น้ำตาล VS สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
น้ำตาล
จากอดีตถึงปัจจุบันการบริโภคน้ำตาลในครัวเรือน เพิ่มสูงขึ้นทำให้ส่งผลเสียถึงผู้คนจำนวนมาก การบริโภคน้ำตาลเป็นจำนวนมากนั่นส่งผลเสียต่อรางกายโดยตรง ระบบภูมิคุ้มกันโรคในร่างกายต่ำลง และเป็นตัวเร่งให้เกิดอนุมูลอิสระ ก่อให้เกิดระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง นอกจากนี้ การทานน้ำตาลจำนวนมากยังส่งผลทำให้ กรดอมิโนที่มีชื่อว่า ทริปโตฟาน ถูกเร่งเข้าสู่สมองมากเกินไป ทำให้เสียสมดุลของฮอร์โมนในสมอง เป็นต้น หากไม่ควบคุมการบริโภคให้ดีอาจะจะเกิดโรคต่างๆ ที่แฝงตัวมากับน้ำตาล ดังนี้
- ไขมันสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เนื่องจากบริโภคน้ำตาลเป็นจำนวนมากนั่นส่งผลให้ตับเก็บไกลโคเจนเยอะและส่งกรดไขมันนี้ไปไว้ในส่วนต่างๆของร่างกาย
- ทำให้กระดูกและฟันไม่แข็งแรง น้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรียที่เกาะอยู่บริเวนฟันเป็นสาเหตุทำให้ฟันผุได้
- ภาวะเลือดเป็นกรด ร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปจะส่งผลให้ร่างกายล้มเหลวได้
- ความดันเลือดเพิ่มสูง ได้รับมากเกินไปจะทำให้เกิดกรดไขมันสะสมตาม ตับ หัวใจ ไต และไปกีดขวางการทำงานของเลือด
- ทำให้แก่เร็ว เมื่อได้รับน้ำตาลมากเกินไปน้ำตาลจะไม่รบกวนการสร้างคอลเจนและอีลาสตินชั้นในผิด
- ง่วงนอนมากขึ้น เมื่อได้รับน้ำตาลแล้วสมองจะทำงานช้าลง
สารให้ความหวานแทนน้ำตาล
สารให้ความหวานแทนน้ำตาลได้รับความนิยมมากกับกลุ่มคนรักสุขภาพเพราะให้พลังงานต่ำ ไม่ส่งผลถึงน้ำตาลในเลือด แต่หลายคนคงมองข้ามจุดด้อยของสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ซึ่งสารให้ความหวานมีหลากหลายตัว เช่น แอสปาแตม (Aspartame) เอซีซัลเฟมเค (Acesulfame K) ซูคราโลส (Sucralose) นีโอแตม (Neotame) เป็นต้น สารให้ความหวานทั้งหมดนี้ จะมีความหวานมากกว่าน้ำตาล 100 เท่า จนถึง 13000 เท่า ของน้ำตาลทั้วไป แต่มีพนักงานที่ต่ำ ส่วนคนที่บริโภคนั่น อาจมีผลกระทบ ดังนี้
- โรคอ้วน และเบาหวานทางอ้อม ทำให้ร่างกายมีปริมาณการผลิตฮอร์โมนที่ผิดปกติ ส่งผลให้ร่างกายยิ่งโหยหาความหวานจากน้ำตาลมากยิ่งขึ้น
- ท้องอืด ท้องเฟ้อ เมื่อถูกดูดซึมไปในลำใส้ใหญ่แล้วจะมีแบคทีเรียเข้ามาย่อยและจะเกิดก๊าสในลำใส้
- อันตรายต่อสมอง เมื่อสารให้ความหวานแทนน้ำตาลผ่านเข้าสู่เซลล์สมอง และเมื่อมีปริมาณแคลเซียมอยู่ในสมองมากๆ ก็อาจทำให้สมองได้รับอันตรายได้ เซลล์สมองอาจมีความผิดปกติ
- ลดแบคทีเรียดีในลำใส้ มีผลการวิจัย แค่เพียง 2 อาทิตย์ก็ สามารถทำลายความสมดุลย์ของระบบนิเวศน์ ในระบบทางเดินอาหาร นอกจากจะไปขัดขวางการทำงานของแบคทีเรียในลำไส้ แล้วยังไปลดจำนวนแบคทีเรียที่ช่วยในการเผาผลาญน้ำตาลเป็นพลังงาน
อย่างไรก็ตามน้ำตาลและสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ต่างให้คุณประโยชน์ถ้าใช้ในปริมานพอดีกับความต้องการของร่างกายและส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกันถ้าใช้ในปริมานที่มาก ผู้บริโภคควรเลือกบริโภคอย่างพอดีและออกกำลังให้เพียงพอ และควบคุมอาหารเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข้งแรง
อ้างอิงจาก: https://www.thaihealth.or.th/
อ้างอิงจาก: https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/181