ต้มยำปลาช่อน ของแม่ กับ ปลาของพ่อ
วันนี้เรามีเรื่องเกี่ยวกับพ่อของเรามาเล่าให้ฟังเพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง เรื่องเล่าของพ่อเราอะอย่างเยอะบอกเลย มีให้เล่าได้ยาวๆ หลายๆเรื่องเลยหล่ะ
ถ้าใครเคยต้องนั่งทำปลาแบบทีหล่ะเยอะๆ ทำทีเป็น กะละมัง ๆ ทำกันอยู่แค่สองคนน่าจะเข้าใจความรู้สึกของคนเรานะว่าเป็นยังไง
อย่างที่เคยเล่าในเรื่อง ยำอึ่งใส่มะม่วง สูตรของแม่ ไปครั้งที่แล้ว ก็จะรู้ว่า พ่อของเรานะเป็นคนชอบออกหาของมากิน ชอบออกหาของมาทำกับข้าวต่างๆ ก็ตามแบบฉบับของคนต่างจังหวัด คนเมืองกาญฯ จ้า บ้านอื่นยังไงไม่รู้ แต่บ้านเราเป็นแบบนี้ นี่หล่ะครอบครัวของฉัน
ครั้งก่อนฝนตกพ่อฉันออก หาอึ่ง หากบ ใช่ม่ะ แต่มาครั้งนี้ พ่อฉันออกหาปลาจ้า หาที่ว่าไม่ใช่แบบ หว่านแห ลงตะคัด เอามากินแบบเล็กๆ น้อย ๆ นะจ้า ระดับพ่อฉันนะ ทำแบบปกติเขาไม่ค่อยได้หรอก แต่ก็มีบ้างหล่ะที่บ้างครั้ง แค่ไปลงตะคัด หาปลามาแบบไม่เยอะน่ะ
แต่ครั้งนี้พ่อฉันกับเพื่อนๆพ่อ เขาสูบน้ำออกจากสระเพื่อจับปลาไง เลยได้ปลามาแบบเยอะแยะที่เดียว คนหาคนจับอะไม่เท่าไหร่หรอกสนุกกันไป ส่วนคนทำปลานี้ซี้ ทำตั้งแต่ช่วงสาย จะเกือบจะเย็น ได้ ปลามาสาระพัด สายพันธ์ เรากับแม่ นี้นั่งทำปลา จนจะกลายเป็นปลาเสียเองแล้ว แม่อะไม่ค่อยเท่าไหร เพราะคอยผ่าปลาแบะ ทำปลาแดดเดียว แต่เรานี้สิ นั่งขอดเกล็ดปลาให้แม่ ขอดไปขอดมาเกล็ดปลากระเด็น มาอยู่บนตัวเรา จนเราจะกลายเป็นปลาแทน ปลาในกะละมังแล้ว เกล็ดปลากระเด็นมาติด จากเกล็ดปลาเปียกๆ จนเกล็ดปลาแห้ง ติดแขน ติดขา อะคิดดู
เรามีหน้าทีขอดเกล็ดปลา เราจะให้ช้อนสั้นมา ขอดเกล็ดปลาแทนมีดนะ เพราะต้องทำปลาเยอะถ้าใช้ มีดขอดเกล็ดไปเรื่อยๆ มือจะลื่นเพราะตัวปลามีเมือก จะทำให้มีดที่ใช้ขอดเกล็ดปลา มีดอาจจะลื่นแฉลบเข้ามือเป็นแผลเอาได้ ให้ช้อนขอดเกล็ดปลา จะทำปลาได้ง่ายกว่า จับปลาถนัดมือกว่าไม่ต้องกลัวเข้ามือด้วย
ตัวเราขอดเกล็ดปลา แม่เราผ่าแบะปลาเพื่อทำปลาแดดเดียว มีทั้ง ปลาซิว ปลาสร้อย ปลาตะเพียน ปลากะดี่ ปลาหม้อ ปลาบู่ก็มา ปลาช่อนก็มี ปลาดุกก็ตามมา ปลากระทิงก็ไม่น้อยหน้า ปลาสลาดก็ถามมาอีก ปลาหลากหลายสายพันธ์ หลากหลายชนิด
ปลาตัวไหนยังเป็นๆ ก็เอาไปใส่โอ่งน้ำแช่ไว้ก่อน อย่าง ปลาหมอ ปลาช่อน ปลาดุก ปลากระทิง ปลาบู่ ปลาพวกนี้ตายยาก แต่อย่าใส่น้ำในโอ่งเยอะนะ เดี่ยวปลาจะกระโดดออกกันหมด ใส่แค่พอให้มีน้ำให้ปลาอยู่ได้ เอาผักบุ้งใส่ลงไป ให้ปลาเหมือนมีที่หลบหน่อย แต่ต้องขยันถ่ายน้ำออกนะ เดี่ยวน้ำเน่าปลาจะตาย
เวลาเอาปลาเป็นๆ ไปใส่โอ่งไว้ แล้วมีปลาบู่อยู่ด้วย เราก็จะกลายเป็น ลูกเอื้อยผู้แสนดี เอาแม่ปลาบู่ ไปแอบปล่อยในสระที่ขุดไว้หลังบ้าน ก็อย่างว่าอะนะ ตอนนั้นละครแม่ปลาบู่กำลังดัง เราก็ต้องเป็นลูกที่ดี เอาแม่ปลาบู่ไปปล่อยไง ปลาเยอะแอบปล่อยบ้างพ่อเราไม่รู้หรอก แต่จะปล่อยไปหมดทุกตัวก็ไม่ได้อะนะ เราก็เป็น ลูกเอื้อย ที่ดีปล่อยแม่ปลาบู่ ตัวเล็ก ตัวใหญ่ ได้แค่บางตัว
ส่วนปลาซิว ปลาสร้อย ปลาตะเพียน ปลากระดี่ ก็เอามาขอดเกล็ด ผ่าแบะ ทำปลาแดดเดียว ส่วนตัวเราชอบทำปลากระดี่นะ เพราะทำง่ายสุด ขอดเกล็ดตัดหัวควักไส้ปลาออกแค่นี้เสร็จแล้ว แล้วเราก็ชอบกินปลากระดี่ทอดที่สุดอะ
ส่วนปลาที่ไม่ชอบทำที่สุดก็ ปลาหมอไง แหลมคมทั้งตัว มีอาวุธปกป้องตัวเองรอบตัวใครเคยทำ หรือ รู้จักปลาหมอจะรู้กันดีว่าถ้าโดน คุณหมอเขาตำมือเมื่อไหร่ เจ็บปวดรวดร้าวระบบเมื่อนั้นหล่ะ อย่าต้องให้เล่าเลย
เรากับแม่ นั่งทำปลาไปสองกะละมังใหญ่ๆหล่ะ ปลาในกะละมังเหลือไม่เยอะไม่น่าจะเกิน 10 ได้ เรานี้นั่งยิ้มแล้ว ปลาจะหมดแล้วไม่ต้องทำปลาแล้ว นั่งทำไปยิ้มไปแบบสบายใจแป้ปเดี่ยว พ่อมาจ้า มาถึง เทโครมปลาเต็มกะละมังอีกแล้วจ้า เรานี้นั่งทำไปน้ำตาตกในไป ทำไปมากๆ เข้า นานๆ เข้า เรานี้ต้องแอบขยำปลาตัวเล็กทิ้งกันเลยทีเดียวไม่ไหวจะทำ
เวลาทำปลาห้ามบ่น ถ้าบ่นปุ้บ พ่อบ่นกลับปั้บ คนอื่นเขาต้องหาซื้อกินกัน นี้หามาให้กินฟรีไม่ต้องซื้อยังจะบ่น ถ้าวันไหนต้องซื้อปลามากินวันนั้นหล่ะจะรู้สึก จ้านั่นหล่ะพ่อฉัน เรานี้นั่งเถียงในใจเลยนะ ซื้อกินก็ได้ ซื้อแค่ที่จะกินก็พอ
แล้วอยากจะบอกว่าปลาที่เรากับแม่นั่งทำกันเป็นวันๆนะ ทำปลาแดดเดียวตากนะ ทำเสร็จก็จะใส่ถุงเก็บไว้ได้เยอะเลยหล่ะ 5-6 ถุงใหญ่ ก็เอามาทอดกินกับข้าวร้อนๆ คู่ น้ำพริกกะปิ อย่างอร่อย แต่ไม่ได้อร่อยแค่บ้านเรานะ อร่อยเผื่อแผ่ไปยันบ้านเพื่อน บ้านญาติ ที่ไม่ต้องหาปลากันเลยทีเดียว
ทำไมนะหรอ ไม่อยากจะบอก ก็เวลาเพื่อนบ้าน หรือ ญาติมาเที่ยวที่บ้าน ก่อนกลับ พ่อเราเอาหล่ะ ไปแบ่งปลาแห้งใส่ถุงมาให้เขาเอากลับไปกินบ้านกันจ้า ใครมาเป็นให้ ใครมาเป็นแจก หมดจ้าปลาที่ฉันกับแม่ นั่งทำกันนั้นหล่ะ พ่อเรา มีการบอกว่าหมดเราก็หาใหม่ได้เราหาเป็น แต่เขาหากันไม่เป็นก็แบ่งๆกันไปกิน เป็นไงหล่ะ คนดีศรีสยามหล่ะ
เรากับแม่นี้นั่งมอง แม่เราคราวหลังหามาก็ทำเองแล้วกันนะ ทำเสร็จแล้วแจกเพื่อนขนาดนั้นนะ แต่ก็ได้แค่บ่นไปแค่นั้นหล่ะถึงเวลาพ่อหามา เรากับแม่ก็กลับมานั่งอยู่นะจุดเดิมที่เดิม จะอะไรหล่ะก็ต้องกลับมานั่ง ทำปลาเหมือนเดิม เหมือนมีไทม์แมชชีนย้อนเวลากลับที่เดิม
ส่วนปลาสลาด ( ปลาฉลาด ) เป็นปลาเนื้อน้อยเนื้อละเอียด เนื้อจะคล้ายปลากราย เลย จะต่างกันตรง ปลาสลาดไม่มีจุดตรงหาง ปลากรายจะมีจุดอยู่ตรงหาปลา เราจะเอามาแล่แล้วขูดเอาเฉพาะเนื้อปลามาทำกับข้าว
ส่วนกับข้าวเย็นนี้แม่เราจะทำ เมนูต้มยำปลาช่อน เพราะพ่อเราอยากกิน เครื่องไม่เยอะ ก็อย่างที่บอกบ้านเรามีครบแทบจะทุกอย่างอยู่แล้ว มาเตรียมเครื่องทำต้มยำปลากันเถอะ มาทำต้มยำปลากันเถอะ
เริ่มจาก ขุดข่า ตัดตะไคร้ เก็บใบมะกรูด ใบกระเพรา มะนาว พริกขี้หนู ของที่ต้องเก็บครบ หอมแดง พริกขี้หนูแห้งมีในบ้านอยู่แล้ว กลับมาทำปลาช่อน ขอดเกล็ด ตัดส่วนหัวปลาผ่าครึ่ง แล่พุงปลาช่อนเก็บไว้ หั่นชิ้นปลาช่อนขนาดพอดี เสร็จแล้วขยำล้างปลาด้วยเกลือป่น ล้างน้ำสะอาดจนหมดเมือกปลา ล้างจนสะอาด
เอาหม้อใส่น้ำตั้งเตาเปิดไฟ ปลอกและทุบหอมแดงใส่ลงไป ทุบตะไครหั่นเป็นชิ้น หั่นข่า ใบมะกรูดใส่ลงไปต้ม น้ำเริ่มเดือดใส่ปลาช่อนลงไป ปิดฝาห้ามคนเดี่ยวมีกลิ่นคาว แต่คอยซ้อนฟองออกด้วยนะ น้ำต้มยำจะได้ใส่ ระหว่างรอ หันมาทอดพริดแห้ง ให้มีกลิ่นหอม รอให้เย็นแล้วตำพอละเอียด
รอจนน้ำต้มปลาช่อนเดือด ปรุงรสด้วย น้ำปลา ชิมให้ออกเค็มนิดหน่อย ได้รสชาติตามต้องการใส่ใบกระเพราลงไป ปิดฝา ดับไฟ เป็นอันเสร็จ เวลาจะกินต้มยำ บ้านเราตำพริกขี้หนูสด บีบมะนาว ใส่ถ้วย ตักต้มยำปลาช่อนใส่ลงไป โรยหน้าด้วยพริกแห้งทอดที่ตำพอหยาบ แค่นี้ก็พร้อมกินกับข้าวแล้ว ( บ้านเราจะไม่ปรุงมะนาวลงในหม้อนะ จะทำกินแบบนี้ถ้วยต่อถ้วย เราว่าได้กลิ่นมะนาวสดใหม่หอมดี )
ทอดปลาแดดเดียว ตำน้ำพริกกะปิ เพิ่มอีกอย่างแค่นี้ก็พร้อมกินข้าวเย็นแล้ว หรือ จะเป็นปลาสดทอดเกลือ กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ก็อร่อย
นี้ละวิถีชีวิตของบ้านเรา ยังมีเรื่องให้เล่าให้ฟังอีกหลายเรื่อง เดี่ยวจะทยอยมาเล่าให้ฟังกันนะคะ พ่อเรานะเรื่องเล่าเยอะ
LOMA 🐬🐬