วิธีการปลูกพืชตีกลับ หรือพืชกลับหัว
การปลูกกล้วยตีกลับ
วิธีการปลูกพืชตีกลับ หรือพืชกลับหัว
การปลูกพืชแบบนี้คือการนำลำต้นที่เป็นต้นพันธุ์ หรือกิ่งพันธุ์ มาตัดให้ได้ความยาวที่เหมาะสม(เพื่อให้ธาตุอาหารที่อยู่ในลำต้นเก่า เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของยอดอ่อนใบใหม่) ขึ้นอยู่กับชนิดสายพันธุ์ด้วย เช่น พืชที่มีการเจริญเติบโตไว สามารถใช้กิ่งหรือลำต้นที่ไม่ยาวมากนักได้ ต่างกับพืชที่ใช้เวลาในการเจริญเติบโตช้า ต้องใช้กิ่งหรือต้นพันธุ์ที่ค่อนข้างยาว เนื่องจากหากสารอาหารถูกใช้ไปหมดแล้วส่วนที่โผล่พ้นดินจะเกิดการเน่าสลายไปในที่สุด นำกิ่งหรือลำต้นพันธุ์ที่ได้ จัดเตรียมฝังลงดินโดยนำส่วนที่เป็นปลายยอด ฝังลงดินที่เรียกว่า การปลูกพืชหัวกลับ ขั้นตอนนี้คล้ายกับการปลูกพืชแบบปกติ แต่สลับกันที่นำส่วนที่เป็นส่วนด้านยอด ปักลงในดิน แทนที่จะเป็นการนำส่วนของด้านรากปกติปกติ ปักลงในดิน
ตามหลักการของการเจริญเติบโตของพืชคือการส่งอาหารจากรากสู่ใบ จากรากสู่ลำต้นขึ้นไปยังส่วนยอด ดังนั้น เมื่อพืชมีส่วนที่ไม่มีการใช้งาน หรือไม่สามารถใช้งานในส่วนนั้นได้จะมีการสลัดทิ้งคือการตัดการส่งอาหาร ทำให้ส่วนที่ไม่มีการใช้งาน หรือไม่สามารถใช้งานในส่วนได้จะมีการสลัดทิ้งคือการตัดการส่งอาหาร ทำให้ส่วนดังกล่าวเนาเสีย แห้งตายไปในที่สุด และจะเกิดการแตกยอดอ่อน หน่ออ่อนเกิดขี้นบริเวณใกล้เคียงใหม่เพื่อทำการซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย ยกเว้นไม่สามารถแตกหน่อหรือยอดอ่อนในส่วนนั้นได้ จะทำการขยายและเติบโตในส่วนอื่นต่อไป
การดูแลรักษาพืชตีกลับ
การดูแลที่รักษาพืชที่ปลูกด้วยวิธีตามธรรมชาตินี้ ไม่จำเป็นต้องดูแลมาก เพียงแต่รดน้ำใส่ปุ๋ยธรรมดาเหมือนกับการดูแลพืชปกติ เหมือนเป็นการปลูกพิชแบบปกตินั่นเอง (ต่างกันเฉพาะวิธีการปลูก) และที่สำคัญหากสามารถปล่อยให้พืชเจริญเติมโตได้เอง ก็จะเป็นการดีมาก เพราะพืช จะเรียนรู้วิธีปรับตัวและอยู่รอดได้จากสภาวะผิดปกติที่ผู้ปลูกได้สร้างขึ้น
การเพิ่มมูลค่าพืชตีกลับ
การสร้างมูลค่าเพิ่มของพืชชนิด
การสร้างมูลค่าของพืชทุกชนิด ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นพืชตีกลับ หรือพืชกลับหัว แต่สามารถที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้พืช ที่มีแนวทางการเจริญเติมโตเองตามธรรมชาติ หรือด้วยวิธีการสร้างการเจริญเติบโตให้ผิดปกติเหล่านี้ สามารถทำได้ทันที ในระหว่างพืช ที่การเติบโตพ้นช่วงต้นอ่อนมาแล้วและใกล้ที่จะให้ผลผลิต
กรณีศึกษา การปลูกกล้วยตีกลับ
การศึกษาวิธีการผลผลิตการปลูกกล้วยน้ำว้า หรือพืชตระกลูกล้วย แบบกลับหัว หรือการปลูกพืชตีกลับ 1 หัวได้ 2-4 หน่อย ใช้ระยะประมาณ 1 เดือนในการแตกหน่อ ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของต้นพันธุ์
การเพิ่มกลิ่นรสชาติ
การเพิ่มกลิ่น รสชาติกล้วย การฉีดหรือการเพิ่มกลิ่นไปยังท่อน้ำเลี้ยงจากส่วนลำต้นขอพืช โดยการเจาะและใส่หัวเชื้อกลิ่นต่าง ๆ แต่ผลที่ได้ยังไม่มีการรับประกันว่าจะได้ออกมาตามกลิ่นที่เติมหรือไม่ โดยปกติทั่วไป การเติมกลิ่นสตอเบอร์รี่ กลิ่นทุเรียน พิสูจน์แล้วว่าสามารถทำได้ ส่วนกลิ่นอื่น ๆ เช่นกลิ่นส้ม กลิ่นใบเตย กลิ่นนมแมว ยังอยู่ในขั้นทดลองเนื่องจากพืช มีการขจัดสารที่เป็นหัวเชื้อกลิ่นออกมาทำให้เจือจางได้ง่าย ดังนั้น เกษตรกรส่วนใหญ่จึงต้องมีการลงทุนในเรื่องของการเพิ่มกลิ่นค่อนข้างมาก
-------------------------------------------------------