สากกระเบือกับครก
วันนี้เดินเข้ามาในครัวแล้วเหลือบมองเห็น สากกระเบือ กับ ครก ตั้งอยู่ ทำให้นึกถึงในวัยเด็กที่มีหน้าที่ต้องตอยช่วยแม่ตำน้ำพริก ในตอนนั้นบอกตรงๆเลย ไม่ค่อยอยากจะช่วยตำน้ำพริกหรอกนะครับ เพราะอะไรหรือครับ ก็เพราะว่าสากกับครกในตอนนั้นมันเป็น ครกหิน ซึ่งหนักมากกกก เรียกว่ากว่าจะตำน้ำพริกเสร็จ กล้ามแขนขึ้นเป็นมัดๆเลย ทีเดียว
วิธีที่เด็กคนนึงจะช่วยแม่ตำน้ำพริกให้ละเอียดนั้นทำอย่างไรรู้ใหมครับ วิธีคือ สลับมือตำครับ...ตำด้วยมือขวา พอเมื่อย เปลี่ยนเป็นมือซ้าย เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอยู่อย่างนี้ บางครั้งสองมือ ตำช้า ๆบางครั้งตำรัวๆๆ โป๊กๆๆๆๆๆ เพราะนึกสนุก เสียงแม่ตะวาด..ระวังพริกระเด็นเข้าตา!!!! เท่านั้นแหละ ไม่ทันขาดคำ ฟัป...พริกกระเด็นเข้าตาจริงๆๆ แล้วก็จะม่เสียงเด็กร้องตามมา โอ้ยแสบบ แม่ช่วยที!! แม่ต้องเอาขันน้ำใบใหญ่ให้เอาหน้าจุ่มลงไปในขัน ให้ลืมตาในน้ำ สัก 2-3 ครั้ง ล้างพริกในตา ( บอกเลยครับ แสบมากๆ ) ฮ่าๆๆ สม...
พูดถึง ครก กับสาก เนี่ย จัดว่าเป็นของคู่กัน เหมือนกับบุพเพสันนิวาส ว่าจะต้องเกิดมาเพื่อเป็นคู่กันทุกชาติไป สากเปรียบเหมือนชายที่กำยัน ลำ่สัน ครกเปรียบหญิงที่มีรูปทรง สัดส่วนโค้งเว้า สมบูรณ์เหมาะสมกัน ครกหิน คู่กับสากหิน ครกไม้ คู่กับสากไม้
บ้านไหนแม่ครัวตำน้ำพริกเป็น ก็จะมีเสียงดังเป็นจังหวะฟังแล้วไพเราะ ดังไกล สามบ้าน แปดบ้าน พร้อมกับเรียกน้ำลายสอ จากคนที่ได้ยินเอาง่ายๆ ส่วนบ้านไหนตำไม่เป็น หรือเพิ่งเริ่มหัดตำ ก็พอจะฟังออก และคนฟังก็อมยิ้มพร้อมกับให้กำลังใจ ว่าเดี๊ยวก็เก่งเอง
สากกระเบือ กับ ครก อาจจะแบ่งแบบคร่าวๆได้เท่าที่เห็น ก็น่าจะมีอยู่ประมาณ 3 ประเภท
คือ 1. สาก กับครก หิน ส่วนใหญ่ เป็นหินแกรนิต
มักจะใช้ในกรณีที่ต้องการความละเอียดของอาหารที่ตำ
อีกประเภท คือ สากกับครกดินเผา
อันนี้ใช้กับอาหารที่ไม่ต้องการให้ละเอียดมาก เช่น ส้มตำ น้ำพริกบางอย่าง
อีกประเภทคือ สาก กับครกไม้
สากกระเบือส่วนที่นิยมใช้ส่วนใหญ่จะทำจากไม้ เพราะแข็งแรง ที่สำคัญคือ น้ำหนักเบา ส่วนใครจะใช้ประเภทไหนก็แล้วแต่ความถนัดเลยครับ..
เรื่องเล่าของครกนี้ไม่เท่าไร่ แต่เรื่องของสากเนี่ยมีให้เล่ากันอีกยาววว ทั้งเรื่องดี และไม่ดี เอาไว้เรามาเล่ากันต่อในคราวหน้าดีกว่าครับ..ตอนนี้รู้สึกหิวแล้ว ขอเมนูน้ำพริกกระปิ ปลาทู กับขาวสวยร้อนๆๆ สักจานดีกว่า .. สวัสดีครับ
คนค้นครัว.