Pig nose turtle "เต่าบินหรือเต่าจมูกหมู"
มาทำความรู้จักเต่าบิน หรือ เต่าจมูกหมู(Pig nose turtle)
"เต่าบิน"ดูเผินๆแล้วอาจคิดว่าสัตว์ชนิดนี้เป็นตะพาบน้ำหรือเต่าทะเล เพราะขาเป็นแผ่นพังผืดคล้ายกับไม้พาย
แต่อันที่จริงแล้ว เต่าจมูกหมูเป็นเต่าน้ำจืด ชนิดหนึ่งที่ใช้เวลาทั้งชีวิตอยู่ในน้ำ จะขึ้นบกก็ต่อเมื่อต้องมาวางไข่เท่านั้น
ลักษณะ
เต่าบิน มีกระดองสีเทาดำใต้ท้องสีขาว จมูกยาว ออกมาจากหน้าเล็กน้อยเมื่อมองจากด้านหน้าตรงจะ เห็นรูจมูกขนาดใหญ่ โตเต็มที่ได้ราว60 เซนติเมตร
ถิ่นกำเนิด
มีถิ่นกำเหนิดอยู่ในแม่น้ำทางตอนเหนือของประเทศออสเตรเลีย อีเรียนจายา และ ปาปัวนิวกีนี เต่าชนิดนี้ถือเป็นเต่าที่หายาก มีจำนวนน้อยมากในประเทศไทย เคยมีราคาสูงนับแสนบาท
ต่อมามีการเพาะพันธ์ได้มากขึ้นในต่างประเทศ ลูกเต่าชนิดนี้จึงมีราคาถูกลงอย่างมาก ทำให้เกิดการนำเข้ามาเป็นสัตว์เลี้ยงกันแพร่หลายมากขึ้น ส่วนใหญ่มีขายตามร้านปลาสวยงาม ที่นำเข้ามาจากประเทศ อินโดนีเซีย เคยพบหลุดไปแหล่งน้ำธรรมชาติบ้าง แต่ไม่เป็นอันตรายและยากที่จะขยายพันธุ์เอง เพราะต้องใช้เวลาถึง 25 ปี จึงจะถึงวัยเจริญพันธุ์
การเลี้ยง
เต่าบิน ถือเป็นเต่าที่เลี้ยงง่าย เชื่อง ไม่ทำอันตรายกับผู้เลี้ยง ก้าวร้าวกับพวกเดียวกันเอง โดยเฉพาะกับตัวที่มีขนาดเล็กกว่า หรือ ตัวที่ใส่ลงไปทีหลัง เต่าตัวที่อ่อนแอกว่า จะถูกไล่กัดหรือทำร้ายจน เป็นแผล ดังนั้น ควรเลี้ยงเต่าบินเพียงตัวเดียวเท่านั้น
อาหาร
เต่าชนิดนี้กินได้ทั้งพืชและสัตว์ เช่น อาหารปลาสำเร็จรูป ผักบุ้ง ผักกาด กุ้งฝอย เนื้อกุ้ง ในช่วงแรก เต่าอาจตื่นกลัวหรือไม่เชื่องกับคน แต่เมื่อเต่าคุ้นเคย กับผู้เลี้ยง ก็จะว่ายตามมาขออาหาร จนสามารถใช้มือสัมผัสเล่นเบาๆได้เลยทีเดียว
สถานที่เลี้ยง
ควรเป็นตู้อ่าง หรือบ่อปลาขนาดใหญ่ ให้เต่าได้มีพื้นที่ได้ว่ายเล่น ควรมีระบบกรองน้ำที่ดี หรือมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากน้ำไม่ดี จะทำให้เต่าเป็นโรคผิวหนังได้ เต่าบิน สามารถเลี้ยงรวมกับปลาได้ ข้อแม้ต้องเป็นปลาขนาดใหญ่กว่า หรือว่ายน้ำได้อย่างรวดเร็ว เช่น ปลาตะเพียน ปลามังกร ปลาคาร์ป หรือปลาหมอนกแก้ว แต่ถ้าปลามีขนาดเล็กกว่า หรือ มีความอ่อนแอก็จะถูกเต่าบินจับกินได้เหมือนกัน ดังนั้น ถ้าจะให้ปลอดภัยจริงๆก็อย่าใส่ ปลารวมกับเต่า จะดีที่สุด