หนุ่มเวียดนามใส่ทอง 5 กิโลติดตัวเพื่อเดินอวดโชว์ความรวยไปทั่วเมือง
หนุ่มเวียดนามฉายามนุษย์ทอง ใส่ทอง 5 กิโลติดตัวเพื่อเดินไปทั่วเมืองอวดโชว์ความรวย
การใส่ทองเยอะ ๆ เดินทางไปไหนมาไหนอาจดูเป็นอันตรายเพราะเสี่ยงที่คุณจะต้องเจอกับมิจฉาชีพ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าของร้านสตรีทฟูดชาวเวียดนามรายนี้ ที่สวมใส่ทองคำจำนวนมากทุกวันบนร่างกายของเขาเวลาเดินไปทั่วเมือง
Đỗ Ngọc Thuận ชายวัย 34 ปีที่รู้จักกันในชื่อ Seven Ball เป็นผู้ที่หลงใหลในทองคำมาตั้งแต่จำความได้ เมื่อเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ เขาเริ่มซื้อทองคำเก็บสะสมเอาไว้และใส่เดินอวดผู้คนตามท้องถนนในเมืองโฮจิมินห์
การที่มีผู้คนหยุดมองดูยิ่งทำให้เขารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น ดังนั้น Seven Ball จึงตัดสินใจที่จะทุ่มเงินส่วนใหญ่ไปกับการสะสมทองคำเพื่อที่จะใส่มันเดินไปตามท้องถนน
ต่อมาเมื่อเขาเปิดร้านหม้อไฟและร้านขายขนม เขาตัดสินใจที่จะสวมใส่ทองที่หนักไม่น้อยกว่า 5 กิโลกรัมเพื่อดึงดูดความสนใจให้กับธุรกิจของเขามากขึ้น และเมื่อโซเชียลมีเดียได้รับความนิยม เขาก็ยิ่งกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิม
“เมื่อก่อนตอนที่ผมยังไม่โด่งดังในโลกออนไลน์ ผมใส่ทองเยอะมาก ทุกครั้งที่ผมหยุดรอสัญญาณไฟจราจร ผมเห็นผู้คนมากมายชี้นิ้วและชื่นชมผม” Seven Ball กล่าว
“ต่อมาเมื่อผมเปิดร้านหม้อไฟและร้านขนม ผมตัดสินใจใส่ทองมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ และเพื่อให้ลูกค้าที่มารับประทานอาหารที่ร้านรู้สึกโชคดี”
ปัจจุบันนี้ Seven Ball ที่ได้รับฉายาว่า “มนุษย์ทองคำ” สวมใส่แหวนทองคำ 10 วง กำไลทองคำ 30 วง และสร้อยคอทองคำ 12 เส้น ทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และนั่นยังไม่นับต่างหูขนาดใหญ่ กำไลข้อเท้า และแหวนนิ้วเท้า ซึ่งรวมทองคำบนร่างกายของเขาทั้งหมดจะมีน้ำหนักรวมถึง 5 กิโลกรัม
Seven Ball กลายเป็นที่จดจำบนโลกโซเชียลมีเดียและได้รับเสียงวิจารณ์มากมายทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บางคนก็ชื่นชม บางคนก็อิจฉา และบางคนก็กล่าวหาว่าเขาใส่ทองปลอม ซึ่งเขาเองยินดีรับคำท้าเสมอ
“ในเมืองของผม ทุกคนรู้ว่าผมใส่ทองมานานแล้ว” Seven Ball กล่าว “ตอนนี้ใครก็ตามที่สงสัยสามารถไปที่ร้านทองกับผมเพื่อตรวจสอบได้ ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทองที่ผมใส่เป็นของปลอม ผมจะยอมให้ทุกอย่าง แต่ถ้าทองที่ผมใส่เป็นของแท้พวกเขาจะต้องให้ผม 5 ล้านดอง” (ประมาณ 7,400 บาท)
เมื่อถูกถามถึงการสวมใส่ทองคำมากมายบนร่างกายขนาดนี้ เคยเกิดเหตุร้ายกับเขาบ้างหรือไม่ Seven Ball กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2008 ที่เขาสวมใส่ทองคำจำนวนมากบนร่างกาย เขาเคยตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงที่จะถูกปล้น 2 ครั้ง
ครั้งแรกเกิดขึ้นในเย็นวันหนึ่งในปี 2014 เมื่อเขาสังเกตเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินตามเขา เขารีบวิ่งเข้าไปข้างในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งและคนกลุ่มนั้นก็วนเวียนอยู่หน้าร้านสักพักหนึ่งก่อนที่เดินจากไป
ครั้งที่ 2 เกิดขึ้นในขณะที่เขากำลังขับรถ มีคนในรถคันอื่นบอกให้เขาจอดรถเพื่อตรวจสอบเอกสาร เขาหลงเชื่อในตอนแรกเพราะคิดว่าคนเหล่านั้นเป็นตำรวจ แต่หลังจากรู้ว่าไม่ใช่ เขาก็รีบวิ่งหนีพร้อมกับตะโกนของความช่วยเหลือ
หนึ่งในคนร้ายสามารถคว้าสร้อยทองของเขาได้ แต่เขาก็คว้ามันเอาไว้เช่นกัน สุดท้ายคนร้ายก็หนีไปได้พร้อมกับจี้ทองคำเท่านั้น
แต่ถึงแม้จะมีประสบการณ์แย่ ๆ แต่ Seven Ball กล่าวว่า เขาจ้างคนที่มาคอยคุ้มกันเขาเฉพาะตอนออกนอกเมืองเท่านั้น เพราะทุกคนในโฮจิมินห์รู้จักเขาดี
ที่มา: odditycentral
พืชที่มีพิษร้ายแรงเทียบเท่าพิษงูเห่า
พบเครื่องบิน "โบอิ้ง 737" ที่หายไป 13 ปี ถูกจอดทิ้งกลางสนามบิน
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
แคปซูลกาลเวลา 1,700 ปี การค้นพบหลุมศพโรมันที่ "สมบูรณ์แบบ" ในฮังการี
10 อันดับเมืองที่มีมลพิษสูงสุดกรุงเทพฯ
สภาทนายความ แจงเหตุลบชื่อ ‘ทนายคนดัง’ ออกจากทะเบียนทนาย
🔍 ถอดรหัสปี 2568! คนไทยค้นหาอะไรบน Google มากที่สุด สะท้อนภาพสังคมแห่งปี
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
แฮ็กสมอง อารมณ์ดีใน 10 วินาที เปลี่ยนอารมณ์ลบให้ดีขึ้นภายใน 10 วินาที
อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ต้านทานความหนาว
เปิดการบ้านภาษาไทย เรียงอักษรให้เป็นคำ แบบนี้ยากไปไหม
แบงก์เขมรปิด ฮุน โต! เผ่นหนี ลูกค้าถอนเงินไม่ได้
ชาว เกษตรกร เขมร กดดันไทยเปิดด่าน ควบรถไถเหยียบนาข้าวทิ้ง ราคาตกต่ำสุดขีด
ชาวนาเขมรยกมือไหว้วอนคนไทย “เปิดด่านช่วยด้วย” หลังราคาข้าวทรุดหนัก สวนทางคำพูดในอดีตที่เคยดูแคลนไทย
พบกองอาเจียนข้างตัว นัทปง ก่อนเสียชีวิต ตำรวจได้กั้นพื้นที่เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ทนายสายหยุด ยอมรับสลิปโอนเงินของ "นานา" เป็นของปลอม









