัก #และต้องใช้อ้างทั้งภาพด้วย
#มีประเด็นว่า ถ้าเจ้าของเครื่องหมายการค้า #จะหยิบยกเอาอักษรหรือคำใดคำหนึ่งของเครื่องหมายการค้ามาทำการอ้างสิทธิแบบแยกส่วน จะทำได้หรือไม่
ตัวอย่างเช่น จะเอาแต่คำ ว่า ""PangCha"" มาใช้อ้างโดยไม่นำภาพทั้งภาพมาใช้อ้าง จะทำได้หรือไม่
คำตอบ คือ #ทำไม่ได้
ดู คดีหมายเลขแดง ที่ ทป.152/2561 (ศาลชั้นต้น) วินิจฉัยว่า
""..... การใช้เครื่องหมายการค้า จะต้อใช้ทั้งภาพ (ภาพรวมของภาพทั้งหมด) จะแยกเป็นส่วนๆไม่ได้ #เพราะเมื่อแยกออกเป็นส่วนแล้วก็ย่อมจะไมใช่เครื่องหมายการค้าตามความเป็นจริง.....""
และนอกจากศาล ศาลฎีกา ยังเคยวินิจฉัยว่า
""..... #การใช้คำสามัญทั่วไปหลายๆคำมาประกอบกันเป็นเครื่องหมายการค้า หรือแม้จะดัดแปลงคำสามัญเพื่อให้มีความแตกต่างจากคำเดิมก็ตาม แต่หากการอ่านยังคงให้ความหมายเดิมก็ต้องถือว่าคำดังกล่าว ยังคงมีสภาพเป็นคำสามัญอยู่ตามเดิม เมื่อเป็นคำสามัญทั่วไป และประชาชนเมื่อได้เห็นและอ่านก็ทำให้เข้าใจแบบคำสามัญทั่วไป ก็ต้องถือว่าเป็นคำที่ไม่มีลักษณะบ่งเฉพาะ #อันเป็นคำที่ไม่พึงรับจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้า .....""
(เทียบ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 9163/2560)
จากภาพ จะเห็นว่า คำที่ประกอบอยู่ในภาพของเครื่องหมายการค้านั้น เป็นคำที่เป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้น จึงไม่เกี่ยวกับคำที่เป็นภาษาไทยเลย
ฉะนั้น คำว่า ""ปังชา"" ที่เป็นภาษาไทยจึงไม่ใช่เครื่องหมายการค้า และคำว่า ""ปังชา"" โดยสภาพก็เป็นคำสามัญซึ่งไม่อาจจะรับจดทะเบียนเป็นเครื่องหมายการค้าได้ #เพราะมีลักษณะที่ก่ำกึ่งและมีความบ่งถึงลักษณะของสินค้าหรือบริการที่ทำอยู่ (ขายขนมปังและชา) จึงไม่ใช่คำที่มี ""ลักษณะบ่งเฉพาะ""
การที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าจะห้ามการใช้เครื่องหมายการค้าได้ จะต้องเป็นกรณีที่มีบุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้าหรือลอกเลียนเครื่องหมายการค้าตามภาพเท่านั้น จะแยกตัดคำบางคำออกมาอ้างสิทธิว่าเป็นเครื่องหมายการค้าขอตนเองไมได้ แต่ทว่า #ส่วนภาพประดิษฐที่อยู่ในเครื่องหมายการค้านั้น สามารถแยกส่วนมาอ้างสิทธิได้ เพราะภาพประดิษฐ์มีบริบทคนละกรณีกับตัวอักษรหรือถ้อยคำ
ดังนั้น จากข่าว ที่ปรากฏคำว่า ""ปังชา"" ซึ่งเป็นภาษาไทย อยู่ในหนังสือทวงถามหรือ ""โนติส"" นั้นจึงเป็นหนังสือทวงถามหรือโนติสที่ #ออกโดยไม่ถูกต้องตรงตามภาพของเครื่องหมายการค้า
#การทวงถามให้ชำระหนี้ ทั้งที่ผู้ที่ถูกทวงถามไม่ได้เป็นหนี้และไม่ได้ทำละเมิดใดๆนั้น ย่อมเป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถือว่าเป็น ""ละเมิด"" และหากผู้ทำหนังสือเป็นทนายความ ย่อมเข้าข่ายเป็น ""#ความผิดมรรยาททนาย"" ได้ _____""
#คดีโลคดีธรรม
อ้างอิงจาก: fb คดีโลก คดีธรรม