หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

เมื่อผู้คนในอดีตบังเอิญตายแล้วฟื้น กลัว ถูกฝังทั้งเป็น จึงมีการคิดโลงที่ช่วยเอาชีวิตรอดขึ้นมา

โพสท์โดย Man

เมื่อผู้คนในอดีตบังเอิญตายแล้วฟื้น กลัว ถูกฝังทั้งเป็น จึงมีการคิดโลงที่ช่วยเอาชีวิตรอดขึ้นมา

ทาโฟโฟเบีย (Taphophobia) คือภาวะความกลัวจากการถูกฝังทั้งเป็น หากย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 มีรายงานว่าผู้คนหลายร้อยคนถูกฝังทั้งเป็นโดยบังเอิญ จากการที่คนรอบตัวคิดว่าพวกเขาเสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขของผู้รอดชีวิตเท่านั้น และยังมีอีกมากมายที่เราไม่เคยรู้เพราะพวกเขาไม่เคยรอดชีวิตออกมาบอกให้เราได้ทราบ

และนั่นจึงทำให้นักประดิษฐ์ในสมัยนั้นพยายามคิดค้นสิ่งที่เรียกว่า “Safety Coffin” หรือ “โลงปลอดภัยไว้ก่อน” ที่ช่วยให้ผู้คนที่ถูกฝังทั้งเป็นมีโอกาสรอดชีวิตมากขึ้น โลงเหล่านี้มีความน่าสนใจและได้รับการจดสิทธิบัตรเพื่อนำไปสร้างขึ้นมาจริง ๆ แทบทั้งสิ้น

1. โลงที่ช่วยให้คุณปีนออกไปเองได้

โลงดังกล่าวถูกจดสิทธิบัตรในปี 1868 โดยเป็นหนึ่งในการจดสิทธิบัตรโลงศพที่เก่าแก่ที่สุดในอเมริกา แนวคิดของโลงนี้คือคุณจะถูกฝังอยู่ในโลงที่มีรูระบายอากาศ จากนั้นหากคุณดึงคันโยกก็จะสามารถเปิดช่องเล็ก ๆ และปีนออกมาเองได้ แต่หากคุณไม่ตื่นขึ้นมาเป็นเวลา 1 สัปดาห์ พวกเขาก็จะฝังคุณ

โดยพื้นฐานแล้ว ผู้คิดค้นโลงนี้เสนอว่า ทางออกที่ดีที่สุดเพื่อไม่ให้ถูกฝังทั้งเป็นก็คือการไม่ฝังเลย

2. โลงสั่นกระดิ่ง

โลงที่ถูกจดสิทธิบัตรในปี 1885 อ้างว่าเป็น ‘สัญญาณช่วยชีวิตสำหรับผู้ถูกฝังที่อยู่ในภวังค์” มันไม่ได้ถูกออกแบบแค่ให้คุณแจ้งคนข้างนอกให้ทราบเท่านั้น แต่ยังรักษาตัวคุณให้อยู่รอดข้างในได้อย่างยาวนานอีกด้วย

เริ่มจากการดึงเชือกเพื่อให้อากาศไหลเข้าสู่โลง เพื่อให้คนที่อยู่ข้างในหายใจได้ มีโคมไฟที่ติดตั้งอยู่ภายในโลงเพื่อให้คนภายนอกส่องเข้าไปดูว่าเผื่อว่าคนในโลงยังมีชีวิตอยู่ และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คุณสามารถส่งสัญญาณว่ายังมีชีวิตอยู่ด้วยการทำให้ขนนกเคลื่อนไหวหรือการสั่นกระดิ่ง

3. โลงท่ออากาศ

โลงที่ถูกคิดค้นขึ้นในปี 1894 นี้จะการติดตั้งท่อขึ้นไปเหนือพื้นดินเพื่อให้ผู้ถูกฝังหายใจได้จากการดูดท่ออากาศนี้ จากนั้นหากคุณตื่นขึ้นมาก็สามารถส่งสัญญาณด้วยการใช้ศีรษะโขกไปที่อุปกรณ์ส่งสัญญาณ ซึ่งจะทำให้ธงสีแดงตั้งขึ้น เป็นสัญญาณให้คนภายนอกรู้ว่าคุณยังมีชีวิตอยู่

4. โลงที่ต้องใช้หัวโขก

โลงที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1899 มีช่องหน้าต่างที่เป็นกระจก ที่ทำให้คนอื่นสามารถเห็นคนที่ถูกข้างในโลงได้อย่างชัดเจน และหากแน่ใจแล้วว่าเสียชีวิตแล้วจึงทำการปิดหน้าต่างได้

แต่สมมุติว่าเกิดความผิดพลาด คนที่อยู่ในโลงยังไม่เสียชีวิต คุณสามารถใช้ศีรษะโขกกระจกอุปกรณ์ที่จะทำให้กระจกหน้าต่างแตกออก และส่งเสียงดังเพื่อขอความช่วยเหลือได้ แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะถูกฝังลงดิน

5. โลงติดเตาเผา

โลงนี้ถูกจดสิทธิบัตรในปี 1899 โดยถูกออกแบบมารองรับทั้งในกรณีที่คุณยังมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตไปแล้ว หากคุณยังมีชีวิตอยู่ ท่อจากเตาที่ติดอยู่จะส่งอากาศจากภายนอกเข้ามาให้คุณหายใจได้

แต่หากคุณเสียชีวิตไปแล้ว เตาดังกล่าวจะถูกใช้เป็นเตาเผาร่างของคุณเพื่อไม่ให้ส่งกลิ่นเหม็นออกมาภายนอกผ่านท่อระบายอากาศ

6. โลงรหัสมอร์ส

โลงดังกล่าวถูกจดสิทธิบัตรในปี 1904 โดยมีการติดตั้งระบบที่ซับซ้อนผ่านวงจรไฟฟ้าแบบปิด เมื่อผู้ถูกฝังปิดวงจรดังกล่าว ถังเก็บออกซิเจนจะเปิดออก สัญญาณก็จะถูกส่งผ่านสายสัญญาณที่อยู่ข้างนอกและรอการช่วยชีวิต และในทางเทคนิคแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องรู้รหัสมอร์สเพื่อเอาชีวิตรอด เพราะหากมีสัญญาณถูกส่งออกไป ก็เป็นที่สงสัยได้ว่าคนในโลกอาจยังมีชีวิตอยู่

7. โลงยุคใหม่

โลงนี้ถูกจดสิทธิบัตรในปี 2014 ที่ผ่านมา โดยอ้างถึงความกังวลที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาที่น่าสนใจ

ในบางศาสนาจะต้องทำการฝังร่างผู้เสียชีวิตภายใน 24 ถึง 48 ชั่วโมง สิทธิบัตรดังกล่าวจึงอ้างว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะมีคนถูกฝังทั้งเป็น

สำหรับโลงสมัยใหม่ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน เพราะสิ่งที่คุณต้องทำเพียงแค่การกดปุ่มเท่านั้น

ถ้าดูๆแล้วคนสมัยก่อนนี้ก็เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์มากๆเลยนะครับ จากความรอบคอบ คิดแม้กระทั่งตายแล้วก็กลัวฟื้นขึ้นมาอีกจะทำยังไงให้ตัวเองมีชีวิตรอด เยี่ยมมากๆเลยนะครับสำหรับความคิดแตกต่างออกไปนำไปสู่วิธีการใหม่ๆหรือความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆครับ

สรุปง่ายๆก็คือว่าคนที่ตายแล้วเกิดฟื้นขึ้นมาแล้วอยู่ในโลงถ้าออกไม่ได้ก็ต้องตายแบบทรมานซ้ำสองเข้าไปอีก ก็เลยคิดหาวิธีทำอย่างไรที่จะทำให้รอดชีวิตได้เมื่ออยู่ในโลงและถูกฝังนี่คือที่มาของวิทยาการการปิดโลงช่วยชีวิตพวกนี้ 

โลงต่างๆที่คนยุคก่อนคิดประดิษฐ์ขึ้นขึ้นเพื่อเอาชีวิตรอดในขณะที่ถูกฝังทั้งเป็น หรือตายแล้วฟื้นจะทำยังไงคนที่ตายแล้วฟื้นจะส่งสัญญาณให้คนเป็นข้างบนรู้ได้ว่าตัวเองฟื้นจากความตายแล้วคือ ไม่ตายนั่นเอง แต่สุดท้ายมันก็คงไม่มีประโยชน์อะไรหรอกคงจะตายอยู่ดีนั่นแหละชักดิ้นชักงอ ขาดอากาศหายใจหายใจไม่ออกตายตามเดิม

โพสท์โดย: Man
อ้างอิง vox/buried-alive-safety-coffins ,วิกิพีเดีย
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
Man's profile


โพสท์โดย: Man
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ข่าวเศร้าสะเทือนวงการ! "เบนซ์ ธนธิป" เสียชีวิตแล้วรัสเซียประณาม ชาวรัสเซียที่นับถืออิสลาม ปฏิบัติไม่ดีต่อผญ. ที่ถือศาสนาอื่นอีกทางเลือก กำจัดปลาหมอคางดำวัดป่าดงหนองตาล ตำนานที่ถูกปิดสื่อฮาแตก หลัง "ลิลลี่" เผยเหตุเลิกราอดีตประธานสภาฯ
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
สื่อฮาแตก หลัง "ลิลลี่" เผยเหตุเลิกราอดีตประธานสภาฯอีกทางเลือก กำจัดปลาหมอคางดำหนังที่ทำรายได้น้อยที่สุดตลอดกาล เท่าที่เคยมีบันทึกไว้ในโลก
กระทู้อื่นๆในบอร์ด รวมสาระบทความแบ่งปั่นกัน
แมนเดรก คืออะไรและทำไมแถบอาหรับ เรียกพืชชนิดนี้ว่า “ เทียนแห่งปีศาจ ”ค้างคาวหน้าผีแปลกๆ“ค้างคาวหน้ายักษ์เล็กสีเขม่า” ค้างคาวชนิดใหม่ของโลกในวงศ์ค้างคาวหน้ายักษ์แค็มป์ปิ้งหวาดเสียว..แค็มป์ปิ้งริมผาที่น่าจะหวาดเสียวที่สุด ที่หนึ่งในโลก คนกลัวความสูงหมดสิทธิอุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน และ เสาเมดูซ่าแบบกลับหัว และเสาเมดูซ่าแบบตะแคงขวา เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี
ตั้งกระทู้ใหม่