ตำนานไก่แปลกๆไก่หางยาว โอนากาโดริ ไก่หางยาวที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน เพราะมันมีอยู่จริง
เริ่มต้นมา ก็มีตำนานไก่แปลกๆหางยาว นะครับ โอนากาโดริ ไก่หางยาวที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน เพราะมันมีอยู่จริง
ที่คุณอาจจะเคยเห็นหรือไม่เคยเห็นมาก่อนแต่สำหรับวันนี้ผมจะเอามานำเสนอเป็นบทความที่แปล เรียบเรียงมานะครับ
ก็อย่างที่เคยบอกล่ะครับ อะไรที่ยาวเกินไป หรือว่ามันสั้นเกินไปมันก็เป็นผลเสีย ทั้งสิ้นโดยเฉพาะสัตว์ต่างๆนะครับเช่น มีขายาวเกิน หางยาวเกิน มันก็จะทำให้การดำเนินชีวิตของสัตว์ประเภทนั้น ลำบากยิ่งขึ้น
แต่เป็นที่น่าเสียดายปัจจุบัน ไก่โอนากาโดริถูกจัดให้อยู่ในประเภทสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดยเหลืออยู่ประมาณ 250 ตัว
มาเข้า รายละเอียดของ บทความกันเลยดีกว่านะครับ
โอนากาโดริ ไก่หางยาวที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำนาน เพราะมันมีอยู่จริง
ไก่ที่มีหางยาวราวกับนกฟินิกซ์ดูเหมือนจะเป็นตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาอย่างยาวนาน รูปร่างของมันถึงแม้จะดูไม่แตกต่างจากไก่ธรรมดาทั่วไป แต่หางของมันกลับยาวยิ่งกว่านกยูง ในขณะที่บางคนเห็นภาพไก่หางยาวเหล่านี้และคิดว่ามันเป็นภาพตัดต่อ แต่จริง ๆ แล้ว ไก่ที่หางยาวหลายเมตรนี้มีอยู่จริง
โอนากาโดริ หรือที่แปลว่า ‘ไก่ผู้มีเกียรติ’ ในภาษาญี่ปุ่น ถือเป็นไก่สายพันธุ์หายากที่ขึ้นชื่อเรื่องหางที่ยาวเป็นพิเศษ ซึ่งหางของไก่โอนากาโดริบางตัวอาจยาวได้ถึง 10 เมตร
จากไก่จำนวน 17 สายพันธุ์ที่ถือว่าเป็นสมบัติแห่งชาติของญี่ปุ่น โอนากาโดริคือไก่ขนิดเดียวที่ได้รับ ‘สถานะพิเศษ’
นับตั้งแต่โอนากาโดริได้รับสถานะพิเศษนี้ในปี 1952 ได้มีการห้ามส่งออกไก่และไข่ของโอนากาโดริออกนอกประเทศ ซึ่งเราแทบไม่เคยเห็นไก่ชนิดนี้นอกประเทศญี่ปุ่นเลย
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไก่ชนิดนี้หางยาวมาได้เรื่อย ๆ ก็เพราะพวกมันไม่ผลัดขนทิ้ง จึงทำให้มันมีหางยาวได้อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งหากพวกมันถูกเลี้ยงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีมาก หางของมันก็สามารถงอกยาวออกมาได้ตลอดชั่วชีวิตของมัน
ประวัติศาสตร์ของไก่หางยาวคือตำนานที่ถูกสืบทอดมาตั้งแต่หลายพันปีก่อน แต่เชื่อกันว่าสายพันธุ์โอนากาโดริถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ในเมืองโทสะ บนเกาะชิโกกุของญี่ปุ่น
ไม่มีใครทราบแน่นอนว่าหางยาวของมันมีต้นกำเนิดมาจากไหน แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันสืบเชื้อสายมาจากไก่สายพันธุ์หางยาวอื่น ๆ เช่น โชโกกุ, โทเทนโกะ และมิโนฮิกิ
สำหรับไก่โอนากาโดริที่มีหางยาวดูสง่างามนี้เป็นผลมาจากการกลายพันธุ์ของยีน ‘ไม่ผลัดขน’ ซึ่งช่วยให้ขนหางของพวกมันยังคงอยู่กับตัวตลอดเวลา รวมถึงยังมียีนอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ขนของมันเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ การไม่ผลัดขนหางของไก่โอนากาโดริจะเกิดขึ้นกับเฉพาะไก่ตัวผู้เท่านั้น และพวกมันจะผลัดขนส่วนอื่น ๆ บนร่างกายในทุก ๆ 3 ปี
นี่เป็นเหตุผลที่นักเพาะพันธุ์ชาวยุโรปไม่ชอบไก่สายพันธุ์นี้มาตั้งแต่แรก เพราะมันหมายความว่าไก่โอนากาโดริจะมีขนที่หลุดลุ่ยอยู่กับตัวเป็นเวลานาน แทนที่จะผลัดขนมันอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ไก่โอนากาโดริยังมีปัญหาเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศและถิ่นที่อยู่ของยุโรป ดังนั้นนักเพาะพันธุ์จึงนำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ของไก่โอนากาโดริไปผสมกับสายพันธุ์ในท้องถิ่นเพื่อรักษาพันธุกรรมบางอย่างของโอนากาโดริเอาไว้ ในขณะที่ไก่สายพันธุ์ผสมก็สามารถปรับตัวกับสภาพแวดล้อมในยุโรปได้ง่ายขึ้น
ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือไก่เยอรมันฟินิกซ์ที่ดูคล้ายกับโอนากาโดริมาก แต่ผลัดขนบ่อยกว่า
ในขณะที่ไก่โอนากาโดริสายพันธุ์แท้จะต้องมีหางยาวอย่างน้อย 1.5 เมตร หากมันถูกเลี้ยงดูภายใต้สภาวะที่เหมาะสม หางของมันจะเติบโตได้ถึง 90 ซม.ต่อปี ดังนั้นการที่ไก่โอนากาโดริจะมีหางยาวหลายเมตรถือเป็นเรื่องปกติ โดยสถิติของไก่ที่หางยาวที่สุดอยู่ที่ 11.3 เมตร
นอกจากความยาวของหางแล้ว ไก่โอนากาโดริจะมีราคาสูงไปตามจำนวน ‘คาวาริ-ฮอนเก’ หรือ ‘ขนชนิดพิเศษ’ ที่หางของมัน ซึ่งจำนวนขนจะอยู่ระหว่าง 1-4 อันบริเวณหาง หากไก่ตัวไหนที่มีขนพิเศษนี้ 4 อัน แสดงว่ามันจะกลายเป็นที่ต้องการของนักเพาะพันธุ์และมีราคาสูงอย่างมาก
ปัจจุบัน ไก่โอนากาโดริถูกจัดให้อยู่ในประเภทสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ โดยเหลืออยู่ประมาณ 250 ตัว หนึ่งในเหตุผลที่มันใกล้สูญพันธุ์ก็คือ ไก่โอนากาโดริจะวางไข่ประมาณ 25 ฟองต่อปีเท่านั้น
ที่มา: odditycentral/animals, YouTube