ตำนานแสนเศร้า ปราสาทนางฟ้า ของหญิงสาวที่หลบหนีการเป็นภรรยาของเจงกิสข่าน
ตำนานแสนเศร้าปราสาทนางฟ้า ของหญิงสาวที่หลบหนีการเป็นภรรยาของเจงกิสข่าน
ตำนานที่แสนเศร้าหรือ love story นั่นเองผมคิดว่าเจ้าหญิงองค์นี้เป็นคนที่มีความคิดเด็ดเดี่ยวมากนะครับลองคิดดูสิครับเจงกิสข่านอยากจะได้ใครมาเป็นภรรยาเขาก็จะใช้อำนาจบังคับขู่เข็ญมาจนได้เพราะว่าช่วงนั้นมองโกล มีอำนาจมากที่สุด แต่ในตำนานนี้ หญิงสาวสวยที่ชื่อ ปารี ไม่ยอมจึงหนีขึ้นไปอยู่บนปราสาทนางฟ้านี้
และต่อมากองทัพมองโกลมาตั้งค่ายอยู่ที่เชิงหน้าผาเพื่อจับเธอ ปารีจึงจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดลงมาจากปราสาท
นี่เป็นเรื่องย่อๆนะครับลองมาอ่านเรื่องเต็มๆกันดีกว่าแล้วก็ชมภาพประกอบไปด้วยนะครับผมว่าคลาสสิคมากๆเลยนะครับ
ที่เชิงเขาของเทือกเขาคอเคซัสทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอาเซอร์ไบจาน เป็นที่ตั้งของปราสาทปาริกาลา สถานที่ลึกลับทางประวัติศาสตร์ที่น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งของโลก บริเวณหน้าผาหินที่ชันจนแทบจะเป็นแนวตั้ง มีลักษณะเป็นโครงสร้างที่ถูกสร้างไว้ร่วมหลายร้อยปีมาแล้ว และปัจจุบันนี้ก็ยังคงเป็นสถานที่ลึกลับที่ยังไม่มีใครรู้ถึงที่มาที่ไปของมันว่ามีประวัติความเป็นมาอย่างไร
ปราสาทปาริกาลา หรือ ปราสาทนางฟ้า เป็นหนึ่งในขุมทรัพย์ทางโบราณคดีของประเทศอาเซอร์ไบจานที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก เนื่องจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศอาเซอร์ไบจานยังไม่พัฒนา ถ้าคุณต้องการไปปาริกาลา คุณต้องขับรถผ่านเส้นทางที่ห่างไกลและไม่ค่อยมีคนรู้จัก ลัดเลาะไปตามทางแคบ ๆ เพื่อขึ้นไปบนหน้าผาที่เป็นทางลาดชันที่ลื่นมากและปกคลุมไปด้วยใบไม้ ซึ่งไม่ใช่เส้นทางที่เหมาะกับทุกคนแน่นอน
ปราสาทนางฟ้าแห่งนี้ประกอบไปด้วยห้องสามห้องที่ตรงส่วนทางเข้าด้านหน้าถูกปิดด้วยอิฐหินปูน นี่เป็นข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่มีอยู่ เนื่องจากมีเพียงไม่กี่คนที่กล้าปีนขึ้นไปสำรวจสถานที่ด้วยตนเอง
จากบทความใน Azerbaijan International ปี 2005 บุคคลสุดท้ายที่สามารถปีนหน้าผาหินซึ่งเป็นที่ตั้งของปราสาทปาริกาลาได้ เป็นคนท้องถิ่นชื่อ Mammad Darudov ในปี 1970 และตั้งแต่นั้นมายังไม่มีใครปีนขึ้นไปได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าแชมป์มวยปล้ำอาเซอร์ไบจานจะพยายามปีนขึ้นไปโดยสร้างบันไดชั่วคราวเพื่อให้ปีนง่ายขึ้นก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทำได้สำเร็จ
ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นคนสร้างปราสาทนางฟ้าแห่งนี้ และสร้างขึ้นมาทำไม แต่มีตำนานหนึ่งที่เป็นที่มาของชื่อปราสาทนางฟ้า
ย้อนกลับไปในสมัยเจงกิสข่าน จักรพรรดินักรบชาวมองโกล มีนิทานพื้นบ้านเล่าว่า ลูกสาวของผู้ปกครองท้องถิ่นได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในภรรยาของเจงกิสข่าน เมื่อเจงกิสข่านถามเธอว่ารู้จักใครที่สวยกว่าเธออีกหรือไม่ หญิงสาวตอบว่า ปารี น้องสาวของเธอ
เมื่อได้ยินดังนั้นเจงกิสข่านจึงต้องการเพิ่มปารีเข้าไปอยู่ในฮาเร็มของเขา ปารีให้คนงานท้องถิ่นสร้างปราสาทให้เธอบนหน้าผาสูงแล้วหลบหนีไปอยู่ที่นั่น ต่อมากองทัพมองโกลมาตั้งค่ายอยู่ที่เชิงหน้าผาเพื่อจับเธอ ปารีจึงจบชีวิตตัวเองด้วยการกระโดดลงมาจากปราสาท
สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ ใครก็ตามที่สร้างปราสาทปาริกาลาต้องการความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ทุกวันนี้ด้วยอุปกรณ์ปีนเขาที่มีอยู่ทั้งหมด การไปถึงปราสาทนางฟ้าก็เป็นเรื่องที่ยากมาก ปราสาทปาริกาลาตั้งอยู่บนหน้าผาที่ปิดล้อมไปด้วยอิฐหินปูน ฉาบด้วยปูนที่เกาะติดแน่นกับภูเขา ตรงปลายสุดของบันไดพังทลายลง ทำให้เข้าถึงปราสาทได้ยากกว่าเดิม ซึ่งไม่เหมาะกับคนขี้ขลาด เพราะต้องใช้ความคล่องตัวและทักษะในการปีนเขาสูงมาก
จากคำบอกเล่าของ Mammad Darudov หนึ่งในไม่กี่คนที่ได้เห็นภายในของปราสาทปาริกาลาในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ปราสาทประกอบได้ด้วยห้องสามห้อง แต่ละห้องมีหน้าต่างของตัวเอง และเชื่อมต่อกับปราสาทหลักด้วยทางเดินที่มีกำแพงล้อมรอบ
เมื่อพิจารณาดูแล้ว ปราสาทปาริกาลาน่าจะมีอายุย้อนไปถึงยุคคอเคเชียนแอลเบเนีย (ระหว่างศตวรรษที่ 4 ถึง 8) ปัจจุบันตัวปราสาทยังคงอยู่โดยผ่านกาลเวลาและองค์ประกอบต่าง ๆ ได้อย่างน่าประหลาดใจ สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของปราสาทปาริกาลาคือ ที่มาและวัตถุประสงค์ในการสร้างที่ยังเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้
มันอัศจรรย์นะครับที่ว่าคนโบราณสามารถสร้างอะไรที่มันยากๆและสลับซับซ้อนได้โดยเฉพาะประสาทนางฟ้าอะไรนี่ล่ะเยี่ยมๆชื่นชมกับความมานะพยายามในการก่อสร้างของคนในสมัยโบราณ
อ้างอิงจาก: odditycentral,YouTube