เพิ่มวันหยุดส่งเดช 31 ก.ค.66
เพิ่มวันหยุดส่งเดช 31 ก.ค.66
AREA แถลง ฉบับที่ 606/2566: วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม 2566
ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส
ตามที่รัฐบาลประยุทธ์สั่งเพิ่มวันหยุดราชการในวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 ชี้คิดแบบข้าราชการที่ขี้เกียจ ทำเอาดีใส่ตัว ไม่คิดถึงเศรษฐกิจชาติ กระทบแรงงานภาคเอกชนทอย่าอ้างกระตุ้นท่องเที่ยว แนะใครอยากเที่ยวให้ลากิจ ไม่ใช่เอาใจคนส่วนน้อย หรือไม่ก็สลับวันหยุดให้มาทำงานในวันเสาร์ถัดไปแทน
ตามที่มีมติคณะรัฐมนตรีให้วันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม 2566 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน ทำให้มีวันหยุดราชการยาวต่อเนื่องตั้งแต่ 28 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2566 ทั้งสิ้น 6 วันนั้น รัฐบาลอ้างว่า “กรณีหน่วยงานที่มีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็นหรือราชการสำคัญ ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน” แสดงว่าข้าราชการใดไปทำงานในวันดังกล่าวคงได้เงินเพิ่ม เป็นการเสียงบประมาณเลี้ยงข้าราชการโดยไม่จำเป็น
การที่ราชการกำหนดแบบนี้ แรงงานรับจ้างรายวันก็คงต้องหยุด (เว้นแต่นายจ้างและลูกจ้างจะไม่ “บ้าจี้” หยุดตามราชการ) ทำให้พวกเขาซึ่งมีมากกว่าข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ ต้องสูญเสียรายได้ไปโดยรัฐบาลก็ไม่รับผิดชอบใดๆ แต่กลับเอาใจข้าราชการที่เป็นคนส่วนน้อยและมีรายได้ดีและฐานะมั่นคงกว่า แถมยัง “ประเคน” เพิ่มให้เจ้าหน้าที่ที่จำเป็นต้องไปทำงานในวันหยุดเพิ่มนี้ นี่เป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมในหมู่ชนโดยแท้ โดยเฉพาะในกรณีแรงงานภาคเอกชนมีวันหยุดปีละ 14 วันแต่ข้าราชการมีวันหยุดเกือบ 30 วัน
รัฐบาลยังอ้างว่าการมีวันหยุดยาว จะเป็นการกระตุ้นการเดินทางและส่งผลดีต่อการท่องเที่ยว ข้อนี้ ดร.โสภณชี้ว่ารัฐบาลควรทำการศึกษาวิจัยให้ชัดเจนว่าจริงหรือไม่ที่การหยุดยาวส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะข้าราชการส่วนใหญ่อาจหยุดอยู่บ้านเฉยๆ ไม่ได้ไปท่องเที่ยว ดังนั้น ถ้าใครอยากไปท่องเที่ยวก็ควรใช้สิทธิลาเฉพาะบุคคล ยิ่งกว่านั้นในส่วนของคนที่ออกไปท่องเที่ยว มีจำนวนมากที่ไปเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจชาติ ในช่วงปลายโควิด แหล่งท่องเที่ยว เช่น เขาใหญ่ คึกคัก แต่ระยะหลังกลับซบเซาลงเพราะหลายคนไปท่องเที่ยวต่างประเทศแทน
รัฐบาลควรศึกษาให้ถ่องแท้ว่าการท่องเที่ยวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีกว่าการร่วมมือร่วมใจกันทำงานเพื่อชาติได้อย่างไร การทำงานในวันหนึ่งๆ ของแรงงานในชาติทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ย่อมมีมูลค่ามากกว่าการท่องเที่ยวของคนไทยจำนวนหนึ่งเป็นไหนๆ อย่างไรก็ตามการหยุดพิเศษก็อาจทำได้ด้วยการให้ข้าราชการสลับวันหยุด เช่นถ้าหยุดเพิ่มในวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคม ก็ให้พวกเขาแสดงความรับผิดชอบมาทำงานในวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคมแทน
การคิดแบบระบบข้าราชการ หรือ bureaucratic (เฉพาะที่ขี้เกียจทำงาน) พาลลากให้ภาคส่วนอื่นหยุดงานไปด้วย จึงไม่มีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง การออกคำสั่งแบบนี้โดยอ้างว่าได้รับการเสนอมาตามลำดับชั้น ถือเป็นคำสั่งที่ “เอาดีใส่ตัว” และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจของชาติโดยขาดความรับผิดชอบเท่าที่ควร
ประเทศไทยที่มีอดีตข้าราชการมาบริหารจึงคิดได้แค่นี้ ชาติคงเศร้าหมอง
ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน