Share Facebook LINE Twitter
หน้าแรก เว็บบอร์ด Chat ตรวจหวย ควิซ คำนวณ Pageแชร์ลิ้ง
หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
เว็บบอร์ด บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

"บางมุมของสมเด็จพระนเรศวร ที่ไม่มีในพงศาวดารของสยามประเทศ"

โพสท์โดย อับดุล รอเเย๊ะส์


"..............ด้วย ความเคารพต่อดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระนเรศวร บทความนี้เพียงต้องการสื่อในเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ซึ่งมีผู้บันทึกไว้ มิได้มีเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นพระเกียรติยศแต่ประการใด".....
.....หลังจากที่พระเจ้าแผ่นดินองค์ก่อนเสด็จสวรรคตแล้ว บรรดาขุนนางกราบทูลวิงวอนให้พระนเรศทรงรับราชสมบัติเสด็จผ่านพิภพ พวกขุนนางกราบทูลถวายความเห็นว่า นอกจากจะทรงบำเพ็ญพระราชกิจไว้มากหลายแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นพระราชโอรสองค์ใหญ่ในรัชกาลของสมเด็จพระราชบิดา และทรงดำรงตำแหน่งฝ่ายหน้าหรือพระราชโอรสลำดับต้น และเป็นองค์รัชทายาทที่ชิดราชบัลลังก์ที่สุด แต่พระนเรศไม่มีพระราชประสงค์จะเสวยราชสมบัติ จึงตรัสขึ้นว่า พระองค์ทรงแปดเปื้อนโลหิตมามากคงจะต้องปกครองกันอย่างเข้มงวด เด็ดขาด
ดังนั้นจึงมีพระราชประสงค์ให้พระอนุชา ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นฝ่ายหลัง หรือราชโอรสเสวยราชในลำดับถัดไป พระอนุชาและบรรดาขุนนางทรงทราบดีว่าพระนเรศทรงทักท้วงขึ้นเพื่อลองใจพวกขุน นาง ดังนั้นถ้าใครเห็นคล้อยกับข้อทักท้วงของพระองค์ท่านอาจได้รับอันตรายขึ้นได้ ทั้งหมดจึงยืนกรานตามข้อที่กราบบังคมทูลถวายความเห็นไว้แต่เดิม พระนเรศทรงยกเปรียบเทียบพระเมตตาของสมเด็จพระราชบิดาที่สวรรคตไปแล้วกับทัศนะอันรุนแรงแข็งกร้าวของพระองค์ แต่ยิ่งพระองค์ทรงทักท้วงมากขึ้นเพียงใด พวกขุนนางยิ่งไม่กล้าเลือกพระอนุชาคือฝ่ายหลัง ให้ขึ้นเสวยราชสมบัติ
ท้ายที่สุดพระนเรศจึงตรัสขึ้นว่า
"ถ้าเช่นนั้นพวกเจ้าต้องการให้ข้าขึ้นเป็นกษัตริย์ของพวกเจ้าจริง"
พระอนุชาและขุนนางกราบทูลขึ้นพร้อมกันว่า
"ขอพระองค์จงรับเป็นพระเจ้าอยู่หัวของข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายเถิด พวกข้าพระพุทธเจ้าจักขอเป็นข้าบาทแห่งพระองค์"
พระนเรศตรัสตอบว่า
"ดังนั้น ข้าขอให้พวกเจ้าจงนบนอบเชื่อฟังข้า ปฏิบัติตามพระราชกำหนดกฎหมายบ้านเมือง รักษากฎหมายอย่าฝ่าฝืน ใครที่ล่วงละเมิดพระราชกำหนดกฎหมายแม้แต่เล็กน้อยจะถูกประหาร"
แล้วจึงมีรับสั่งให้จัดเรือหลวงพระที่นั่งให้พร้อม และเสด็จด้วยเรือพร้อมกับขุนนางไปยังพะเนียด (สถานที่ไว้ช้างและกษัตริย์หลายพระองค์ใช้ราชาภิเศก) เพื่อสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ และถือน้ำพระพิพัฒสัจจาต่อพระองค์
เมื่อเสด็จถึงพะเนียด ฝีพายเรือพระที่นั่งพระนเรศเข้าเทียบเรือผิด แต่ขณะนั้นพระองค์ยังมิได้ทรงลงพระอาญา ได้ทรงราชาภิเศกตามขัตติยราชประเพณี เมื่อพระชนม์ 35 พรรษา ทรงพระนามพระนเรศราชาธิราช (Prae Naerith Raetisia Thieraij) เมื่อเสร็จพระราชพิธีราชาภิเศกแล้ว พระองค์ตรัสให้เอาฝีพายประจำเรือพระที่นั่งอีกทั้งพวกฝีพายในเรือหลวงลำอื่นๆ (ประมาณ 1,600 คน) ไปเผาเสียทั้งเป็น ณ สถานที่เดียวกันนั้น มีพระดำรัสกับขุนนางว่า เป็นพระราชประสงค์จะให้พวกขุนนางจดจำการลงพระราชอาญานี้ไว้เป็นเยี่ยงอย่างการปกครองของพระองค์ แล้วจึงเสด็จพระราชดำเนินกลับพระราชวัง นี่อาจเป็นที่มาของอีกสมัญญานามว่า "ราชาแห่งไฟ"
พระนเรศราชาธิราชนั้น พวกมลายูเรียกพระองค์ว่า "ราชาอภัย" ส่วนชาวสยามเอ่ยพระนามว่า "พระองค์ดำ" เท่าที่เคยมีมาในสยามนั้น นับว่าในรัชสมัยของพระองค์ทรงปกครองอย่างทหารและเข้มงวดกวดขันที่สุด
มีเรื่องเล่าและตัวประจักษ์พยานที่ยังมีชีวิตอยู่มากหลายกล่าวว่า ในรัชกาล 20 ปีของพระองค์นั้น ทรงประหารและให้ประหารตามคำพิพากษาเสียกว่า 80,000 คน ทั้งนี้ไม่รวมถึงผู้ที่เสียชีวิตไปในการสงคราม ตลอดเวลาไม่ว่าจะทรงช้าง ทรงม้า ประทับเรือพระที่นั่งทรง หรือแม้แต่ประทับบนราชบัลลังก์เสด็จออกขุนนางก็จะทรงมีพระแสงไว้ มักจะทรงวางแล่งธนูไว้บนพระเพลาและถือพระแสงธนูไว้ในพระหัตถ์ เมื่อทอดพระเนตรเห็นบุคคลใดทำสิ่งไม่ถูกพระทัยแม้แต่เล็กน้อย จะทรงยิงลูกธนูไปที่ผู้กระทำผิดและตรัสให้ผู้นั้นนำลูกธนูกลับมาถวาย พระองค์จึงตรัสสั่งให้แล่เนื้อบุคคล (แม้แต่ขุนนาง) ที่ทำความผิดเล็กน้อย และให้ผู้นั้นกินเนื้อของตนเองต่อหน้าพระพักตร์ บางคนต้องบริโภคมูลอุจจาระของตนเอง โดยตรัสอยู่เสมอว่า
"นี่แหละ เป็นวิธีที่จะใช้ปกครองพวกเจ้าชาวสยาม ทั้งนี้เพราะเจ้าเป็นคนมีนิสัยดื้อด้านอย่างน่าชิงชัง อยู่ในภาวะที่ฟอนเฟะเหลวแหลก ข้าจะลงโทษอย่างนี้ต่อพวกเจ้าจนกว่าข้าจะดัดให้เจ้าเป็นชนชาติที่ได้รับความ เคารพยกย่องนับถือ เจ้าเปรียบประดุจต้นหญ้าในท้องทุ่งอันอุดมสมบูรณ์ ยิ่งตัดให้มันสั้นเจ้าก็จะยิ่งขึ้นสวยงาม ข้าจะปรายทองคำไว้ตามท้องถนน ทิ้งไว้อย่างนั้นแหละ หลายๆเดือน ถ้าใครจ้องจะเอาทองด้วยความละโมบแล้ว จะต้องถูกประหาร"
บางครั้งในเวลาค่ำคืนยามวิกาล พระองค์จะเสด็จประทับเรือเล็ก พายขึ้นล่องไปตามลำแม่น้ำ นอกจากนี้ยังเสด็จไปกับพวกมหาดเล็กไม่กี่คนในยามวิกาลตามท้องถนน เพื่อฟังว่ามีข่าวเลื่องลืออะไรเกิดขึ้นบ้าง และจะได้ทรงทราบว่ามีอะไรดีหรือไม่ดีต่อพระองค์บ้าง พระองค์เป็นกษัตริย์แรกที่ให้ขุนนางคลานเข้าเฝ้าและให้หมอบก้มหน้าไว้ตลอดเวลา ธรรมเนียมการเข้าเฝ้านี้ยังคงถือปฏิบัติมาจนบัดนี้
อย่างไรก็ดีพระองค์ก็ไม่มีพระราชประสงค์ให้คนต่างถิ่นหรือชาวต่างประเทศต้องปฏิบัติดังนั้น ทรงโปรดชาวต่างประเทศ โดยเฉพาะชาวฮอลันดา พระองค์เป็นกษัตริย์สยามองค์แรกที่ส่งคณะทูตานุทูตและถวายพระราชสาส์นแด่เจ้าชายมอริส แห่งราชวงศ์ออเรนจ์ ณ ประเทศเนเธอร์แลนด์
ในเมื่อทรงโปรดให้คณะทูตต่างประเทศเข้าเฝ้า จะไม่มีพระราชประสงค์ให้คณะทูตต้องเปลี่ยนแปลงประเพณีประจำชาติของตน และหันมาปฏิบัติตามแบบอย่างสยาม โดยตรัสว่า
"พวกท่านเป็นผู้แทนที่บรรดาพระเชษฐาพระอนุชาของเราจัดส่งให้มา ดังนั้นเราจึงไม่ปราถนาให้ท่านต้องมาถวายพระเกียรติยศให้ยิ่งไปกว่านี้ หรือนบนอบยำเกรงเราให้มากเกินไปกว่าที่ท่านได้เคยถวายแก่พระเจ้าอยู่หัวของท่านเอง"
ทรงไต่ถามคณะราชทูตว่าพวกเขารู้ภาษาสยาม มอญ หรือพม่ากันหรือไม่ หากรู้ก็ให้กราบทูลกับพระองค์โดยตรง ถ้าพูดไม่ได้พระองค์จะให้ขุนนางสักคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามให้ เพื่อพระองค์จะทรงเจรจากับคณะราชทูต ได้ทรงขู่จะเอาโทษประหารแก่พวกล่ามหากบิดเบือนประโยคถ้อยคำ หรือไม่แปลให้ถูกต้อง ในยุคนี้พวกชาวต่างประเทศได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพยกย่อง มีพวกเจ้าหน้าที่นำของกำนัลมาให้พวกชาวต่างประเทศ เพื่อจะไม่ไปร้องฟ้องพวกเขาต่อพระเจ้าแผ่นดิน
พวกขุนนางอยู่กันด้วยความเกรงกลัวพระเจ้าอยู่หัวเป็นที่สุด เมื่อมีรับสั่งให้เข้าไปเฝ้าก็จะจัดบ้านช่องของตนให้เรียบร้อยเสียก่อน เหมือนกับว่าตนกำลังจะไปตาย เพราะพวกขุนนางมักจะกลัวกันจนสยองเกล้าว่าไปเฝ้าแล้วจะไม่ได้กลับบ้านอีก
นี่คือบางส่วนของเรื่องราวที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ในพงศาวดารของไทย และอาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม อยุธยาจึงฟื้นกลับมาโดยเร็วและยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งในประวัติศาสตร์ ...
ข้อมูล : กศน.บ้านแพรก โดยอจ.เลิศชาย ปานมุก

⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
มาเป็นคนแรกที่ VOTE ให้กระทู้นี้
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
รัก 1 ปีไปไม่รอด! คู่รักดังประกาศเลิก ทำแฟนๆ ใจหายนายแบบดังกัมพูชา ดราม่าอีกแล้ว!!!เตือนภัย! ภูเขาไฟฟูจิอาจปะทุครั้งใหญ่ ญี่ปุ่นอัปเดตแผนอพยพใหม่กะเทยร่วมกับผัวหนุ่ม ฆ่ๅน้อง ไกด์ น้องชายในไส้ตัวเอง แล้วเอาไปฝังดินนาน 3 เดือนเคล็ดลับความอร่อย! ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังที่ไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันมาตลอด 100 ปี?มีผลแล้ว! กฎหมายห้ามตีลูก"สามีผู้โชคดี! คลิปไวรัลภรรยาสาวสวยใจดี อบอุ่นจนชาวเน็ตอิจฉา"สุดแปลก! นี่คือคนที่ใช้ชีวิตแบบ "สุนัข"โหนกระแสเดือด! ทนายภูเก็ตถูกจวกยับ ปมอวดหล่อ คั่วหญิง 13 คนนอกจากไทย มีประเทศไหนบ้างที่นิยมกินหมูเหมือนบ้านเราลูกชาย 53 เสยหน้าแม่ 73 โมโหนึ่งข้าวเหนียวไม่ได้ดั่งใจ แม่ขอไม่เอาเรื่อง ยังรักลูกเหมือนเดิม ‎When Life Gives You Tangerines ซีรีส์สุดอบอุ่นที่คุณไม่ควรพลาดบน Netflix
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
นายแบบดังกัมพูชา ดราม่าอีกแล้ว!!!มดดำ คชาภา” เปิดพิกัด พร้อม เปิดภาพล่าสุด “ดิว อริสรา” ในรายการ “แฉ” ว่า “มีคนพบ ดิว และ สามี พักผ่อนอยู่ประเทศญี่ปุ่น ความสัมพันธ์ทั้งคู่ยังปกติมีผลแล้ว! กฎหมายห้ามตีลูกนอกจากไทย มีประเทศไหนบ้างที่นิยมกินหมูเหมือนบ้านเรา
4 ข้อสังเกตสุดแปลก ที่บอกได้ว่าคุณอาจเป็นคน "ฉลาด"สุดแปลก! นี่คือคนที่ใช้ชีวิตแบบ "สุนัข"เคล็ดลับความอร่อย! ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังที่ไม่เคยเปลี่ยนน้ำมันมาตลอด 100 ปี?ปลากระเบนพิษ! อสูรร้ายที่หลายคนมองข้าม
ตั้งกระทู้ใหม่
หน้าแรกเว็บบอร์ดหาเพื่อนChatหาเพื่อน Lineหาเพื่อน SkypePic PostตรวจหวยควิซคำนวณPageแชร์ลิ้ง
Postjung
เงื่อนไขการให้บริการ ติดต่อเว็บไซต์ แจ้งปัญหาการใช้งาน แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม ข่าวประชาสัมพันธ์ ลงโฆษณา
เว็บไซต์นี้ใช้ Cookie
เพื่อประสบการณ์ที่ดีและการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดูข้อมูลเพิ่มเติม อ่านนโยบายการใช้งาน
ตกลง