ทะเลที่เค็มที่สุดในโลก
ทะเลเดดซีมักถูกเรียกว่า "ทะเลสาบน้ำเค็ม" มากกว่าสระน้ำ แต่แท้จริงแล้วมันเป็นแหล่งน้ำที่เค็มที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เดดซีเป็นทะเลสาบน้ำเค็มที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล มีพรมแดนติดกับจอร์แดนทางทิศตะวันออก และอิสราเอลกับปาเลสไตน์ทางทิศตะวันตก
1. ความเข้มข้นของเกลือ: ทะเลเดดซีมีความเข้มข้นของเกลือประมาณ 34.2% ทำให้เป็นหนึ่งในแหล่งน้ำที่มีความเค็มที่สุดในโลก ปริมาณเกลือที่สูงนี้เกิดจากการที่ทะเลเดดซีไม่มีทางออก ทำให้เกิดการสะสมของแร่ธาตุและเกลือเมื่อเวลาผ่านไป
2. ระดับความสูงต่ำสุด: พื้นผิวของทะเลเดดซีเป็นจุดที่ต่ำที่สุดบนพื้นผิวโลก โดยอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ เมตร (1,412 ฟุต) เป็นส่วนหนึ่งของ Great Rift Valley ซึ่งทอดยาวจากซีเรียไปจนถึงโมซัมบิก
3. ประโยชน์ต่อสุขภาพและการรักษา: ทะเลเดดซีมีชื่อเสียงในด้านคุณสมบัติในการรักษา การผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ของแร่ธาตุ เช่น แมกนีเซียม แคลเซียม โพแทสเซียม และโบรไมด์ ในน้ำและโคลน เชื่อว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ หลายคนไปที่ทะเลเดดซีเพื่อรับการบำบัดรักษา รวมถึงการอาบโคลนและลอยตัวในน้ำที่ลอยอยู่ในน้ำ
4. การท่องเที่ยว: ทะเลเดดซีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษ ผู้เข้าชมจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การลอยตัวบนผิวน้ำอย่างง่ายดายเนื่องจากความเข้มข้นของเกลือสูง ภูมิภาคนี้ยังมีรีสอร์ท สปา และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการบำบัดสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
5. ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม: เมื่อเวลาผ่านไป ทะเลเดดซีได้หดตัวลงเนื่องจากปัจจัยต่างๆ เช่น การระเหยและการผันน้ำจากแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งเป็นแม่น้ำสาขาหลัก การหดตัวนี้ส่งผลให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงหลุมยุบที่ปรากฏตามแนวชายฝั่ง มีความพยายามในการบรรเทาความท้าทายเหล่านี้และรักษาระบบนิเวศที่เป็นเอกลักษณ์ของทะเลเดดซี
ความเค็มของทะเลเดดซีและลักษณะพิเศษอื่นๆ ทำให้ทะเลเดดซีเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก