ปลานิล: เคล็ดลับการเลี้ยงปลานิลให้ได้ผลดี
ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงในประเทศไทย เนื่องจากเป็นปลาที่โตเร็ว เลี้ยงง่าย และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ปลานิลสามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ่อดิน บ่อซีเมนต์ และกระชัง เคล็ดลับในการเลี้ยงปลานิลให้ได้ผลดีมีดังนี้
- เลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ดี พ่อแม่พันธุ์ที่ดีควรมีลักษณะดังนี้
- แข็งแรง ไม่เป็นโรค
- มีขนาดใกล้เคียงกัน
- มีอายุไม่ต่างกันมาก
- มีสีสันที่สวยงาม
-
การเตรียมบ่อเลี้ยง บ่อเลี้ยงปลานิลควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 10 ตารางเมตร บ่อควรมีความลึกประมาณ 1 เมตร บ่อควรมีระบบน้ำเข้าออกที่ดี เพื่อไม่ให้น้ำเน่าเสีย บ่อควรมีพืชน้ำอยู่บ้าง เพื่อเป็นแหล่งอาหารและที่หลบซ่อนของปลา
-
การอนุบาลลูกปลา ลูกปลานิลควรอนุบาลในบ่ออนุบาลที่มีขนาดไม่น้อยกว่า 1 ตารางเมตร บ่ออนุบาลควรมีระบบน้ำเข้าออกที่ดี บ่ออนุบาลควรมีพืชน้ำอยู่บ้าง เพื่อเป็นแหล่งอาหารและที่หลบซ่อนของลูกปลา
-
การให้อาหาร ปลานิลเป็นปลากินพืชและสัตว์ขนาดเล็ก อาหารหลักของปลานิลคือ ไรแดง กุ้งฝอย และหนอนแดง ปลานิลควรได้รับอาหารวันละ 2-3 ครั้ง ปริมาณอาหารควรให้มากพอที่จะทำให้ปลากินหมดเกลี้ยง
-
การกำจัดโรคและศัตรูพืช ปลานิลอาจเป็นโรคและศัตรูพืชได้ โรคที่พบบ่อยในปลานิล ได้แก่ โรคเหงือกเน่า โรคตับอักเสบ โรคจุดขาว และโรคหนอนสมอ ศัตรูพืชที่พบบ่อยในปลานิล ได้แก่ กบ เขียด งู นก และแมลง เกษตรกรควรหมั่นตรวจดูปลาในบ่อเลี้ยงเป็นประจำ เพื่อหาโรคและศัตรูพืช และควรรีบกำจัดทันที
-
การจับปลา ปลานิลสามารถจับได้เมื่อมีอายุประมาณ 6-8 เดือน ปลานิลที่จับควรมีขนาดไม่น้อยกว่า 200 กรัม
การเลี้ยงปลานิลเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ที่ดีให้กับเกษตรกรไทย ปลานิลเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย โตเร็ว และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เกษตรกรจึงสามารถเลี้ยงปลานิลได้ตลอดทั้งปี เคล็ดลับในการเลี้ยงปลานิลให้ได้ผลดีมีดังนี้ เลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ดี เตรียมบ่อเลี้ยงให้เหมาะสม การให้อาหารอย่างเพียงพอ การกำจัดโรคและศัตรูพืช และการจับปลาเมื่อปลาโตพอสมควร