มนุษย์ในอนาคต
โฮโมเซเปียนส์ เป็นมนุษย์ที่รู้จักสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ มากมาย และก้าวหน้ากว่าสายพันธุ์อื่น ได้พบหลักฐานหลายอย่างที่แสดงถึงการประดิษฐ์ หรือการสร้างสรรค์งานฝีมือของมนุษย์สายพันธุ์นี้ เช่น มีเทคโนโลยีใหม่ในการทำเครื่องมือหิน มีเครื่องมือที่ทำจากกระดูกสัตว์และเปลือกหอย มีเครื่องประดับ มีพิธีกรรมฝังศพ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างงานศิลปะต่างๆ เช่น งานประติมากรรม งานเขียนภาพ ที่ยังปรากฏหลักฐาน อยู่ตามผนังถ้ำต่างๆ จำนวนมาก |
เมื่อประมาณ ๑๒,๐๐๐ ปีมาแล้ว มนุษย์หลายแห่งในโลกรู้จักทำการเกษตรกรรม มีการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ มีประชากรเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ต่อมาเมื่อราว ๘,๐๐๐ ปีมาแล้ว ก็มีชุมชนขนาดใหญ่พัฒนาจากหมู่บ้านขึ้นเป็นเมือง จนกระทั่งมีการปฏิวัติอุตสาหกรรมเกิดขึ้นเมื่อประมาณ ๒๕๐ ปีที่ผ่านมา และเมื่อประมาณ ๕๐ ปีที่ผ่านมา ก็มีการเดินทางไปสำรวจอวกาศ จากที่กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่า มนุษย์มีวิวัฒนาการตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งกว่าจะเป็นอย่างที่เห็นในปัจจุบันได้นั้น ใช้ระยะเวลาอันยาวนานมาก ต้องต่อสู้และปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่างๆ เพื่อความอยู่รอด และดำรงเผ่าพันธุ์มาอย่างทรหดอดทน พร้อมๆ กับการพัฒนาเครื่องมือเครื่องใช้ ความคิด และวิถีชีวิตที่แตกต่างกันไป ตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก
|
🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰🥰😘😘😘😘😘วิวัฒนาการของมนุษย์ในเร็ว ๆ นี้และในปัจจุบัน
การคัดเลือกโดยธรรมชาติก็ยังเป็นไปในมนุษย์ปัจจุบันกลุ่มต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ในมนุษย์กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อโรคที่ทำให้อ่อนกำลังอย่างรุนแรงคือโรคคูรุ[AD] ปรากฏคนที่มียีนพรีออน "G127 V" ซึ่งเป็นอัลลีลเป็นยีนรูปแปรที่มีภูมิคุ้มกันต่อโรคมากกว่าอัลลีลที่ไม่มีภูมิคุ้มกัน ความชุกของการกลายพันธุ์ (หรือรูปแปรทางกรรมพันธุ์) เช่นนี้ เกิดขึ้นเพราะการรอดชีวิตของบุคคลผู้มีภูมิต้านทานโรควิวัฒนาการที่พบในมนุษย์กลุ่มอื่น ๆ รวมทั้งวัยเจริญพันธุ์ที่มีระยะยาวขึ้น บวกกับการลดระดับของคอเลสเตอรอล กลูโคสในเลือด และความดันเลือด
มีการเสนอว่า วิวัฒนาการของมนุษย์ได้เร่งเร็วขึ้นตั้งแต่เกิดการพัฒนาทางเกษตรกรรมและอารยธรรมเมื่อ 10,000 ปีก่อน และนี่ทำให้เกิดความแตกต่างทางกรรมพันธุ์อย่างสำคัญในกลุ่มต่าง ๆ ของมนุษย์การมีเอนไซม์แล็กเทสในวัยผู้ใหญ่ (Lactase persistence) คือการที่ยังมีการทำงานของเอนไซม์แล็กเทสเพื่อย่อยแล็กโทสซึ่งเป็นน้ำตาลในนมตลอดจนถึงวัยผู้ใหญ่ เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของวิวัฒนาการที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ เพราะว่าโดยปกติของสปีชีส์ต่าง ๆ ในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม การทำงานของเอนไซม์จะลดลงอย่างสำคัญหลังจากเลิกนมประชากรในประเทศต่าง ๆ มียีนผลิตเอนไซม์แล็กเทสในวัยผู้ใหญ่เป็นเปอร์เซ็นต์ที่ไม่เท่ากัน คือเริ่มตั้งแต่ชาวดัตช์ที่ 99%จนถึงชาวไทยที่ 2%และกลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันในสหรัฐอเมริกาที่ 0%ซึ่งส่วนสัดเช่นนี้ขึ้นอยู่กับว่าเป็นกลุ่มที่บริโภคนมในวัยผู้ใหญ่เป็นเวลามายาวนานในประวัติหรือไม่
อย่างไรก็ดี วิวัฒนาการของมนุษย์ที่ปรากฏเร็ว ๆ นี้ดูเหมือนจะจำกัดอยู่ในเรื่องภูมิต้านทานต่อโรคติดต่อโดยมาก เป็นโรคที่มนุษย์ติดข้ามสปีชีส์มาจากสัตว์เลี้ยง แต่เพราะไร้เหตุกดดันทางการคัดเลือกโดยธรรมชาติ หรือเพราะไร้โอกาสที่จะเกิดสปีชีส์ใหม่ เช่นโอกาสการอยู่แยกต่างหากโดยไม่ติดต่อคนอื่นนอกพื้นที่ วิวัฒนาการของมนุษย์เร็ว ๆ นี้ (รวมที่ปรากฏและไม่ปรากฏ) โดยมากก็จะเป็นการเปลี่ยนความถี่ยีนอย่างไม่เจาะจง (genetic drift) นอกจากนั้นแล้ว ยังปรากฏอีกด้วยว่า ทั้งมนุษย์ทั้งวงศ์ลิงใหญ่แอฟริกัน (รวมกอริลลาและชิมแปนซี) ปรากฏการวิวัฒนาการที่ช้าลงจากลิงสายพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะแต่ละชั่วอายุมีความยาวนานยิ่งขึ้น
อ้างอิงจาก: https://th.m.wikipedia.org/wiki/วิวัฒนาการของมนุษย์
แหล่งข้อมูล
ข้อมูลจากหนังสือสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ฯ เล่ม 33 เรื่องที่ 4 ลิขสิทธิ์เป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว