ทะเลสาบดวงตามังกร คากามิ นูมะ และ เบื้องหลังตำนานความรักของมังกรหนุ่มที่สุดเศร้าเคล้าน้ำตาโรแมนติกสุดๆ
ทะเลสาบดวงตามังกร คากามิ นูมะ กับเบื้องหลังตำนานความรักของมังกรหนุ่มที่น่าเศร้าเคล้าน้ำตาโรแมนติกสุดๆ
ก็คือตำนานนะครับคนโบร่ำโบราณเขาก็เห็นอะไร..เขาก็จินตนาการแต่งเป็นเรื่องเป็นราวกันไป
แต่จริงๆแล้วมันก็คือปรากฏการณ์ธรรมชาติชนิดหนึ่งนั่นเอง
น่ามหัศจรรย์มากๆเลยนะครับสำหรับธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งสวยงามให้กับโลก...ส่วนตำนานความเชื่อเราก็ฟังเอาไว้มันเป็นอะไรที่เหมือนกับนิยายปรำปราแต่ก็คลาสสิคดีนะครับ
คากามิ นูมะ ทะเลสาบในตำนานของญี่ปุ่นที่จะกลายเป็นดวงตาขนาดยักษ์ในทุก ๆ ฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งจะเกิดในช่วงที่หิมะกำลังละลายเท่านั้น และนั่นจึงทำให้มันมีชื่อว่า “ทะเลสาบดวงตามังกร” (Dragon’s Eye Lake)
คากามิ นูมะ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าทึบใกล้กับยอดเขาฮะจิมันไต ทางตะวันออกเฉียงนอกของญี่ปุ่น โดยปกติแล้วมันดูไม่แตกต่างจากทะเลสาบอื่น ๆ
แต่แค่ช่วงเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมจนถึงต้นมิถุนายน ทะเลสาบแห่งนี้จะกลายเป็นดวงตาสีฟ้าขนาดยักษ์ที่ดูคล้ายกับดวงตากลมโต
ด้วยรูปลักษณ์ของมันที่ปรากฎขึ้นจึงทำให้มันถูกเรียกอีกชื่อว่า ทะเลสาบดวงตามังกร ซึ่งเป็นผลมาจากการที่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันได้เดินทางมาที่นี่ในปี 2016 และถ่ายภาพมันลงบนโซเชียลมีเดีย จนกระทั่งมันกลายเป็นกระแสและถูกตั้งฉายานี้ในที่สุด
ซึ่งนั่นสอดคล้องกับตำนานท้องถิ่นที่บอกเล่าสืบต่อกันมาว่า พื้นที่แห่งนี้เคยมีมังกรอาศัยอยู่มานานแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องราวของมังกรที่มีชื่อว่า “ฮาจิโระทาโร่”
ฮาจิโระทาโร่ เคยเป็นเด็กหนุ่มที่กลายเป็น “มังกร” หลังจากที่เขาดื่มน้ำจากบ่อน้ำลึกลับในเทือกเขาบริเวณนี้ จนกระทั่งเขาตกหลุมรักกับมังกรสาวตัวหนึ่ง เธอเคยเป็นหญิงสาวที่ตกอยู่ในชะตากรรมเดียวกัน และทั้งคู่ก็ถูกเนรเทศออกจากหมู่บ้านไปยังทะเลสาบที่อยู่กันคนละฟากของภูเขาฮะจิมันไต
ในแต่ละปี ฮาจิโระทาโร่ จะบินจากทะเลสาบโตวาดะข้ามไปหาคนรักของเขายังทะเลสาบฮาจิโระ-กาตะ และผู้คนก็เชื่อกันว่า ความรักของทั้งสองจะช่วยปกป้องทะเลสาบในบริเวณนี้ไม่ให้กลายเป็นน้ำแข็ง
นอกจากความเชื่อในเรื่องตำนานที่ทำให้ทะเลสาบนี้เป็นที่น่าสนใจแล้ว ในทางวิทยาศาสตร์เองก็มีคำอธิบายถึงปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นกัน เริ่มจากในช่วงฤดูหนาว หิมะจะเริ่มตกลงมาทับถมบนทะเลสาบที่กลายเป็นน้ำแข็ง จนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิมาถึงหิมะก็เริ่มละลายอย่างช้า ๆ จนไปถึงช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิ
จากนั้นแรงดันจากความลึกของทะเลสาบทำให้หิมะมารวมกันบริเวณตรงกลาง เมื่อแสงแดดส่องลงมาจึงทำให้มันเกิดเป็นรูม่านตา และกลายเป็นวงแหวนตามธรรมชาติโดยมีน้ำในทะเลสาบสีฟ้าล้อมรอบ เมื่อคุณมองจากด้านบนก็จะเห็นเป็นดวงตาขนาดยักษ์ที่สวยสดงดงามไม่เหมือนกับทะเลสาบไหน ๆ บนโลกใบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น หากในช่วงเวลาดังกล่าวมีลมกรรโชกแรง ก้อนน้ำแข็งที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะบริเวณตรงกลางก็จะหมุนไปมาให้ความรู้สึกเหมือนกับรูม่านตาที่กำลังเคลื่อนไหว มันเป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจและหาชมได้ยาก จึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั่วญี่ปุ่น หรือแม้แต่ในต่างประเทศเองต่างแห่กันไปที่ภูเขาฮะจิมันไตในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิเพื่อที่จะได้เห็นมันกับตาตัวเองสักครั้งในชีวิต
แต่ว่าปรากฎการณ์ที่น่าทึ่งแบบนี้ไม่ได้มีให้คุณชมได้ทุกปี เพราะในบางปีมังกรก็ไม่ได้ลืมตากลมโตแบบนี้ หรือบางครั้งหิมะตรงกลางก็ถล่มลงมาทันทีที่วงแหวนเกิดขึ้น ซึ่งคุณต้องเป็นคนที่โชคดีมาก ๆ ถึงจะได้เห็นมันกับตาตัวเอง
ส่วนชาวบ้านเองก็จะมีการอธิษฐานต่อเทพมังกรเพื่อขอให้ท้องฟ้าแจ่มใส บางครั้งพวกเขาก็จะมีเครื่องเซ่นอย่างเช่นไข่และแตงกวามาให้เพื่อเป็นของกำนัลอีกด้วย
ที่มา: odditycentral/travel, YouTube