ชีวิตวันวันของ Jame Evening ตอนที่ 5 (ทำไมคนเราถึงชอบรอ?)

สวัสดีวันจันทร์ วันที่ 31/7/2566 16.39 น. จะมาเล่าถึงเรื่องของการรอคอย ซึ่งโดยส่วนใหญ่เเล้วคนก็มักจะไม่ชอบการรอกันหรอกครับ การรอทำให้เราเสียเวลา การรอทำให้เราเสียความรู้สึก การรอทำให้เรารู้สึกไม่อยากทำอะไรต่อ เเล้วทำไมถึงต้องมีการรอมาเกิดขึ้นล่ะในเมื่อมันมีข้อเสียมากมาย การรอเนี่ยถ้ามองทางด้านสังคมก็คือมารยาททางสังคม ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น

การยืนรอต่อคิวไม่ว่าจะเป็นการยืนต่อคิวซื้อของ ต่อยืนเเลกของ ต่อยืนซื้อบัตรคอนเสิร์ต หรือต่อยืนรอซื้อขนมให้กับคนที่คุณรักก็ตาม จะเห็นได้ว่าการรอคอยเป็นกระบวนการหนึ่งในการก้าวไปให้ถึงผลลัพธ์ที่คนรอต้องการ เช่น เราอยากได้โดนัทเเต่โดนัทยังอบไม่เสร็จ เราก็ต้องรอ เราอยากได้เงินเดือน เราก็ต้องทำงานรอจนถึงสิ้นเดือน ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนประจำอ่ะนะ หรือเราอยากได้คนรักเราก็ต้องทำตัวเองให้ดีรอให้พร้อมกับคนที่จะเข้ามาในชีวิตเรา(เเต่บางทีวิ่งต้องเข้าหานะอันนี้ 5555)

เเล้วคนเเบบไหนไม่ชอบรอล่ะ ลองคิดเล่นในชีวิตประจำวันใกล้ตัวก่อนเลยกัน ถ้าเป็นเด็กไม่ชอบรอเวลาก่อนที่จะได้เล่นของเล่น ถ้าเป็นวัยรุ่นก็อาจจะไม่ชอบรอเวลาที่จะได้ไปเที่ยว ถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็อาจจะไม่ชอบช่วงเวลาที่ต้องรอเวลาก่อนเลิกงาน(ซึ่งอันนี้เข้าใจดี เคยเป็นนะครับ5555) ถ้าเป็นวัยผู้สูงอายุก็อาจจะไม่ชอบเวลาที่ตัวเองต้องรอคอยลูกหลานมาเล่นมาคุยด้วย หรือถ้าเราอยากลองเเบ่งประเภทเป็นอาชีพล่ะ

เช่น อาชีพนักธุรกิจก็ไม่ชอบการรอคอยที่จะทำให้ธุรกิจของตัวเติบโตช้าหรือไม่ชอบการรอที่จะไม่แก้ไขปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นเเล้วเเต่ยังไม่แก้ปัญหาสักที ถ้าเป็นอาชีพเชฟหรือพ่อครัว ก็อาจจะไม่ชอบรอในช่วงเวลาของการทำอาหารเช่น ต้มน้ำ 15 นาที ทอด 5 นาที อบ 2 ชั่วโมง และก็อาจจะไม่ชอบให้ลูกค้ารออาหารของตัวเองนานๆ ถามว่าเพราะอะไรล่ะถึงไม่ชอบการรอ 

เพราะเรารออย่างมีจุดประสงค์หรือเรารอเพราะต้องการผลลัพธ์อย่างที่ได้บอกไว้ตั้งเเต่เเรกว่าเราอยากรอเพราะอยากได้สิ่งนั้นๆ ทั้งๆที่ตัวเราก็รู้ว่าการรอมีข้อเสียอะไรอยู่เเล้วบ้างในหลายๆครั้ง ตัวเลือกในการรอก็เป็นตัวเลือกที่เเย่ เช่น รอให้มันเกิดปัญหาก่อน รอให้มันเกิดขึ้นก่อน รอให้มันเป็นอย่างนั้น ซึ่งในหลายๆครั้งก็ช้าไปซะเเล้วที่จะแก้ไขมัน ยิ่งถ้าเป็นด้านธุรกิจคุณจะรอเเทบไม่ได้เลยคุณต้องกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา

เเต่ที่เรารอได้ เพราะ ผลลัพธ์ที่เราต้องการมันได้มากกว่าที่เรารอ นี่ใจความสำคัญสั้นๆเลยครับ ผลลัพธ์ได้มากกว่าข้อเสียที่เราจะรอ เเม้ว่าจะมีข้อเสียเป็น 10 ข้อ ก็ตาม เเต่ข้อดีเพียงข้อเดียวก็สามารถลบล้างข้อเสียนั้นไปได้ทั้งหมดเมื่อคุณได้มันมาตามที่คุณต้องการเช่น หุ้นล่ะกัน คุณรอหุ้นตัวนี้ดิ่งลงมานานมากเเต่ยังไม่ดิ่งสักทีเพื่อจะรอช้อนซื้อหุ้น 

คุณรอเเล้วรออีก รอให้หุ้นมันดิ่งลงเพื่อที่จะช้อนซื้อเเต่มันไม่ลงสักที คุณรอมาเป็นเวลาหลายเดือน 3 เดือน 4 เดือน 5 เดือน จนกระทั่งเดือนที่ 6 มีข่าวที่ทำให้หุ้นตัวนั้นดิ่งลงกระทันหัน เเต่คุณยังไม่ช้อนซื้อเเต่คุณยังรอต่อ เพราะ จากการที่คุณหาข้อมูลมาเเล้ว มันจะต้องลงไปมากกว่านี้เเน่ ไม่ว่าจะทางเทคนิคหรือทางปัจจัยพื้นฐาน เเละคุณยังรู้อีกด้วยว่าเมื่อมันลงไปมากกว่านี้มันจะพุ่งพรวดขึ้นมาในทันที 

จนในที่สุดเวลาผ่านไปรวมเเล้ว 1 ปี หุ้นดิ่งลงไปประมาณ 40% คุณพอใจกับการรอในครั้งนี้เเล้วคุณจึงเริ่มซื้อหุ้นตัวนั้นเป็นจำนวนมาก เเละผ่านไปไม่นานเเค่ 1-2 เดือน หุ้นตัวนั้นก็พุ่งขึ้นกระฉูดด้วยปัจจัยต่างๆไม่ว่าจะเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ซึ่งเป็นที่นิยมมากหรือมีการเปลี่ยนCEOใหม่ที่หน่วยก้านดี ฉลาดและมีวิสัยทัศน์ สามารถพาบริษัทปรับตัวไหลไปตามกระเเสของธุรกิจได้ ธุรกิจจึงฟื้นกลับมาด้วยเหตุผลนี้ทำให้คุณมีกำไร

มากขึ้นไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า คุณลองคิดดูสิว่าหุ้นตกลงไป40%เเล้วมันกลับมาเท่าเดิมเเละราคามันไม่เหมือนเดิม มันมากกว่าเดิมคุณลองคิดดูว่าราคามันจะเพิ่มมากขึ้นไปขนาดไหนถ้าคุณขายคุณจะได้กำไรเท่าไหร่ หรือถ้าคุณรอปันผลคุณจะได้เท่าไหร่ นี่ข้อดีของการรอผลลัพธ์ที่คิดไว้ว่ามันจะเกิดขึ้นและมันคุ้มค่าที่จะรอ เเล้วคุณล่ะมีเหตุการณ์ไหนบ้างที่คุ้มค่าที่จะรอ อาจจะไม่ต้องถึงระดับเปลี่ยนชีวิตคุณ เเต่เเค่ระดับทำให้คุณมีความสุขสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ในแต่ล่ะวันก็พอเเล้วครับ ไว้เจอกันตอนที่ 6 ครับ