ชีวิตวันวันของ Jame Evening ตอนที่ 2 (คำถามที่โดนใจเรา)
ไม่ไหวล่ะ อยากเเชร์มากๆ ตอนประมาณ 4 โมง กว่าๆ ผมได้เปิด Youtube ดูเเล้วบังเอิญไปเจอช่องของพี่โค้ดที่ทำเสือร้องไห้ด้วยเเต่ที่ผมดูช่องของเขาคือ Goodypodcast คลิปนี้เป็นคลิปที่เขาสัมภาษณ์เจ้าของแบร์ฮัก หรือ คุณซารต์กับคุณกานต์ นั่นเองที่ตอนนี้เป็นเจ้าของชานมไข่มุก และ เยลลี่ที่มีขายในเซเว่นด้วยนะ ผมเคยกินอร่อยมากเเละไม่มีน้ำตาลด้วยเเต่หลังๆหากินยากล่ะสงสัยขายดีจัด 5555
-
ต้องบอกก่อนว่าผมยังดูไม่จบนะเเต่มีประโยคที่มันทัชใจมากๆ จนเเบบต้องมาเเชร์อ่ะ มันเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กสมัยก่อนเเละสำคัญสำหรับเด็กสมัยนี้มากๆๆ
-
-
โดยพี่โค้ดเค้าได้มีการถามถึง คุณกานต์และคุณซารต์ก่อนว่าเป็นคนเเบบประมาณไหน ซึ่งได้ถามคุณซารต์ก่อน จากที่ฟังมาเเละจับใจความได้ของผมนะครับ เขาเป็นคนที่ตั้งใจเรียน เรียนคณะบัญชี เเถมเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ด้วย คือเเบบดีกรีสูงมากเขามีกะเรียนโทการเงินต่อด้วยในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่แต่แต่
-
คนที่หยุดเขาไว้คือ คุณกานต์ครับ 5555 เราพักเรื่องของคุณซารต์ไว้ก่อนเเล้วมาพูดถึงเรื่องคุณกานต์บ้าง เขาจะเป็นคนที่ชอบทำกิจกรรม
เเต่เรียนเก่งด้วยนะ เขาเล่าว่าตั้งเเต่ ป.1-6 เเละถึงมัธยมต้นเนี่ยเกรดไม่เคยต่ำกว่า 3.8 ฟังเเล้วเเบบโอ้โหวมาก ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าประวัติคนทำยูทูปเบอร์นี่ไม่ได้ธรรมดานะครับ ต้องเปลี่ยน Mindset ผมใหม่เลยว่า เดี๋ยวนี้คนเก่งๆมีเยอะมากเเละเขาก็สามารถเลือกเส้นทางของตัวเองได้ด้วย
-
-
ซึ่งเเตกต่างจากคุณซารต์เลยนะครับ ที่เเบบว่าเรียนอย่างเดียวไม่ค่อยทำกิจกรรมสักเท่าไหร่ เเต่เท่าที่ผมรู้มานะว่าเด็กธรรมศาสตร์นี่ส่วนใหญ่เป็นสายกิจกรรมนะ เเล้วยังเรียนเก่งด้วยเพราะผมเองก็มีเพื่อนเรียนธรรมศาสตร์ที่เรียนเก่งเเล้วก็ทำกิจกรรมเก่งเเละไปได้ดีอยู่เหมือนกันนะ ใครมีลูกหลาน พยายามให้เขาลองเข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้ได้นะครับ น่าจะได้มุมมองหลายๆแบบกลับมามากมายเลย
-
ต่อๆๆ กลับมาเรื่องของทั้งสองคนที่นิสัยต่างกัน เเต่มาถึงประเด็นสำคัญที่ทำให้ผมต้องหยุดดูยูทูปเเล้วลุกขึ้นมาพิมพ์บทความมาเเชร์ให้ทุกคนฟังกันครับ ประโยคนี้เป็นประโยคที่คุณกานต์พูดกับคุณชารต์ว่า จะเรียนต่อโทการเงินทำไม อนาคตอยากทำอะไร ผมนี่เเบบว้าว ใช่เลยในตอนที่ผมอยู่มหาลัยผมก็เจอเพื่อนที่ให้คำแนะนำดีๆเเบบนี้เลยเหมือนกันครับ เเต่น่าเสียดายที่ผมไปไม่สุดไม่เหมือนกับทั้งสองคน
-
-
มันดูเป็นประโยคคลาสสิคมากเลยนะครับ คำว่าเรียนไปทำไม อนาคตอยากทำอะไร เเต่นี่คือสิ่งที่ผมอยากให้เด็กรุ่นใหม่หรือตัวเราตอนนี้นะครับ
หามันให้เจอจริงๆว่าเราอยากทำอะไรกันเเน่ เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไรกันเเน่ ต้องการอนาคตเเบบไหน ในเรื่องของการเรียนมักจะชอบให้เรามองหาความรู้มาใส่สมองให้เยอะมากที่สุดใช่มั้ย เเต่ในชีวิตจริง!
-
คุณต้องตั้งโจทย์ก่อนครับว่าโจทย์นี้ใช้โจทย์ที่คุณต้องการจะเเก้ปัญหามันจริงๆมั้ย เริ่มจากโจทย์ เริ่มจากคำถาม เหมือนเวลาที่เราจะเริ่มทำเเบบทดสอบอะไรสักอย่างเราจะเจอโจทย์ก่อนเป็นอย่างเเรก นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากให้ทุกคนหาให้เจอเเละหาให้ได้ไวมากที่สุดครับ ว่าตัวเองต้องการอะไร
-
-
ต้องการอนาคตเเบบไหน ทำไมชั้นต้องการอนาคตเเบบนี้ เเล้วอนาคตเเบบนี้ดีกับชั้นยังไง ลองถามตัวเองดูเยอะๆกันนะครับ เเล้วลองหาคำตอบที่เกี่ยวข้องกับคำถามเหล่านี้ดูครับ หาคำตอบที่เหมาะกับโจทย์นี้นะครับ ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้อง เเต่เป็นคำตอบที่เหมาะสมกับโจทย์นี้ครับ
-
มันฟังอาจดูเป็นเรื่องยากหรือมองว่ามันสายไปเเล้วรึเปล่าสำหรับคนที่อายุมากเเล้วหรือเเบบ เฮ้ ชั้นเรียน ป โท มาไกลขนาดนี้เเล้วจะให้กลับไปนับหนึ่งใหม่หรอ ผมไม่ได้บอกให้ทุกคนกลับไปนับหนึ่งใหม่นะครับ เเต่จะบอกว่าให้ลองสร้างเส้นทางให้กับตัวเองเพิ่มขึ้นมาอีกเส้นทางนึงครับ
-
-
ซึ่งเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่เราค่อยๆสร้างมันขึ้นมาเเบบไม่รีบร้อนเเละไม่ทำร้ายตัวเราครับ มันจะเป็นเส้นทางที่เราต้องการจริง ผมเข้าใจครับว่าความต้องการกับความเป็นจริงในชีวิตหลายๆครั้งมันไปด้วยกันไม่ได้เเต่มันจะดีกว่ามั้ยถ้าหากว่าเรามีทางเลือกเพิ่มน่ะครับ ถ้าทางเลือกที่หนึ่งไม่โอเค งั้นเราไปทางเลือกที่สอง ถ้าทางเลือกที่สองโอเค เเต่ไม่ยั่งยืนงั้นเราลองหาทางที่สามที่มันยั่งยืนดูมั้ยครับ
-
ผมมองว่ามันขึ้นอยู่กับตัวเราครับว่า เราจะตั้งโจทย์ ตั้งคำถามกับตัวเรามั้ย เเล้วกล้าที่จะหาคำตอบที่เหมาะสมกับคำถามเหล่านี้มั้ย แค่นั้นยังไม่พอเเละยังกล้าที่จะลองสร้างเส้นทางนั้นดูมั้ย แม้ว่าจะเป็นการใช้ช้อนขุดทีละน้อยก็ตาม หรือจะเป็นการใช้พลั่วขุดทีละนิดก็ตาม แต่อย่าลืมครับทุกเส้นทางต้องใช้เวลาในการสร้าง อย่างชีวิตปัจจุบันที่ทุกคนเป็นอยู่ก็เวลาในการสร้างมันมาหลายปีครับ ทุกคนลองไปตั้งคำถามเเละหาคำตอบกันดูนะครับ เเต่อย่าพึ่งวู่ว่ามทิ้งทางเลือกปัจจุบันที่ตัวเองมีอยู่นะครับ มาดูกันครับว่า ตอนที่ 3 ผมจะมาเล่าอะไรต่อ 5555