อดีตเมียเสี่ยปาน ทวงเงินไม่ได้ ติดป้ายห้ามซื้อขายบ้าน
หลังจากน้องมดและป้าติ๋วพี่สาวคนโตของเสี่ยปาน 30 ล้าน ได้บุกไปทวงเงินกับป้าเก้า แต่ไม่อยู่พบเพียงนายพจน์ สามีของป้าพจน์
และมีการโต้เถียงกันอย่างเดือด โดยนายพจน์บอกว่า ไม่ยอมยกที่ดินและร้านก๋วยเตี๋ยวให้น้องมด เมียหนีไปแล้วและหอบเงินไปด้วย
โดยน้องมดขอที่ดินและตรงที่เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแทน เพราะถือว่าในส่วนนี้ถือเป็นสมบัติของเสี่ยปานที่ยังเหลืออยู่ แต่นายพจน์กลับไม่ยอม
พร้อมบอกว่าจอให้ขายก่อนได้เงินแล้วจะโอนให้ แต่ป้าติ๋วและน้องมดไม่เชื่อคำโกหกคำโตเพราะเลื่อนนัดมาหลายครั้งแล้ว
ทำให้ตกลงกันไม่ได้
ล่าสุดวันนี้น้องมดได้นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ที่พิมพ์ข้อความระบุว่า "ห้ามจำหน่าย จ่าย-โอน ที่ดินแปลงนี้" มาติดที่บ้านหลังนั้น
ในจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของเสี่ยปาน 30 ล้าน ที่หลงเหลืออยู่ แต่ปรากฎว่าพอน้องมดนั้นไปติดป้ายตอนเช้า
ตกบ่ายมามีมือดีไปถอดเรียบร้อยแล้ว และในวันนี้ ร้องมดจะเดินทางไปที่ศาล จังหวัดอุดรธานี เพื่อให้ทนายยื่นต่อศาล เพื่อให้เพิกถอน
ผู้จัดการมรดกคือป้าเก้า หลังจากยักยอกเงินและหอบเงินหลายล้านหนี ไม่ยอมเอามาให้ลูกชายเสี่ยปาน
น้องมด ้เปิดเผยว่า ที่ดินแปลงนี้ ถือเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของเสี่ยปาน ซึ่งได้ซื้อมาหลังจากถูกรางวัลที่ 1 ในราคา 1.7 ล้านบาท
จากพ่อเรื่องเดช โดยเสี่ยปานได้บอกกับชาวบ้านทั่วไปว่า ที่ดินตรงนี้ จะให้น้องเกาลัด ลูกชาย และเมื่อลูกชายมาหา เสี่ยปานก็พูดกับลูกชาย
ตลอดว่า ที่ดินตรงนี้เป็นของน้องเกาลัด ล่าสุด ก่อนเสี่ยปานเสียชีวิต ได้มีการทำพินัยกรรมให้ป้าเก้า พี่สาวเสี่ยปาน เป็นผู้จัดการมรดกโดย ฃ
ระบุอย่างชัดเจนว่า บ้านพร้อมที่ดิน ให้ขายและนำเงินที่ได้มอบให้น้องเกาลัด เป็นจำนวน 3 ล้านบาท โดยให้เข้าบัญชีน้องเกาลัด 2 ล้านบาท
ส่วนอีก 1 ล้าน ให้โอนให้น้องเกาลัด เดือนละ 7,000 บาททุกเดือนจนกว่าจะครบ 1 ล้านบาท
เมื่อประกาศขายบ้านได้แล้ว (โดยขายให้กับญาติของสามีใหม่ป้าเก้า) ปรากฎว่า ป้าเห้า ไม่ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ระบุเอาไว้
ได้หอบเงินหนีไปทั้งหมด น้องเกาลัดจึงไม่ได้เงินแม้แต่บาดเดียว ป้าเก้านั้นหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครสามารถติดต่อได้
จนกระทั้งได้ไปฟ้องศาลและได้มีการดำเนินการออกหมายจับ
ทนายได้บอกว่า ป้าเก้านั้นไม่ปฏิบัติตามพินัยกรรมที่ระบุเอาไว้ ก็เป็นอันยกเลิกผู้จัดการมรดก ไม่สามารถที่จะทำธุรกรรมใด ๆ ได้
และน้องเกาลัดเป็นลูกชายโดยสายเลือด มีสิทธิ์ในที่ดินผืนนี้เพียงผู้เดียว ตนจึงมาติดป้ายประกาศ เพื่อลูกชายของเสี่ยปาน
จะได้สิทธิ์ครอบครองที่ดินผืนนี้เป็นผืนสุดท้ายที่ยังคงมี ตนพยายามติดต่อ ป้าเก้าตลอด แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โทรศัพท์ถูกยกเลิก
ฝากถึงป้าเก้าอีกครั้ง ขอให้กลับมาคุยกันให้รู้เรื่อง คิดถึงหลานชาย คือ ลูกชายเสี่ยปานด้วย








