Digital marketing คืออะไรและมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจอย่างไร
ในแวดวงของการทำธุรกิจ คำว่า digital marketing เป็นคำที่คุ้นเคยกันดี เนื่องจากปัจจุบันมาร์เก็ตติ้งมีผลต่อการทำธุรกิจอย่างมาก ตอนนี้เป็นยุคของโลกออนไลน์ทำให้เจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวตามยุคสมัยเพื่อตามกระแสสังคมให้ทันและยังคงพยุงธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปได้โดยการหันมาทำการตลาดผ่านสื่อออนไลน์แทน ซึ่งมีหลายแพลตฟอร์มที่รองรับการทำ marketing online เพียงแค่คุณต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าคือใครแล้วค่อยดำเนินการทำรูปแบบการตลาดไปในแนวทางดังกล่าว ดังนั้นหากคุณกำลังทำธุรกิจและต้องการเข้าสู่ตลาดออนไลน์ คุณต้องรู้ก่อนว่า digital marketing คืออะไร มีบทบาทต่อธุรกิจของคุณอย่างไร
Digital marketing คืออะไร
Digital marketing คือการทำให้ผู้คนรู้จักสินค้าและเข้าถึงธุรกิจของคุณผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ได้ง่าย ๆ ผ่านเครื่องมือสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ซึ่งแพลตฟอร์มขายของออนไลน์ที่คนไทยนิยมมากที่สุดคือ Facebook, Instagram, Twitter, TikTok, Line, Lazada, Shopee, Google และ Youtube เป็นต้น การทำดิจิตอล มาร์เก็ต ติ้งสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขายและดึงดูดผู้คนจำนวนมากได้มากกว่าการทำธุรกิจแบบออฟไลน์โดยใช้ระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เท่านั้น ดังนั้นหากใครก็ตามที่กำลังสนใจทำธุรกิจ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรมองข้ามคือการทำ digital marketing
หลักการของ Digital marketing
ยังมีหลายคนที่สงสัยอยู่ว่าหลักการทำงานของ digital marketing ต่างจากหลักการทำงานของ online Marketing อย่างไร ซึ่งเราจะมาอธิบายให้เห็นภาพกันโดยเริ่มที่ ดิจิตอล มาร์เก็ต ติ้ง คือ การทำการตลาดผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ใช้ได้ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เช่น ป้ายโฆษณาดิจิตอล โฆษณาทางทีวี หรือสื่อต่าง ๆ เป็นต้น ส่วน online marketing คือ การทำการตลาดบนแพลตฟอร์มแอปพริเคชั่นต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้เท่านั้น ดังนั้น digital marketing สามารถทำงานควบคู่ไปกับ online marketing ได้
Digital marketing สำคัญต่อการทำธุรกิจในยุคลปัจจุบันอย่างไร
การทำธุรกิจผ่านระบบ digital marketing มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณทันที เมื่อผู้คนหันมาใช้เครื่องมือสื่อสารและเสพสื่อออนไลน์กันมากขึ้น วันนี้เราจะมาอธิบายความสำคัญของการทำมาร์เก็ตติ้งรูปแบบดิจิตอลเพื่อให้เห็นภาพกันมากขึ้น
- สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าของคุณได้โดยตรง
- สามารถทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าของคุณได้ง่ายผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ
- ทำให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักและติดตลาดได้ในวงกว้าง
- ช่วยให้เจ้าของธุรกิจมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ง่ายและไวขึ้น
- สามารถเพิ่มยอดขายให้กับสินค้าของคุณได้มากกว่าเดิม
- สามารถวิเคราะห์ความต้องการและติดตามผลการตอบรับจากฝั่งลูกค้าได้ตลอดเวลา
- ค่าใช้จ่ายในการทำดิจิตอล มาร์เก็ต ติ้งราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับผลรับที่ได้ อีกทั้งเจ้าของธุรกิจยังสามารถควบคุมและกำหนดค่าใช่จ่ายในการทำ digital marketing ได้ด้วยตัวเอง
10 รูปแบบการตลาด digital marketing
ปัจจุบันโลกออนไลน์เป็นตลาดซื้อขายสินค้าที่กว้างที่สุดในโลก ซึ่งคุณสามารถเลือกรูปแบบการทำโฆษณาโปรโมทสินค้าของคุณบนแพลตฟอร์มที่คุณต้องการได้ตามความเหมาะสมเพื่อให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุด ดังนั้นเราจะมาแนะนำ 10 รูปแบบการตลาด digital marketing มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
1. Pay-Per-Click Advertising (PPC)
การทำงานของโฆษณาตัวนี้คือ เมื่อมีการกดเข้ามาในหน้าสินค้าหรือมีการคลิกโฆษณาโปรโมท คุณต้องจ่ายเงินตามจำนวนคลิกนั้น ๆ
2. SEO (Search engine optimization)
การทำโฆษณารูปแบบนี้คือ จะทำให้ลูกค้าเห็นเว็บไซส์ของคุณเป็นอันดับแรก ๆ ผ่านการค้นหาคีย์เวิร์ดตามที่คุณตั้งเอาไว้
3. Content marketing
เป็นการทำโฆษณารูปแบบการสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดลูกค้าผ่านการ เขียนบรรยาย โพสรูปภาพและวีดิโอสินค้าตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ
4. Social Media Marketing
การทำโฆษณาSocial Media Marketing จะคล้ายกับการทำ Content marketing คือโปรโมทสินค้าให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ
5. Influencer Marketing
Influencer Marketing คือการให้บุคคลที่มีผู้ติดตามจำนวนมากหรือมีแฟนคลับเป็นของตัวเอง ช่วยโปรโมทสินค้าบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ หรือเชิญชวนให้ผู้ติดตามมาซื้อสินค้าของคุณ
6. Email marketing
เป็นการโปรโมทสินค้าผ่านการส่งอีเมลไปตามแอคเคาท์ของผู้ใช้บริการเว็บไซส์อีเมล ที่กำลังสนใจในสินค้าประเภทนั้น ๆ อยู่
7. Affiliate marketing
เป็นการโปรโมทสินค้าที่ใช้ตัวแทนในการช่วยขาย ซึ่งตัวแทนจะได้ค่าตอบแทนเป็น Commission (คอมมิชชัน) หากขายสินค้าของคุณได้
8. Mobile marketing
เป็นการทำโฆษณาผ่านระบบสื่อสารช่องทางต่าง ๆ บนสมาร์ทโฟน เช่น การโปรโมทสินค้าผ่าน SMS
9. Video Marketing
การทำโฆษณารูปแบบนี้คือ การโปรโมทสินค้าผ่านการทำวีดิโอและโพสขายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าเห็นภาพสินค้าได้ชัดเจนขึ้น
10. Display Advertising
เป็นการโปรโมทสินค้าผ่านรูปภาพ เช่น ป้ายโฆษณา โพสภาพสินค้าขายบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ เพื่อดึงดูดสายตาของลูกค้า
กลยุทธ์สำคัญในการทำ Digital Marketing คือ
การที่ digital marketing จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดคงหนีไม่พ้นเรื่องกลยุทธ์การทำการตลาด เพราะ digital marketing strategy คือกุญแจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง ดังนั้นเราจะมาดูกันว่า การที่จะทำให้ธุรกิจหนึ่งเติบโตไปได้ไกลและเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในระยะเวลาอันสั้นต้องอาศัยกลยุทธ์สำคัญใดบ้างในการทำมาร์เก็ตติ้ง
- Defining Your Target Audience หรือ การตั้งกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนที่เราจะทำ ดิจิตอล มาร์เก็ต ติ้ง ต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าของเราคือใคร ผลิตสินค้าให้ใครใช้ เพื่อที่เราจะได้โปรดมทสินค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย
- Setting Marketing Goals หรือ การตั้งเป้าหมายให้กับธุรกิจ
ก่อนที่คุณจะเริ่มทำธุรกิจ คุณควรตั้งเป้าหมายก่อนว่าต้องการให้ธุรกิจของคุณเป็นไปในทิศทางใด และร่างรูปแบบการทำงานตามจุดประสงค์ที่ต้องการ เพื่อที่จะทำให้คุณเห็นภาพการเติบโตของธุรกิจได้อย่างชัดเจน
- Choosing the Right Channels หรือ เลือกช่องทางการขาย
การเลือกช่องทางการขายสินค้าถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะต้องคำนึงถึงความสะดวกในการสั่งซื้อสินค้า หากแพลนฟอร์มที่คุณลงขายเอื้ออำนวยต่อการสั่งซื้อ มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก จะสามารถดึงดูดลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า
- Creating Compelling Content ทำคอนเทนต์ดึงดูดผู้ซื้อ
นอกจากตัวสินค้าที่ต้องผลิตออกมาให้ดึงดูดลูกค้าแล้ว การเขียนบรรยายสินค้า ภาพถ่ายสินค้าหรือวีดิโอพรีเซนต์สินค้าก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สามารถเพิ่มการตัดสินใจในการซื้อสินค้าให้กับลูกค้าได้ ดังนั้นเทคนิกการเขียนอย่างไรให้ผู้ซื้อคล้อยตาม บรรยายอย่างไรให้ผู้ซื้อรับรู้ถึงคุณภาพและสรรพคุณของสินค้าในเวลาอันสั้น
- Measuring and Analyzing Results วิเคราะห์ต้นทุน
ทุกคนที่จะเริ่มทำธุรกิจต้องวิเคราะห์ต้นทุนทุกอย่างที่เป็นค่าใช้จ่ายก่อนลงมือทำจริง ๆ เพื่อให้ทราบถึงต้นทุนที่เราจ่ายไปและนำราคานี้ไปวิเคราะห์ต่อเพื่อตั้งราคาสินค้าอย่างไรให้ได้กำไรและคืนทุน
เครื่องมือสำหรับงาน Digital marketing
เครื่องมือสำหรับงาน digital marketing หรือ digital marketing tools คือ เว็บไซส์ที่ช่วยวิเคราะห์และวางแผนการตลาดเพื่อให้ธุรกิจของคุณได้รับประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นท่ามกลางการแข่งขันที่สูงหากต้องการให้ธุรกิจเติบโตได้ดีในโลกออนไลน์ ต้องมีตัวช่วยในการจัดการและบริหารระบบการทำงานของบริษัทที่ดี ซึ่ง 9 อันดับเว็บไซส์ที่นักธุรกิจออนไลน์นิยมใช้กันมากที่สุดมีดังนี้
- Google Analytics ใช้ในการวิเคราะห์การเติบโตของธุรกิจผ่านการทำโฆษณา
- Google Ads เป็นรูปแบบการทำโฆษณาบนแพลตฟอร์มที่มียอด Search engine มากที่สุดในโลก ทำให้ผู้คนเข้าถึงสินค้าของคุณได้ง่าย
- Ubersuggest เป็นเว็บไซส์ที่เอาไว้เช็คคีย์เวิร์ดที่ลูกค้ากดค้นหาบ่อยที่สุด เพื่อนำมาปรับใช้ในการเขียนคอนเทนต์สินค้าของคุณ
- SEM rush เป็นเว็บไซส์ช่วยคิดคีย์เวิร์ดที่กำลังได้รับความนิยมและเหมาะกับสินค้าของคุณ นอกจากนี้ยังช่วยวิเคราะห์การตลาดให้กับธุรกิจของคุณรวมไปถึงเอาไว้ดูกลยุทธ์การทำโฆษณาของคู่แข่งได้อีกด้วย
- Buffer เหมาะกับสาย Content Creator อย่างมากเพราะสามารถวางแผนการตลาด สร้างโพสและตั้งเวลาโพสสินค้าอัตโนมัติได้
- HubSpot เป็นเว็บไซส์ที่ใช้ในการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะกับสินค้าของคุณได้อย่างแม่นยำ ทำให้ลูกค้าเห็นสินค้าและเข้าถึงสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น
- MailChimp เป็นการทำโฆษณาโปรโมทสินค้าผ่านการส่งอีเมล
- ManyChat เป็นระบบที่ใช้ส่งข้อความโปรโมทสินค้าพร้อมกันหลายแชทได้ในครั้งเดียว
- Social Media Monitoring และ Listening ใช้สำหรับเช็คโพสโปรโมทสินค้าที่มียอดไลค์และยอดแชร์สูงสุด
ข้อสรุป
เพื่อให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตในโลกออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว เป็นที่รู้จักในวงกว้างและเพิ่มยอดขายให้กับสินค้า การทำ digital marketing สำคัญมากเพราะเป็นตัวกลางในการเข้าถึงระหว่างสินค้ากับลูกค้าผ่านโลกออนไลน์บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และยังช่วยให้การทำงานของคุณเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย