ยกกระชับผิวด้วยเครื่อง Hifu แก้ผิวหย่อนคล้อย ให้กรอบหน้าเรียวกระชับขึ้น
ใครที่มีใบหน้าใหญ่ อยากปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น ดูมี v-shape คงสงสัยไม่ใช่น้อยว่าการยกกระชับด้วยเครื่อง Hifu จะให้ผลลัพธ์ที่ดีได้จริงไหม และตัวเครื่องมีหลักการอย่างไรถึงช่วยให้เห็นผล รวมไปถึงข้อสงสัยว่าเลือกปรับกรอบหน้าด้วย Hifu ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร เหมาะกับใคร ทำร่วมกับวิธีอื่นๆ ได้ไหม หากอยากรู้ทั้งหมดนี้ต้องตามอ่านให้จบบทความ
ยกกระชับด้วย Hifu คืออะไร?
Hifu เป็นนวัตกรรม High Intensity Focus Ultrasound ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทางคลินิกความงามใช้เพื่อยกกระชับผิวให้กับลูกค้าที่มีความหย่อนคล้อย ต้องการปรับสัดส่วน ตัวเครื่องจะส่งพลังงานคลื่นอัลตร้าซาวด์ลงไปที่ชั้นผิว SMAS เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้โครงสร้างผิวและชั้นไขมันหดตัวเกิดการเรียงตัวขึ้นใหม่ ผิวมีความยืดหยุ่นขึ้น กระชับ และดูเรียบเนียน
Hifu ใช้ยกกระชับบริเวณใดได้บ้าง?
Hifu เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวได้ทุกตำแหน่งที่ต้องการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย ปรับสัดส่วน ชะลอวัย หรือลดริ้วรอย โดยแบ่งได้เป็น 2 ส่วน ได้แก่
- บนใบหน้า : เหนียง ลำคอ ร่องแก้ม เนื้อแก้ม ใต้ตา หน้าผาก และรอบดวงตา
- ลำตัว : ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง รอบเอว และสะโพก
Hifu กรอบหน้าเป็นอย่างไร?
Hifu กรอบหน้าเป็นการใช้เครื่อง Hifu ส่งพลังงานไปที่ผิวกรอบหน้าเพื่อยกกระชับความหย่อนคล้อยหรือไขมันส่วนเกิน โดยการส่งพลังงานความร้อนลงไปที่ชั้นผิว หลังทำ Hifu บริเวณกรอบหน้าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีหลังทำเนื่องจากเป็นตำแหน่งที่เห็นผลในการทำได้ชัด
Hifu มีผลข้างเคียงที่อันตรายไหม?
Hifu เป็นการยกกระชับที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงเพื่อลดความหย่อนคล้อยของผิว ตัวเครื่องมีการส่งความร้อนลงไปในชั้นผิวจึงทำให้ผิวมีการสะสมความร้อนแต่ไม่ได้เป็นการทำร้ายผิวชั้นบน จึงไม่เกิดแผลหรือผิวไหม้ หลังทำจะมีเพียงอาการบวมเล็กน้อย ซึ่งจะหายไปได้เองใน 1 - 2 สัปดาห์
ใครสามารถทำ Hifu กรอบหน้าได้บ้าง?
Hifu กรอบหน้าเป็นนวัตกรรมที่นำไปใช้แก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของกรอบหน้า กรอบหน้าไม่ชัด หรือปรับสัดส่วนให้ดูเล็กลงได้ คนที่สามารถทำ Hifu กรอบหน้าได้มีดังนี้
คนที่มีใบหน้าที่ดูใหญ่ โครงหน้าไม่ชัด
คนที่มีเหนียง คางสองชั้น หรือหนังใต้คางย้อย
คนที่ต้องการให้มีใบหน้าที่ดูเรียวขึ้น
คนที่อยากปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องทำศัลยกรรม
คนที่อยากลดอายุให้กับใบหน้า
ข้อดีของการ Hifu กรอบหน้า
การทำ Hifu กรอบหน้าไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยแต่ยังช่วยให้เห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นหลังทำในหลายๆ ด้าน ได้แก่
- ช่วยปรับกรอบหน้า ปรับสัดส่วนโดยไม่ต้องผ่านการศัลยกรรมหรือใช้เข็ม
- ผลลัพธ์หลังทำดูเป็นธรรมชาติ
- ลดความเสี่ยงจากผลข้างเคียงหรือการดมยาสลบ
- สามารถใช้ชีวิตตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
- เพิ่มความมั่นใจ เสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี
- สามารถถ่ายรูปหน้าใกล้หรือเซลฟี่ได้โดยไม่ต้องกลัวดูหน้าใหญ่
- ทำผมได้หลากหลายทรงมากยิ่งขึ้น
- ลดขั้นตอนไฮไลท์และเฉดดิ้งเพื่อทำหน้าเรียวเวลาแต่งหน้า
ผลลัพธ์ของการ Hifu กรอบหน้าเป็นอย่างไร?
หลังจากทำ Hifu กรอบหน้าใน 1 - 2 สัปดาห์แรกจะยังมีอาการบวมหรือแดงหลังผ่านความร้อน แต่หลังจากนั้นเมื่ออาการข้างเคียงหายไป ผลลัพธ์ของ Hifu จะชัดขึ้นเรื่อยๆ กรอบหน้ากระชับ ไขมันลดลง และผิวดูเรียบเนียน ใบหน้าดูเรียวขึ้น ส่งผลให้ภาพรวมดูอ่อนเยาว์ลง
Hifu กรอบหน้า VS ปรับกรอบหน้าด้วยวิธีอื่น
ปัญหากรอบหน้าไม่ชัดเพราะหน้าใหญ่ มีไขมัน หรือมีเหนียง สามารถแก้ได้หลายวิธีไม่เพียงแต่การทำ Hifu เท่านั้น ซึ่งการทำ Hifu มีข้อดีและจุดเด่นที่ต่างจากวิธีปรับกรอบหน้าอื่นๆ ดังนี้
- Hifu VS Ulthera
Hifu และ Ulthera ต่างเป็นนวัตกรรมยกกระชับที่ส่งความร้อนระหว่าง 45 - 70 องศา ลงไปที่ชั้นผิวเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน แต่ Hifu จะปล่อยพลังงานในลักษณะของจุดไข่ปลาเล็กๆ ขนาด 0.5 - 1 มิลลิเมตร ในขณะที่ Ulthera จะมีจุดขนาดใหญ่กว่า จึงทำให้การทำ Ulthera รู้สึกเจ็บมากกว่า - Hifu VS Thermarge
Thermarge เองเป็นการยกกระชับเช่นเดียวกันกับ Hifu แต่จะส่งพลังงานในลักษณะของก้อนขนาดใหญ่ 3 - 4 เซนติเมตร กระจายตัวในวงกว้างโดยไม่สามารถควบคุมทิศทางได้ จึงเป็นนวัตกรรมที่เหมาะกับทำในพื้นที่กว้าง ลดไขมันได้ดี เป็นการยกกระชับที่ทำให้รู้สึกเจ็บมากที่สุด และได้ผลลัพธ์ในเรื่องลดริ้วรอยมากกว่าการยกกระชับ - Hifu VS ร้อยไหม
Hifu จะมีความต่างกับการร้อยไหมตรงที่ Hifu เป็นวิธีการปรับกรอบหน้าโดยการส่งพลังงานความร้อนสู่ชั้นผิวเพื่อลดความหย่อนคล้อยที่ผิวโดยตรง ในขณะที่การร้อยไหมจะใช้เส้นไหมสอดลงที่ใต้ผิวแล้วทำการดึงแก้มขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่มีการใช้เข็มแทงลงในผิว ขณะทำสามารถรู้สึกได้ถึงแรงเกี่ยวดึงเส้นไหม จึงไม่เหมาะกับคนที่มีความกังวล หรือกลัวเลือดจากการใช้เข็ม - Hifu VS ฉีดเมโสแฟต
เมโสแฟตจะเป็นการฉีดตัวยาเพื่อสลายไขมัน สามารถใช้ลดแก้มและเหนียงได้ เหมาะกับคนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัดจากไขมันส่วนเกิน ซึ่งต่าจาก Hifu ตรงที่ไม่สามารถยกกระชับความหย่อนคล้อยได้ และเป็นวิธีที่ต้องใช้เข็มจึงไม่เหมาะกับคนที่กลัวเข็มนั่นเอง - Hifu VS โบท็อกปรับรูปหน้า
โบท็อกหน้าเรียวจะต่างกับ Hifu ตรงที่ โบท็อกเป็นหัตถการที่ใช้การฉีดตัวยาโบท็อกลงไปที่บริเวณกรามเพื่อลดสัดส่วน ซึ่งจะเป็นการออกฤทธิ์ยับยั้งการทำงานกล้ามเนื้อกรามชั่วคราว ทำให้เห็นผลได้ดีในคนที่มีกรอบหน้าใหญ่จากสาเหตุของกล้ามเนื้อกรามใหญ่ ไม่สามารถทำเพื่อกระชับความหย่อนคล้อยหรือลดไขมันบนใบหน้าได้
ทำ Hifu พร้อมโบท็อกได้ไหม?
คนที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หน้าใหญ่แล้วต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสามารถทำ Hifu พร้อมกับฉีดโบท็อกกรามได้ แต่ต้องเป็นกรณีที่มีสาเหตุกรอบหน้าไม่ชัดจากการมีกล้ามเนื้อกรามหนาพร้อมกับความหย่อนคล้อยหรือไขมัน หากไม่ได้มีปัญหากล้ามเนื้อกรามใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องทำควบคู่กัน เลือกทำ Hifu เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอ
ทำ Hifu เห็นผลกรอบหน้ากระชับทันทีเลยไหม?
หลังทำ Hifu ในครั้งแรกจะเห็นผลความเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20% หลังทำ ซึ่งอาจไม่แตกต่างจากก่อนทำมากนัก คนไข้ยังไม่ต้องกังวลว่าผลลัพธ์หลังทำไม่ดีเท่าที่หวังเพราะการทำ Hifu ต้องใช้ระยะเวลาให้เห็นผลประมาณ 2 - 3 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ Hifu เห็นผลได้อย่างเต็มที่ และควรทำซ้ำต่อเนื่องเพื่อให้ Hifu เห็นผลที่ดีต่อไป
ควรทำ Hifu บ่อยแค่ไหนถึงได้ผลลัพธ์ที่ดี
แม้ว่าการทำ Hifu ในครั้งแรกจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของกรอบหน้าได้เป็นอย่างดี แต่ผลลัพธ์ของ Hifu จะคงอยู่ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เต็มที่ประมาณ 5 - 6 เดือน หากดูแลดีๆ หรือทนเจ็บได้มากก็อาจอยู่ได้นานเป็นปี หลังจากนั้นผิวอาจกลับไปหย่อนคล้อยหรือเกิดการสะสมไขมันเพิ่มขึ้น การทำ Hifu ทุกๆ 3 เดือนจะช่วยทำให้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น
Hifu ปรับกรอบหน้าเจ็บไหม?
ความรู้สึกขณะทำ Hifu กรอบหน้าจะขึ้นอยู่กับความอดทนของคนไข้แต่ละคน เนื่องจากเครื่อง Hifu สามารถปรับพลังงานและระยะเวลาในการทำได้ หากยิ่งทนเจ็บได้เยอะก็จะส่งผลให้ผลลัพธ์หลังทำชัดยิ่งขึ้น ระหว่างทำจะรู้สึกดึงๆ และปวดใต้ชั้นผิวเนื่องจากมีการหดตัวและยกกระชับขึ้นขณะทำ ซึ่งก่อนทำจะมีการทายาชาลดอาการเจ็บให้ทุกครั้งเพื่อช่วยบรรเทาอาการขณะทำ
หลังทำ Hifu ควรดูแลอย่างไร?
เมื่อทำ Hifu ผิวจะมีการโดนความร้อนและเกิดการกระชับขึ้นอย่างรวดเร็ว คอลลาเจนทำการสร้างตัวขึ้นใหม่ จึงต้องมีการดูแลหลังทำที่ช่วยไม่ให้คอลลาเจนสลายตัว แนะนำให้ดูแลด้วยวิธีต่อไปนี้
- ทามอยส์เจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวเป็นประจำเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดและมลภาวะ ปกป้องด้วยการทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 ขึ้นไป
- งดโดนความร้อนหรือโดนแดดโดยตรง 1 - 2 สัปดาห์
- งดสัมผัส ขัดถู หรือสครับผิวแรงๆ
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
ทำ Hifu มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
ค่าใช้จ่ายสำหรับทำ Hifu กรอบหน้าจะคิดเป็น line ในคลินิกที่เลือกเครื่อง Hifu ที่ได้มาตรฐานและมีราคาค่าบริการที่เหมาะสมจะคิดราคาเริ่มต้นประมาณ 3,999 บาท ต่อ 100 line
สำหรับคนที่ต้องการทำบริเวณแก้มหรือเหนียงทำ 100 line ก็เพียงพอ แต่หากต้องการทำควบคู่กันจะใช้ประมาณ 300 line ทั้งนี้ในแต่ละเคสอาจใช้จำนวนไม่เท่ากัน แพทย์จะช่วยประเมินและแนะนำจำนวนช็อตที่ใช้ให้ตามปัญหาของแต่ละบุคคล
Hifu ปรับกรอบหน้าที่คลินิกไหนดี?
หากต้องการทำ Hifu กรอบหน้า การเลือกคลินิกที่ดีก็เป็นทางที่ช่วยให้ได้ผลลัพธ์หลังทำที่ดี เพราะคลินิกที่เชื่อถือได้จะมีการบริการที่ดีและเลือกเครื่องที่มีนวัตกรรมได้มาตรฐาน โดยควรเป็นคลินิกที่มีใบรับรองการเปิดให้บริการ เปิดเผยรายชื่อแพทย์ มีผู้เชี่ยวชาญดูแลใกล้ชิด และมีการติดตามผลหลังทำ ควรมีรีวิวจากผู้ใช้งานจริงเพื่อความน่าเชื่อถือและใช้ประกอบการตัดสินใจได้
สรุป
หากมีความต้องการอยากปรับรูปหน้าให้ดูเรียว ยกกระชับ แก้ปัญหาไขมันบริเวณแก้ม เหนียง หรือแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เลือกทำ Hifu กรอบหน้าเป็นทางเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากตอบโจทย์ทั้งการลดไขมัน กระชับผิว และกระตุ้นคอลลาเจนขึ้นใหม่ สามารถทำได้ในคนทุกเพศทุกวัย ปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย
ขอบคุณเนื้อหา และสามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่: https://www.gangnamconsult.com/hifu/