เรื่องสั้นสยองขวัญ..ตอนเปรตข้ามหลังคาวัด
เรื่องสั้นสยองขวัญ..ตอนเปรตข้ามหลังคาวัด
เรื่องที่ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ เป็นประสบการณ์ที่ผมเคยประสบพบเจอมา..
ในตอนที่ผมยังเด็ก ตอนนั้นอยู่ชั้นป 5 ผมและเพื่อนๆ ชอบเรื่องลี้ลับกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องชอบลองของ แต่บอกไว้ตรงนี้ก่อนเลยนะครับ ว่าส่วนใหญ่จะชอบฟังกันมากกว่า ถึงเวลาจริงๆพวกผมกับเพื่อนๆก็ไม่มีใครกล้าหรอกครับ..แฮ่ะๆ
พ่อผมเป็นตำรวจครับ วันนั้นเขามีการจัดเลี้ยงกันบริเวณรอบๆโรงพัก ผมและเพื่อนๆอีก 3 คน ก็ได้ไปกินฟรีกันครับ กินเสร็จแล้วก็จะได้วิ่งเล่นกันอะไรประมาณนี้ วันนั้นหลังจากที่พวกเรากินกันจนอิ่มหนำสำราญแล้ว พวกเราทั้ง 4 คน ก็มานั่งอยู่ที่บริเวณโต๊ะหินอ่อน ซึ่งอยู่ใกล้กับประตูโรงพักด้านหลัง ประตูโรงพักด้านหลังจะติดอยู่กับวัดเลยครับ มีเพียงถนนสำหรับรถวิ่งกั้นอยู่
เพื่อนของผมก็นึกสนุกขึ้นมา...อยู่ๆก็ถามพวกเราขึ้นมาว่า..อยากเห็นผีเปรตหรือเปล่า
พวกเราเคยฟังเรื่องนี้กันมาหลายครั้ง หลายๆคนก็อาจจะคุ้นหูอยู่นะครับ เขาเล่าต่อๆกันมาว่า ถ้าเราเอาข้าวต้มใส่ถุง แล้วเอามัดติดกับไม้ยาวๆ แล้วชูไม้สูงๆเดินรอบวัด 3 รอบ ในเวลากลางคืน...
ผีเปรตก็จะปรากฏตัวออกมา เพื่อมากินข้าวต้มที่ติดอยู่กับปลายไม้ครับ...
หลายคนคงจะคุ้นๆหูใช่หรือเปล่าครับ...
วันนั้นเรา 4 คนก็เตรียมตัวทำพิธี เพื่อจะล่อผีเปรตให้ออกมากินข้าวต้ม แต่ปัญหาคือในงานไม่มีข้าวต้มสิครับ เพื่อนของผมก็เลยไปขอข้าวสวยใส่ถุงมานิดหน่อย แล้วเอาน้ำเปล่าเทใส่ จากนั้นพวกเราคนก็เดินไปที่บริเวณข้างกำแพงวัดครับ เพื่อนผมคนนึงไปหยิบเอาไม้ที่ใช้สอยมะม่วงมา พอมัดถุงข้าวกับปลายไม้เสร็จเราก็เดินเข้าไปในวัดครับ
บรรยากาศวัดในตอนกลางคืนกับกลางวันแตกต่างกันลิบลับเลยครับ...
คืนนี้บริเวณรอบๆวัดไม่ได้เปิดไฟ มีเพียงแสงไฟบนถนนที่สาดส่องเข้าไปภายในวัด ผมและเพื่อนเดินชูไม้สูงจนพ้นหลังคาวัด
พวกเราเดินวนรอบวิหารกัน จนครบ 3 รอบ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเหนื่อยครับ แต่ก็ปนความตื่นเต้นนิดๆ ..เหมือนจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เพื่อนผมเอาไม้ที่มัดถุงข้าวต้มไว้ที่ปลายไม้วางพาดกับหลังคาวัดไว้ จากนั้นเราก็เดินกลับเข้าไปนั่งพักในบริเวณงานกินเลี้ยงกันต่อ...
เรานั่งกันได้สักพักใหญ่ๆ ผมก็นึกขึ้นได้ว่าผมลืมหมวก..แถมยังเป็นหมวกใบใหม่ที่แม่ผมพึ่งซื้อให้ด้วย ถ้าทำหายไปกลับไปบ้านต้องโดนด่าแน่ๆ
ผมจำได้ว่าถอดไว้ก่อนที่จะเดินรอบวัด
นึกได้ดังนั้น ด้วยความที่กลัวหมวกจะหาย ผมก็ลุก และวิ่งข้ามถนนเข้าประตูวัดไปโดยที่ไม่ได้บอกเพื่อนๆเลย
ผมเดินไปยังจุดที่วางหมวกไว้ ซึ่งไม้ที่มัดถุงข้าวไว้ก็ยังอยู่ ผมเห็นหมวกวางอยู่ตรงนั้นก็อุ่นใจ เดินไปหยิบหมวกขึ้นมาใส่
อยู่ๆก็มีกลิ่นเหม็น เหม็นมากๆลอยเข้ามาเตะจมูกผม เป็นกลิ่นสาบ เหมือนกับกลิ่นของคนที่ไม่ได้อาบน้ำมาหลายวัน...สักพัก..เสียงหมาในวัดก็เห่าหอน เสียงของพวกมันโหยหวนไปหมด ผมตกใจตอนนี้แหละครับ ใส่เกียร์หมาวิ่งไปที่ประตูหลังวัดอย่างไม่คิดชีวิต...
พอผมไปถึงประตูหลังวัด ก็มองกลับมาดูเพียงแว๊บนึง ภาพที่ผมเห็นคือ...
เงาดำๆ สูงใหญ่ สูงจนขาของมันสามารถยืนคล่อมหลังคาวัดได้เลยครับ ถึงผมจะเห็นเพียงแว๊บเดียว ผมก็มั่นใจว่านั่นคือผีเปรตแน่นอน ผมรีบวิ่งเข้าไปในงานเลี้ยง และวิ่งกลับบ้านทันทีโดยที่ไม่ได้ไปแวะหาเพื่อนๆ...
รุ่งเช้า ผมมีอาการไข้ขึ้นสูงมาก...ก็จะไม่ให้ไข้ขึ้นได้ยังไงล่ะครับ เพราะกลับมาก็นอนคลุมโปงทั้งคืน ...รุ่งเช้า ผมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แม่ของผมฟัง
แม่ผมก็เลยพาไปหาพระที่วัดไกล้บ้าน เพื่อรดน้ำมนต์ จากการที่พระ ฟังเรื่องราวที่แม่เล่าให้ท่านฟัง ว่าผมไปเจออะไรมา พระท่านบอกว่า คงจะเป็นผีเปรตนายบุญมา ที่หิวกระหาย และมาหาส่วนบุญ ผมกับแม่ก็เลยพากันไปซื้อสังฆทาน และทำบุญกับพระอาจารย์เลย พร้อมกับให้พระอาจารย์สวดส่งบุญให้กับผีเปรตนายบุญมาด้วย...
จากนั้นผมกลับมากินยาแก้ไข้ไป 1 เม็ด ช่วงบ่ายอาการผมก็ดีขึ้นทันตาเห็นเลยครับ
หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น ผมก็ไม่ได้เข็ดหลาบหรอกนะครับ ยังสนุกสนานกับการท้าทายสิ่งลึกลับอยู่ ยังมีเรื่องเราอีกเยอะครับที่ผมจะเล่าให้ฟัง...
ท้ายนี้ขอคุณผู้อ่านเมตตาเป็นกำลังใจให้กับผม ด้วยการกดติดตาม กด 5 ดาว และกดแชร์เรื่องราวสนุกๆนี้ออกไป ให้กับผู้ที่ชื่นชอบในเรื่องลึกลับ ได้อ่านกันทุกคนนะครับ
ขอบคุณครับ