ความมหาโหดของพี่ไทยใน "สงครามโลกครั้งที่ 1"
ไม่ว่าสมัยไหนเรามักจะได้ยินตลอดว่าสยามเป็นชาติที่ "รักสงบ" แต่เชื่อไหมว่า...ใน "สงครามโลกครั้งที่ 1" สยามแลนด์เนี่ยกลับเป็นฝ่ายบอกเขาร่วมสงครามเองซ่ะงั้นจ้าา!!! นอกจากนั้นทหารไทยที่ได้ถูกส่งเข้าไปร่วมในสงครามโลกครั้งนี้เนี่ย ก็เก่งถึงขนาดรอดชีวิตมาเกือบหมดด้วยนะจ๊ะ ไม่ธรรมดาละซิกับพี่สยามเรา..... มีทหารไทยที่เสียชีวิตแค่ 19 คนเอง ทำไมทหารไทยเก่งแบบนั้น แล้วทำไมได้เข้าไปร่วมสงครามโลกครั้งที่ 1 เดี๋ยวผู้หญิงชอบเล่นจะบรรยายให้ฟัง......
สงครามโลกครั้งที่ 1 เป็นสงครามที่กินเวลาไปจนถึง 4 ปีเลย หรือระ
หว่างปี 1914 - 1918 โดยเป็นการบวกกันของพี่มหาอำนาจใหญ่ ๆ อย่างเช่นฝ่ายพันธมิตร ที่มีตัวตี ตัวตั้งหลัก ๆ เลยก็คือ อังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย กับฝ่ายมหาอำนาจกลางที่มีเยอรมัน ออสเตรเลีย และฮังการี เมื่อพี่ทั้ง 2 ฝ่ายได้ตีกันอย่างเมามันส์ ประเทศต่าง ๆ ก็เริ่มเอากับพี่เขาด้วย ซึ่งเหตุการทะเลาะกันของสงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดจากมีมงกุฎราชกุมารของชาติหนึ่งได้โดนยิงเสียชีวิต และนำไปสู่ความขัดแย้งจนกระทั่งทั่วโลกได้ยกขึ้นมาบวกกันนี่แหละค่ะ
พี่สยามตอนแรกก็วางตัวเป็นกลาง ข้าไม่มั่วกับเจ้านะ เพราะข้านะ "รักสงบ" และอีกเหตุผลหนึ่งพี่ไทยเราเป็นคนมีเมตตาไง สงสารเขาไปหมด มันเลยทำให้พี่เราวางตัวเป็นกลางไม่อยากวุ่ยวายกับใคร แต่ทว่ามีชาติหนึ่งได้ไปเข้าร่วมสงครามโลก ทำให้กดดันประเทศต่าง ๆ ที่ทำตัวเป็นกลาง รักสงบ ข้าไม่รู้ ข้าไม่เห็น ซึ่งชาตินั้นก็คือ......พี่อเมริกานั่นเอง!!! ที่พี่แกก็ยังคงแบบนี้มาถึงปัจจุบัน โอเคพี่ เริ่มเล้ยยยยย โดยพี่แกก็ยกเหตุผลแบบเอาแม่น้ำทั่วโลกมาอธิบายหลักประชาธิปไตย ความยุติธรรม ด้วยการตบท้ายว่า "เออพี่ไทย ไอได้ข่าวว่าอยู่ยืนศีลธรรม ธรรมมะ ยูจะอยู่เฉย ๆ เหรอ ไม่ช่วยพี่พันธมิตรเขาหน่อยอ้าาาาาา" แต่อาจจะฟังว่าพี่สหรัฐฯ เนี่ยมีความยุติธรรมจัง แต่เดี๋ยวก่อนที่พี่แกออกมาปั่นทุกชาติเนี่ย เพราะการที่เยอรมันเข้ามาปิดน่านน้ำของฝรั่งเศสและอังกฤษเนี่ย มันทำให้พี่แกเสียผลประโยชน์ เนื่องจากพี่แกเอาของมาขายไม่ได้ พี่แกเลยฉลาด เล่นกดดันทุกประเทศเลย จบ ๆ
ความกดดันที่ว่าเนี่ย มากระตุ้นพี่ไทยเพราะพี่แกเล่นส่งข่าวสาร จดหมายมามากมาย ว่าเยอรมันไม่ดีขนาดไหน เอาสิ!! จนข่าวนี้ไปถึงหูพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ท่านก็รู้สึกไม่ปลอดภัย และระแวงการคุกคามของเยอรมัน คือได้เห็นความโหดร้ายที่เยอรมันทำกับประเทศอื่น ๆ ด้วยเหตุนี้เอง พี่ไทยประกาศสงครามกับฝ่ายเยอรมันทันที เมื่อประกาศไปแบบนี้พี่อังกฤษ และพี่ฝรั่งเศสยิ้มสิค้าารอไรรร
แต่ไม่ใช่เพราะความกดดันอย่างเดียวนะ เพราะระหว่าง 2 ฝ่ายทุบตี กระโดดถีบกันเนี่ย พี่ไทยเราก็นอนตีพุงดูอยู่ว่าชาติไหนนะที่จะชนะ เดี๋ยวเราก็ค่อยไปเกาะมันให้ชนะด้วยดีกว่า ถ้าจะบอกว่าชาติอเมริกาเป็นชาติที่ชอบกดดันคนอื่นมาตลอด อ้อแกไม่รู้จักเราเสัยแล้ว เราอะมีพี่ศรีธนญชัยเป็นไอดอล รู้จักเปล่าฉลาดเป็นกรดอะ เมื่อรัชกาลที่ 6 เห็นว่าเยอรมันกำลังจะแพ้เลยเขียนประกาศสงครามกับเยอรมันทันที บอกว่าพันธมิตรคือไทยเราอยู่ข้าง ๆ เธอนะ โอ๋ ๆ นะ ซึ่งอีกเหตุผลหนึ่งถ้าเราอยู่เฉย ๆ จนเขาตีกับแพ้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง พี่สยามเราจะซวยได้ เพราะถึงบอกว่าเยอรมันไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับใครเท่าไหร่ แต่ก็มีสิทธิพิเศษ ทรัพย์สินบางอย่างของเยอรมันอยู่ที่ไทยเช่นกัน รัชกาลที่ 6 เลยกังวลว่าถ้าเยอรมันแพ้ เดี๋ยวพันธมิตรมันก็อ้างอีกว่าก็ไทยอะมีของเยอรมันอยู่เยอะ ไหนเอามาสิ เราจะยึดเป็นของเรา ซึ่งทางเราก็ไม่สามารถไปห้ามได้ด้วยเพราะเยอรมันแพ้สงครามอีก แต่ถ้าสยามยอมเข้าร่วมกับฝ่ายพันธมิตร มันจะเป็นประโยชน์มากกว่า เพราะอาจจะว่าพี่ไทยเนี่ยสามารถไปเจรจาต่อรองกับอังกฤษ ฝรั่งเศสให้ยกเลิก หรือว่าแก้ไขสัญญาที่มันชอบมาทำเพื่อเอารัดเอาเปรียบเรา ไงฉลาดเป็นกรดสมคำร่ำลือจริง ๆ พี่สยามเรา
แต่นอกจากนั่นมันยังมีเรื่องเล่าอีกคือ.....ในเบื้องหน้าที่ชาติสยามที่วางตัวเป็นกลางมาตลอด ไม่ไปยุ่งกับใคร แต่ทว่าลึก ๆ แล้วเนี่ย ชาวสยามแอบระแวงเยอรมันตลอดเลย จากหลักฐานที่เป็นจดหมายต่าง ๆ ซึ่งรัชกาลที่ 6 ได้สั่งให้เลขาของท่านได้เขียนจดหมายลับส่งไปถึงทูตไทยต่าง ๆ ที่ไปประจำการอยูู่ต่างประเทศประมาณว่า ท่าทีของเยอรมันที่ผ่านมาเนี่ย ไม่ค่อยน่าไว้ใจ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอให้ทุกท่านจับตาดูฑูตเยอรมันจากทุกที่ ที่ท่านได้ประจำอย่างใกล้ชิดด้วย
แต่ประเด็นเมื่อสยามเข้ามาแล้วจะไปสู้กับใครได้ละค่ะ เพราะกองทัพของบ้านเราได้ไม่ถึงครึ่งของเขา อาวุธ ขนาดตัว อะไรเนี่ยสู้เขาไม่ได้ร้อกก พี่ไทยเลยตัดสินใจช่วยฝ่ายพันธมิตรด้วยจิตใจแทน ประมาณว่าทำให้เป็นพิธีหน่อยว่า ไทยอยู่ข้างเธอนะ พร้อมโอ๋เธอตลอด อย่างเช่น สยามได้ฆ่าหรือขับไล่รัฐบาลที่เป็นฝ่ายเยอรมัน ฮังการีออกไป หรือว่าเข้าไปยึดเรือส่งสินค้าของทางเยอรมันหน่อย ให้ฝ่ายพันธมิตรเห็นว่าเนี่ยนะ เราทำเพื่อเธออยู่นะ แต่ที่ยึดเรือมาได้เพราะตอนนั่นเยอรมันมันเห็นว่าประเทศไทยเป็นกลางไง จะไปไว้หรือจอดที่ประเทศอื่นเดียวมันจะยึดเอา แต่ทว่าที่เยอรมันคาดไม่ถึงว่าคนไทยจะประกาศสงครามกับเยอรมัน เยอรมันก็เลยกลัวว่าเรือจะโดนยึด เลยระเบิดเรือทิ้งเลย แบบข้าไม่ได้ เอ็งก็อย่าหวัง แต่เราก็ไปหยุดการระเบิดได้ทัน และยึดเรือสินค้ามา และจับลูกเรือมาอีก 300 คนเพื่อเอามาขัง แต่พี่เราก็สงสารไงเล่นดูเล่นเขาอย่างดี เหมือนลูกในไส้ จนทำให้ฝ่ายพันธมิตรมองมารู้สึกไม่พอใจ เลยบังคับให้ส่งไปยังอินเดีย เพื่อไทยแสดงให้เห็นว่า พี่ไทยอยู่ข้างเธอนะ สงครามก็ยังคงดำเนินต่อไป จนไทยเนี่ยไม่มีอะไรทำดูเหมือนอยู่ข้างเฉย ๆ ไม่ได้ช่วยอะไร ชาติเราเลยต้องมีนโยบายหน่อย ก็คือการส่งทหารไปช่วยบ้าง ถึงแม้เป็นทหารที่ไม่ได้เก่งกาจขนาดนั่น แต่พี่ไทยก็ส่งทหารข้ามเรือไปหลายสัปดาห์เลย ซึ่งการส่งทหารไปครั้งนี้นอกจากไปช่วยพันธมิตรแล้ว บ้านเราก็ยังติดอีกอย่างหนึ่งให้ทหาร ก็คือให้ทหารเหล่านี้ไปเรียนรู้เทคนิค และเทคโนโลยีบ้านเขามาให้มากที่สุด เมื่อที่กลับมาจะได้เอามาพัฒนาประเทศเราต่อ รวม ๆ แล้วประเทศไทยเราส่งทหารไป 1200 กว่าคน และทหารที่เราส่งไปเป็นทหารอาสาสมัครที่เขาเต็มใจจะไป แต่เมื่อไปถึงผิดคาด เพราะเรือที่ส่งทหารของเราได้ไปเข้าจอดเราก็ได้รับการต้อนรับแบบห่วยแตก เพราะเห็นเป็นคนเตี้ย ๆ ดำ ๆ จะมาสู้อะไรได้ โดยที่ไม่รู้เลยว่าทหารที่ส่งมา 1200 กว่าคนเนี่ย มันไม่ใช่ต่างอาณานิคม แต่เป็นอาสาสมัครมา พอรัชกาลที่ 6 รู้ว่าทหารฝ่ายนั่นดูแลทหารไทยไม่ดี เลยส่งทหารไปตอบโต้กับทางฝรั่งเศส จนเกิดการทะเลาะกันเล็ก ๆ จากนั่นการฝึกก็ดำเนินไปถึง 2 เดือน จนมีความสามารถและได้ไปบุกเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง และทหารไทยเราก็ยึดเมืองนั่นสำเร็จ ส่วนฝ่ายทหารอากาศของไทยที่ได้เข้าไปฝึกกับเขา ก็ฝึกอยู่นานมาก นานจนไม่ได้ออกรบอะไรเลย จนเยอรมันประกาสแพสงครามเอง เมื่อกลับมาในไทยก็มีการประกาศว่าทหารไทยต่างไปแค่ 19 คนเอง แต่ทว่าที่ตายไปส่วนใหญ่เพราะเป็นโรคระบาด มิใช่ตายเพราะรบสงคราม เพื่อชนะสงครามพี่ฝรั่งก็ยกเลิกสัญญาที่เคยทำกับเราให้