มังกรแดนใต้ จุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตบนโลก | บทความ, นิยายวิทยาศาสตร์
บทความเรื่อง
มังกรแดนใต้ จุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตบนโลก
“จินตนาการและความรู้สำคัญเท่ากัน” ผู้เขียนยังยืนยันคำกล่าวนี้ สำหรับผู้เขียนเองมีความคิดเห็นส่วนตัวว่าการที่เรามีความรู้ แล้วเรารู้จักจินตนาการ จะทำให้เราได้จุดเริ่มต้นของความรู้ใหม่ และเมื่อเราค้นคว้าค้นหาความรู้ใหม่ แล้วนำความรู้ใหม่มาจินตนาการ เราก็จะได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยิ่งในปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีของโลกก้าวหน้าขึ้นมาก การเรียนรู้ยิ่งทำได้ง่าย ความรู้มีให้เรียนรู้มากมาย ตั้งแต่ในโลกของเราไปจนถึงอวกาศก็มีความรู้ให้เราได้ศึกษาค้นคว้า
เคยมีคนสงสัยว่า ความรู้บางอย่างที่ไกลตัวของเราอย่างเช่นเรื่องอวกาศนั้น เรามีความรู้แล้วเราจะนำไปใช้อะไรได้ ในเมื่อเราไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับอวกาศ ความรู้นั้นจะมีประโยชน์กับเราอย่างไร ผู้เขียนก็มีเพียงคำตอบในใจผู้เขียนเองว่า สักวันเราอาจจะได้ใช้ความรู้นั้น อาจจะเป็นการเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น อาจจะได้ทำงานในสถานที่ทำงานเกี่ยวกับอวกาศ แต่ที่แน่ๆ ความรู้นั้น หากเราเอามาจินตนาการ ก็จะทำให้เราได้ความรู้ใหม่ๆ ไม่มีที่สิ้นสุด
มังกรแดนใต้
“มังกรแดนใต้” ผู้เขียนคิดคำนี้ได้เนื่องจากผู้เขียนได้เห็นร่องรอยของโลกที่ถูกชนบริเวณขั้วโลกใต้ผ่านเทคโนโลยีปัจจุบัน ร่องรอยนั้นถ้าจินตนาการก็จะเหมือนกับรูปหัวมังกรในภาพยนต์ มีตา มีเขา มีฟัน
จากจินตนาการของผู้เขียน ร่องรอยในบริเวณดังกล่าว โลกถูกชนด้วยวัตถุขนาดไม่ใหญ่มากและวัตถุนั้นเคลื่อนที่เร็วมาก โดยเป็นความเร็วที่มากพอที่จะสร้างแรงให้โลกหมุนรอบตัวเองได้ และนี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โลกหมุนรอบตัวเองจนเสียสมดุลและเกิดการเคลื่อนที่ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในอดีตก่อนที่จะเกิดการชนกันครั้งนี้ โลกอาจจะอยู่นิ่ง ไม่ได้หมุนรอบตัวเอง ไม่ได้มีการเคลื่อนที่ ไม่มีชั้นบรรยากาศ ไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ จนกระทั่งเกิดการชนกันครั้งนั้นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตบนโลกของเรา
ลักษณะร่องรอยที่ถูกชนของโลก
ร่องรอยของโลกที่ถูกชนนั้น จุดกระแทกอยู่ที่บริเวณขั้วโลกใต้ มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 500 – 600 กิโลเมตร และมีร่องรอยของวัตถุที่ชนนั้นไถลไปอีกประมาณ 27,000 กิโลเมตร จุดสิ้นสุดอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่ง มีความเป็นไปได้ว่าวัตถุที่ชนนั้นอาจจะมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีความเร็วมาก อาจจะมีความเร็วใกล้เคียงหรือเท่ากับความเร็วแสง จึงจะสามารถสร้างแรงมหาศาลทำให้โลกที่อยู่นิ่งหมุนรอบตัวเองได้ วัตถุที่ชนโลกนั้นอาจจะเป็นอุกกาบาต สะเก็ดดาว หรืออาจจะเป็นยานพาหนะของสิ่งมีชีวิตจากดาวดวงอื่น ที่กำลังเดินทางกลับดาวบ้านเกิด แต่เกิดอุบัติเหตุชนกับโลกก่อน ซึ่งถ้าดูจากทิศทางการชน ดาวดวงนั้นอยู่บริเวณที่เราเห็นเป็นกลุ่มดาวนายพราน
มีความเป็นไปได้ว่าก่อนที่โลกจะถูกชนนั้น โลกอาจจะอยู่นิ่ง ไม่ได้หมุนรอบตัวเอง ไม่ได้มีการเคลื่อนที่ ไม่มีชั้นบรรยากาศ ไม่มีอากาศ ไม่มีน้ำ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดๆ จนกระทั่งโลกถูกชนด้วยวัตถุขนาดไม่ใหญ่มาก แต่มีความเร็วมาก อาจจะมีความเร็วใกล้เคียงหรือเท่ากับความเร็วแสง โดยการพุ่งชนนั้นเกิดขึ้นในลักษณะที่ทำให้โลกเกิดการหมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็ว เหนี่ยวนำให้เกิดการเคลื่อนที่ของอะตอมเป็นลูป และมีความเร็วเท่าแสง สร้างเส้นแรงแม่เหล็กขึ้นมารอบโลก ซึ่งการเคลื่อนที่ของอะตอมนั้นได้สร้างแรงดึงดูดเหนี่ยวนำให้สิ่งที่อยู่รอบๆ อะตอมนั้นรวมถึงโลก เคลื่อนที่ตามไปด้วย และยังคงเคลื่อนที่ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด. 71-4