คนโดนของ ! จะรู้ได้อย่างไร ?
ไสยศาสน์อีสานใต้ เป็นความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาช้านานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ของประเทศไทย เชื่อกันว่าไสยศาสตร์เป็นพลังอำนาจเหนือธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์หรือโทษได้ ขึ้นอยู่กับเจตนาของผู้ที่ใช้
ไสยศาสน์อีสานใต้มีรากฐานมาจากความเชื่อทางศาสนาพื้นเมืองดั้งเดิมของชาวอีสานใต้ ซึ่งผสมผสานกับความเชื่อทางศาสนาพุทธและศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ความเชื่อเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้ไสยศาสน์อีสานใต้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างจากไสยศาสน์ในภูมิภาคอื่นๆ ของประเทศไทย
ไสยศาสน์อีสานใต้แบ่งออกเป็นสองประเภทหลักๆ ได้แก่
- ไสยเวทย์ หมายถึง การใช้เวทมนตร์คาถาเพื่อดลบันดาลให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นตามต้องการ เช่น การทำให้ฝนตก การทำให้โชคดี การทำให้รักใคร่กัน ฯลฯ
- ไสยศาสตร์ หมายถึง การใช้พลังอำนาจเหนือธรรมชาติเพื่อทำร้ายหรือทำลายผู้อื่น เช่น การทำคุณไสย การทำเสน่ห์ การทำเสน่ห์ยาแฝด ฯลฯ
ไสยเวทย์และไสยศาสตร์เป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมารุ่นสู่รุ่น มักได้รับการถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์หรือหมอไสยที่มีความเชี่ยวชาญ ผู้ที่ฝึกฝนไสยเวทย์หรือไสยศาสตร์จำเป็นต้องมีสมาธิและการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะสามารถใช้พลังอำนาจเหนือธรรมชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไสยศาสน์อีสานใต้มีบทบาทสำคัญในสังคมอีสานใต้มาโดยตลอด มักถูกใช้เพื่อปกป้องคุ้มครองตนเองและครอบครัวจากภัยอันตรายต่างๆ หรือเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต ความเชื่อเหล่านี้ยังคงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้ในปัจจุบัน
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างความเชื่อทางไสยศาสน์อีสานใต้บางส่วน:
- ผี เชื่อว่าผีเป็นวิญญาณของคนตายที่ยังไม่ไปสู่ปรโลก มักปรากฏตัวเพื่อเตือนภัยหรือทำร้ายผู้ที่ล่วงละเมิด
- เจ้ากรรมนายเวร เชื่อว่าการกระทำใดๆ ที่เราทำลงไปย่อมมีผลตอบสนองตามมา การกระทำดีย่อมได้รับผลดี การกระทำไม่ดีย่อมได้รับผลร้าย
- บุญ-บาป เชื่อว่าการกระทำใดๆ ของเราย่อมมีผลต่อชีวิตของเราทั้งในชาตินี้และชาติหน้า การทำบุญย่อมนำความสุขมาสู่ชีวิต การทำบาปย่อมนำทุกข์มาสู่ชีวิต
ไสยศาสน์อีสานใต้เป็นความเชื่อที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวอีสานใต้ เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดต่อไป
วิธีสังเกตุว่าถูกมนต์ดำ
ความเชื่อเรื่องมนต์ดำเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ที่เชื่อในเรื่องนี้จึงควรศึกษาข้อมูลและหาวิธีการที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม มีความเชื่อบางประการที่ผู้คนมักใช้สังเกตว่าตนเองถูกมนต์ดำหรือไม่ ดังนี้
- มีอาการผิดปกติทางร่างกายหรือจิตใจ เช่น ฝันร้ายบ่อยครั้ง นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดหัว ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้อาเจียน อารมณ์แปรปรวน ซึมเศร้า วิตกกังวล หวาดกลัว ฯลฯ
- เกิดอุบัติเหตุหรือประสบเหตุการณ์ร้ายแรงบ่อยครั้ง เช่น ตกจากที่สูง ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ไฟไหม้บ้าน ฯลฯ
- มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายหรือทรัพย์สิน เช่น พบสิ่งแปลกปลอมอยู่ในร่างกาย เช่น เข็ม ด้าย เศษผ้า ฯลฯ พบรอยขีดข่วน รอยเจาะ รอยไหม้ ฯลฯ ของใช้ในบ้านเสียหาย ฯลฯ
- มีคนมาทำร้ายหรือรังแกโดยไม่ทราบสาเหตุ
หากพบว่าตนเองมีอาการหรือเหตุการณ์ผิดปกติเหล่านี้ อาจเป็นไปได้ว่าตนเองถูกมนต์ดำ แต่ทั้งนี้ อาการเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้เช่นกัน ดังนั้นจึงควรไปพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริงก่อนตัดสินใจว่าตนเองถูกมนต์ดำหรือไม่หากพบว่าตนเองถูกมนต์ดำ ก็มีวิธีการต่างๆ ในการแก้มนต์ดำ ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น
ปราบอวิชา แก้มนต์ดำ เป็นความเชื่อทางศาสนาและวัฒนธรรมไทยที่สืบทอดกันมาช้านาน เชื่อกันว่าการทำคุณไสยหรือมนต์ดำ เป็นการกระทำที่ผิดศีลธรรมและอาจก่อให้เกิดผลร้ายแรงต่อผู้ที่ถูกกระทำได้ ดังนั้นจึงมีวิธีการต่างๆ ในการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำ ไม่ว่าจะเป็นการไปหาหมอผี หมอธรรม หรือพระสงฆ์ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ วิธีการต่างๆ ในการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำนั้นอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเชื่อและแนวทางของแต่ละบุคคล แต่โดยหลักแล้วมักจะเน้นไปที่การชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกจากตัวผู้ที่ถูกกระทำ และการเสริมพลังอำนาจให้กับผู้ที่ถูกกระทำเพื่อให้สามารถต้านทานการทำร้ายจากการทำคุณไสยหรือมนต์ดำได้
วิธีการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำที่นิยมกัน ได้แก่
- การอาบน้ำมนต์ เป็นการอาบน้ำด้วยน้ำที่มีส่วนผสมของสมุนไพรหรือของมงคลต่างๆ เช่น ใบมะตูม ใบพลู ใบรางจืด มะนาว เกลือ น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น เชื่อว่าน้ำมนต์จะช่วยชำระล้างสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกายของผู้ที่ถูกกระทำ
- การสวดคาถา เป็นการสวดคาถาหรือบทสวดต่างๆ ที่ถูกเชื่อว่ามีพลังในการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำ เช่น บทสวดมหาจักรพรรดิ บทสวดพระคาถาชินบัญชร เป็นต้น
- การกินยาหรือของขลัง เป็นการกินยาหรือของขลังที่ถูกเชื่อว่ามีพลังในการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำ เช่น ยาแก้คุณไสย ตะกรุด ผ้ายันต์ เป็นต้น
- การไปหาหมอผีหรือหมอธรรม เป็นการไปปรึกษาหมอผีหรือหมอธรรมที่มีความเชี่ยวชาญในการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำ หมอผีหรือหมอธรรมอาจใช้วิธีการต่างๆ ในการปราบอวิชาและแก้มนต์ดำ เช่น การสะเดาะเคราะห์ การไล่ผี เป็นต้น
การปราบอวิชาและแก้มนต์ดำเป็นความเชื่อส่วนบุคคล ผู้ที่เชื่อในเรื่องนี้จึงควรศึกษาข้อมูลและหาวิธีการที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด