แม่โวย!! ลูกชายถูกหนูกัดเท้าในศูนย์อาหารในห้างดังเเห่งหนึ่ง เรียกร้องให้ทางห้างรับผิดชอบ
เรื่องของเรื่องคือ คุณแม่ท่านนึ่งได้โพสต์ในเพจ เพจ "ออยศรีและผองเพื่อน" ว่าลูกชายของตน ถูกหนูกัดเท้าในศูนย์อาหารในห้างใหญ่กลางกรุงแห่งหนึ่ง โดยระบุว่า
"หนูในชั้นศูนย์อาหาร ในห้างใหญ่กลางกรุง เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2/5/66 ผู้เสียหายได้ใช้บริการห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง โดยเข้าไปรับประทานอาหารในห้างดัง ใช่ค่ะ ห้าง ไม่ใช่ ตลาด ว่ากันด้วยเรื่องความสะอาดในห้าง เชื่อว่าห้างทุกห้างไม่ว่าจะเป็นห้างเล็ก หรือห้างใหญ่ คงจะมีมาตราฐานกฏระเบียบเรื่องความสะอาดไม่ต่างกัน
ตามคำบอกเล่าลูกชายวัย 19 โดนหนูที่วิ่งออกมาจากร้านอาหารร้านหนึ่ง ในชั้นที่เป็นศูนย์อาหารกัดที่เท้า ทางห้างได้ทำความสะอาดแผลเบื้องต้นให้ แต่ไม่มีการนำส่งโรงพยาบาล ต้องเดินทางเอง นอกจากการทำแผล การรับวัคซีนต่างๆก็น่าจะมีความสำคัญ มีทั้งการพูดจาที่ดี และไม่ดีต่อผู้เสียหาย แต่ก็มีการขอโทษ
เป็นลักษณะแบบหนูบ้าน ซึ่งไม่มีใครทราบว่าความสกปรกจะส่งผลอะไรตามมาต่อสุขภาพร่างกายของน้องหรือไม่อย่างไร โดยเฉพาะในยุคที่เชื้อโรคพร้อมจะขยายกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆตอนนี้ โดยทางห้างให้ชี้แจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย เนื่องด้วยน้องยังไม่บรรลุนิติภาวะ และคุณแม่อยู่ต่างจังหวัด ไม่สะดวกที่จะเข้าไปบ่อยนัก การตกลงเรื่องค่าเสียหายก็ไม่ลงตัว
ด้วยห้างไม่สามารถระบุกำหนดเวลาที่ชัดเจนให้ มีการแจ้งความและขอกล้องวงจรปิดไป ซึ่งร้อยเวรแจ้งว่าได้รับภาพวงจรปิดมาเพียง 1 มุมเท่านั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นในสิ่งที่ควรคำนึงถึงมากที่สุดคือความสะอาด เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าหมูที่มาทำอาหารให้เรา ไก่ที่เรากำลังเคี้ยว จะไม่ผ่านการกัดแทะจากหนูตัวไหน หรือ หนูตัวไหนวิ่งย่ำไปมา บนอาหารของเรามาก่อน และมีหนูแค่ตัวเดียวนี้หรือไม่
หากห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารใดก็แล้วแต่มีโอกาสได้เห็นข้อความนี้ ออยหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะปลุกให้ทุกที่ใส่ใจความสะอาดของปากท้องผู้บริโภค เพื่อประโยชน์ทั้งของลูกค้าและทางร้านอาหารเองด้วย ขอบคุณค่ะ"
เรื่องความสะอาดมันอาจจะมีข้อบกพร่องกันบ้าง เพราะเป็นพื้นที่ใหญ่ แน่นอนว่าควบคุมยาก ต่อให้ตั้งกฎมาตราฐานก็อาจจะหลุดได้ แต่เหนือสิ่งอื่นใด การแสดงความรับผิดชอบในฐานะผู้เป็นเหตุการณ์ให้คนอื่นบาดเจ็บ นั่นคือสิ่งที่ควรทำ