ไขปริศนา..สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา (Bermuda Triangle) หรือที่เรียกกันว่า สามเหลี่ยมปีศาจ (Devil's Triangle) เป็นพื้นที่สมมุติทางตะวันตกของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ อยู่ระหว่างฟลอริดา เปอร์โตริโก และเกาะเบอร์มิวดา ซึ่งมีการอ้างกันว่าอากาศยาน และเรือหลาย ๆ ลำ ได้หายสาบสูญไป ณ บริเวณแห่งนี้โดยหาสาเหตุไม่ได้
นักวิทยาศาสตร์ นักสมุทรวิทยา และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ต่างก็พากันพยายามที่จะค้นหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ส่วนมากก็ทำได้แค่เพียงตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีหลายทฤษฏีดังต่อไปนี้
- ทฤษฎีที่ 1 การแปรผันของสนามแม่เหล็กโลก เป็นไปได้ว่า บริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าเป็นบริเวณที่สนามแม่เหล็กมีความเข้มข้นสูง จึงทำให้เกิดการผิดพลาดในการทำงานของเครื่องวัดระดับ และเข็มทิศประจำเครื่อง เครื่องบินจึงดิ่งลงสู่มหาสมุทร และถูกดูดกลืนหายไปอย่างรวดเร็ว
- ทฤษฎีที่ 2 ประตูมิติ เป็นไปได้ว่าบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านั้น ตั้งอยู่ในจุดสมดุลของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า กับพลังของสนามแรงโน้มถ่วง ซึ่งทำให้เกิดช่องว่างที่เชื่อมต่อกับอีกมิติหนึ่งในห้วงเวลาอวกาศ เมื่อวัตถุได้หลุดผ่านเข้าไปอีกมิติแล้ว ก็จะไม่สามารถกลับออกมาได้อีกเลย
- ทฤษฎีที่ 3 เทคโนโลยีชั้นสูง เป็นไปได้ว่า อาจจะมีมนุษย์ต่างดาว หรือมนุษย์ที่อาศัยอยู่ใต้มหาสมุทรในบริเวณนั้น ต้องการขโมยเรือหรือเครื่องบิน และสิ่งมีชีวิตลงไปภายใต้มหาสมุทร เพื่อศึกษาหรือทดลองอะไรบางอย่าง ข้อสันนิษฐานนี้ก็สอดคล้องกับรายงานที่ว่า มีผู้พบเห็นจานบินลึกลับร่อนไปร่อนมาอยู่เหนือสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้าอยู่หลายครั้ง
- ทฤษฎีที่ 4 กระแสน้ำวนมหาศาล นักประดาน้ำมักจะพบเห็น ”ปล่องน้ำเงิน” อยู่ตามหุบผาใต้น้ำ และแหล่งหินปะการัง ในท้องทะเลนอกฝั่งบาฮามัส มีลักษณะเป็นอุโมงค์หรือปล่องใต้ทะเล โดยทั่วไปแล้ว มักเป็นที่อยู่ของปลาที่ไม่ค่อยได้พบกันที่ผิวน้ำ ปล่องเหล่านี้เกิดจากถ้ำหินประการังถูกกัดกร่อนด้วยกระแสน้ำใต้ทะเลมาเป็นเวลานับหลายหมื่นปี ปล่องจำนวนมากต่างมีทางแยกออกไปในหลายทิศทาง มีกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว ทำให้น้ำบริเวณปากปล่องนั้นไหลวนเข้าไปภายในอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดการหมุนเป็นกรวยเหนือพื้นน้ำในลักษณะของวังน้ำวน ซึ่งสามารถที่จะดึงดูดเรือเล็ก พร้อมด้วยคนบนเรือ ลงสู่ก้นมหาสมุทรอย่างรวดเร็ว
- ทฤษฎีที่ 5 ก๊าซมีเธน นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโมนาช กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ได้รายงานว่า ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวนั้น เป็นพื้นที่ ๆ มีก๊าซมีเธนอยู่ภายใต้ท้องทะเลอยู่เป็นจำนวนมาก จนทำให้ปะทุขึ้นเหนือท้องทะเล ซึ่งก๊าซมีเธนนี้เอง เมื่อขยายตัวเป็นวงกว้างแล้ว ไม่ว่าวัตถุใด ๆ ก็ตามที่เคลื่อนที่ผ่าน มันก็จะดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่างให้จมลงสู่ห้วงท้องทะเลลึกอย่างรวดเร็ว
แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พศ.2565 ที่ผ่านมา ทาง The Mirror ได้รายงานว่า คาร์ล ครุสเซลนิค นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ได้อ้างว่า เขาได้ไขปริศนานี้สำเร็จแล้ว และมันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งเหนือธรรมขาติแต่อย่างใด คาร์ลเชื่อว่า การหายตัวไปอย่างลึกลับของเครื่องบิน และเรือนั้น ไม่มีอะไรไปมากกว่าสภาพอากาศที่เลวร้าย และความผิดพลาดของมนุษย์นั่นเอง
"เครื่องบิน และเรือหลายลำที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยในพื้นที่นี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมนุษย์ต่างดาว หรือเมืองแอตแลนติสที่หายสาบสูญ...ในพื้นที่ดังกล่าวนี้อยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร ใกล้กับส่วนที่มั่งคั่งของโลกนั่นก็ คืออเมริกา ดังนั้นจึงมีการจราจรที่หนาแน่น" คาร์ลกล่าว