"พลเอกประยุทธ์"กับทำงานทางการเมือง
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รับราชการทหารอยู่ที่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ หรือ "ทหารเสือราชีนี" มาโดยตลอด โดยเริ่มมาจากตำแหน่งผู้บังคับการกองพัน จนถึงผู้บังคับการกรม จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ และรับตำแหน่งรองแม่ทัพภาคที่ 1
ในรัฐประหารโดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ที่มี พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งขณะนั้นมียศเป็น "พลตรี" ก็เป็นผู้หนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการยึดอำนาจด้วยรับคำสั่งตรงจาก พล.ท. อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 หลังจากนั้นเมื่อ พล.ท. อนุพงษ์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบกและเลื่อนชั้นยศเป็น "พลเอก" พล.ต. ประยุทธ์ก็ได้เลื่อนชั้นยศขึ้นเป็น "พลโท" และรับตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 และได้รับแต่งตั้งให้เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ด้วย
พล.อ. ประยุทธ์ ได้รับตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ระหว่างวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2551 ถึง 14 กันยายน พ.ศ. 2551 และรับตำแหน่งรองผู้อำนวยการกองอำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553 พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารบกต่อจาก พล.อ. อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่เกษียณอายุราชการในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เป็นต้นไป
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ถึง 22 ธันวาคม พ.ศ. 2554 และเป็นหนึ่งในคณะดำเนินคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา พ.ศ. 2554
รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557
ก่อนหน้านี้วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร กองทัพบกตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) และให้ยกเลิกศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.)
พล.อ.ประยุทธ์ ได้มีการเรียกหน่วยงานต่างๆ เข้ามาหารือ ทั้งผู้แทนรัฐบาล, วุฒิสภา, คณะกรรมการการเลือกตั้ง, พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาธิปัตย์, นปช. และ กปปส. ณ สโมสรทหารบก วิภาวดีรังสิต เพื่อหาข้อสรุปในการก้าวผ่านวิกฤตการณ์ทางการเมือง แต่ไม่สามารถหาข้อยุติได้
ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 พล.อ.ประยุทธ์ได้เข้าควบคุมการบริหารประเทศ และทำการปลดรัฐบาลรักษาการ และได้ประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลงยกเว้นหมวด 2 คณะรัฐมนตรีรักษาการหมดอำนาจ ตลอดจนให้ยุบวุฒิสภา จนเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ซึ่งให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และรัฐสภา วันที่ 21 สิงหาคม 2557 มีมติเป็นเอกฉันท์ 191 เสียงจากสมาชิกในที่ประชุม 194 คน ลงมติให้พลเอกประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี มีพิธีรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งในวันที่ 25 สิงหาคม 2557
"ประวัติคราวๆของท่านมีดังนี้"
การศึกษา
ประถมศึกษาปีที่ 7 โรงเรียนสหะกิจวิทยา
มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย
มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนวัดนวลนรดิศ
โรงเรียนเตรียมทหาร รุ่น 12
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) รุ่น 23 เหล่าราบ
หลักสูตรจู่โจม (เสือคาบดาบ) รุ่นที่ 39 โรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษ
หลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 94 โรงเรียนศูนย์สงครามพิเศษ
หลักสูตรชั้นนายร้อย รุ่นที่ 51 โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ
หลักสูตรชั้นนายพัน รุ่นที่ 38 โรงเรียนทหารราบ ศูนย์การทหารราบ
หลักสูตรเสนาธิการทหารบก (หลักสูตรหลักประจำ) ชุดที่ 63
หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 20 วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร
-บทความนี้เขียนขึ้นเป็นเกร็ดสาระความรู้ มิได้มีเจตนาอื่นแต่อย่างได
"มีอะไรผิดพลาดต้องขออภัยไว้ณที่นี้ด้วย ขอบคุณครับ"