วิ่งชน ปะทะกับเจ้าหนี้เพื่อความเป็นอิสระ
ถ้าจะว่าไปผู้เขียนเกิดมาในครอบครัวชาวสวน เรื่องความขยัน ไม่ต้องพูดถึง มีมาแต่เด็ก แต่ที่พ่อแม่ ไม่ได้สอนคือ การใช้เงิน ผู้เขียนเก็บเงินไม่อยู่ พอได้มาเรียนระดับอุดมศึกษา ก็กู้ กยศ. จนจบ และมีงานทำ มาถึงจุดวิกฤตตอนมีครอบครัว ชักหน้าไม่ถึงหลัง วนกดบัตร จ่ายขั้นต่ำ ที่ไหนเปิดให้ทำก็สมัครใหม่ เพิ่มดินที่หางไปเรื่อยๆ จนขยับตัวไม่เดิน โดนโทรทวงเงินทุกวัน ผ่าน ทางพวกพ้อง พี่ น้อง หรือแม้แต่หัวหน้างาน ก็ฝากมาทวง บางทีเจอเจ้าหน้าที่ พูดจาไม่เพราะ ทวงถามเหมือนเป็นเจ้าหนี้ซะเอง ผู้เขียนถึงกับปรี๊ดแตก จนรู้ว่าตัวเองอารมณ์เปลี่ยน ดึงผมเล่น แก้เครียด จนติดถึงทุกวันนี้ (ตัวอย่างไม่ดีนะคะ อย่าหาทำ รีบปรึกษาแพทย์ ก่อนผมจะหมดหัว 555)
พอถึงจุดๆ นึง ผู้เขียน อ่านเข้าหาธรรมเป็นที่พึ่ง อ่าน ฟัง ซึ่งบทความต่างๆ ทำให้ผู้อ่าน มีแรงสู้อีกครั้ง ด้วยคติที่ว่า
ปัญหามา ปัญญาจะเกิด , เมื่อเจอปัญหาเข้ามาในชีวิต อย่าคิดที่จะหนี เพราะจะไม่จบ เราต้องวิ่งเข้ามัน พุ่งชนมันให้แตกกระเจิงไปเล้ย
มาถึงตรงจุดนี้ ผู้เขียนนึกถึงคำสอนของพระพุทธเจ้า คือ อริยสัจ 4 ทันที (จำได้สมัยเรียน ให้เพื่อนลอกแลกกับวิชาอื่น )
เรามาหาทางออกที่มันจบๆ กันดีกว่า ตามมาเลย จ้า
1. สร้างแรงจูงใจให้ตัวเอง ให้ได้
แรงจูงใจของผู้เขียน ไม่อยากจมปรักกับการอยู่แบบนี้ วันๆเจอแต่คนทวง ใครๆเห็น เค้าก็มอง ผู้เขียนอ่านสายตาพวกเขาออกว่าในใจคิดอะไร ผู้เขียนบอกกับตัวเองว่า เราจะไม่เป็นแบบนี้แล้ว แรงจูงใจอย่างที่ 2 คือ ครอบครัว ด้วยความเป็นอยู่ที่มั่นคงหลุดพ้นวิกฤตมาได้ เราก็จะได้อบรมสั่งสอนให้เห็นตัวอย่างการใช้จ่ายแบบไม่มีการวางแผน จะต้องเจอไรบ้าง
2.จงมีความมุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ
อย่าละทิ้งความมุ่งมั่นที่จะทำเสียกลางทาง อย่ามัวแต่คิด ต้องเริ่มที่จะลงมือทำได้แล้วตัวเรา ยิ่งเรามุ่งมั่นมากเท่าไหร่ หนี้ก็จะหมดเร็วขึ้น
3.วางแผนการ
นำข้อมูลการเป็นหนี้ออกมาจัดลำดับ มีกี่ที่ บัตรกี่ใบ บัตรประชาชนไม่ต้อง 555 นำมาเรียบเรียงความสำคัญโดยดูจากจำนวนวงหนี้ /การส่งหนี้ การขาดส่ง / การฟ้องร้อง และหาช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงของการทิ้งโค้งปลดหนี้ หรือทำการดิวโดยตรงกับเจ้าหนี้ขอปรับโครงสร้างก็จะดี เพราะเจ้าหนี้เล็งเห็นความมุ่งมั่นของเรา เค้าอาจใจอ่อน
ทั้งนี้การวางแผนเป็นสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อจะลงมือทำอะไรสักอย่าง ยิ่งกับการปลดหนี้ด้วยแล้ว การวางแผนการจะทำให้เราจัดสรรเงิน และจัดลำดับความสำคัญของหนี้ก้อนต่างๆได้ดีขึ้น ทำให้ไม่มีปัญหาทางการเงินตามมาในภายหลัง
4.กำลังใจคือสิ่งสำคัญเช่นกัน
กำลังใจจากพ่อแม่ หรือคนในครอบครัว และจากเพื่อน เป็นยาชูกำลังชั้นดีให้จิตใจเข้มแข็ง มีแรงใจในการปลดเปลื้องหนี้สินได้เป็นอย่างดี เพราะกำลังใจนั้นทำให้สามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเส้นทางการปลดหนี้ได้ นอกจากนี้กำลังใจยังช่วยให้เรามีความพยายามที่จะปลดหนี้มากขึ้นด้วยที่สำคัญ อย่าลืมให้กำลังใจตัวเราเองนะจ๊ะ เชื่อมั่นว่าเราทำได้
5.ลงมือตามแผนการที่วางไว้
ลงมือทำได้แล้ว รอไร เร็วๆๆๆๆๆๆ ตัวเรา ให้รีบบอกกับตัวเอง นะจ๊ะ
6.เสียสละเพื่อที่จะได้มาซึ่งความสำเร็จ
รายจ่ายอะไร ที่ไม่จำเป็นในชีวิต ตัดมันทิ้งไป เอาหลัก 5 ส. เข้ามาใช้ จะดีมากๆ เลย ของที่ไม่จำเป็นกับชีวิต อย่าซื้อ อย่าซื้อ 5555
7.อย่าได้ยอมแพ้กับการปลดหนี้ง่ายๆ
เราจะต้องสู้อย่างสุดใจ อย่ายอมแพ้ แม้บางครั้งหนทางจะดูยากลำบากเสียเหลือเกิน แต่ไม่มีอะไรที่ยากเกินความพยายาม คิดแบบนี้ จะสบายใจ เมื่อท้อขึ้นมา ให้ย้อนกลับไปอ่านข้อ .1 นะจ๊ะ
8.ระลึกถึงขีดจำกัดของตนเองอยู่เสมอ
วิทำบัญชี รายรับ-รายจ่าย ของเราอย่างสม่ำเสมอ เราจะรู้ว่า วันนึงเราหมดเงินไปกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนึงเราต้องใช้เท่าไหร่
ที่สำคัญที่สุด เราอย่าลืม บุญคุณบุพการี พ่อพระ แม่พระ ในบ้านของเรา ดูแลท่าน ให้มีความสุข ทั้งกาย ทั้งใจ มีน้อย เราก็มอบให้ตามน้อย ไม่มีพ่อ แม่คนไหน จะทับถมลูกได้ลงหรอก นะจ๊ะ
ผู้เขียนหวังว่า ประสบการณ์ ของผู้เขียน อาจจะช่วยเป็น 1 แรงบันดาลใจให้เกิดแรงฮึด ที่จะต่อสู้กับปัญหาได้ ไม่มากก็น้อย
สวัสดีค่ะ
ฝากติดตามกันด้วยนะคะ
อ้างอิงจาก: https://moneyhub.in.th/article/ 8 วิธี ปลดหนี้ แบบไฮสปีด!
นำหัวข้อมาเป็นแนวทางจัดลำดับ