อ.เจษฏา โพสแจง "ต้นพญาเสือโคร่งทิเบต ที่เชื่อกันว่า ออกดอกทุก 4 ร้อยปี"
ทางเพจเฟสบุ๊ค ของ อ.เจษฏา ได้ออกมาโพสแจงเกี่ยวกับต้นพญาเสือโคร่งที่เป็นกระแสข่าว ว่าออกดอกทุก400ปี ทางอ.เจษฏาได้ออกมาโพสว่าดังนี้..
"ต้นไม้นี้ ไม่ใช่ต้นพญาเสือโคร่งทิเบต ออกดอกทุก 4 ร้อยปี ครับ"
มีการแชร์คลิปวิดีโอที่สวยงามของช่อดอกไม้ดอกนี้ ซึ่งเหมือนเป็นภาพเร่งความเร็วภาพ จากดอกตูมทั้งช่อ แล้วบานไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนบานครบทั้งช่อ พร้อมกับแคปชั่นว่า "ดอกพญาเสือโคร่ง หรือ "มหาโมลี" ดอกไม้มงคลเฉพาะของทิเบต ดอกพญาเสือโคร่งบนเทือกเขาหิมาลัยจะบานทุกๆ 400 ปี คนรุ่นเราโชคดีได้เห็นเจดีย์บาน โชคดีตลอดชีวิต!" !?
ซึ่งไม่ใช่นะครับ ! ช่อดอกไม้ที่เห็นในคลิปนี้ น่าจะเป็นพืชสกุล Eremurus (อ่าน เอรีมัวรัส) มีชื่อสามัญคือ foxtail lilies (ลิลลี่หางจิ้งจอก) หรือ desert candles (เทียนทะเลทราย) ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบในวงศ์ Asphodelaceae และมีถิ่นกำเนิดในแถบยุโรปตะวันออก และแถบเอเชีย ที่มีอุณหภูมิปานกลางตั้งแต่ตุรกีไปจนถึงจีน ....
ต้น Eremurus นั้น มีรากใต้ดินที่มีรูปร่างคล้ายปลาดาว ซึ่งจะจำศีลระหว่างฤดูหนาว และจะแทงช่อดอกขึ้นมาเมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิครับ จึงออกดอกอยู่เรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าต้องรอไป 400 ปีถึงจะออกดอกที !
สำหรับต้น Eremurus ที่แชร์กันในคลิปนั้น ไม่ทราบว่าเป็นสปีชีส์อะไร (ถ้ามีผู้เชี่ยวชาญเรื่องต้นไม้นี้ ช่วยบอกด้วยครับ) แต่ถ้าบอกว่าเป็นต้นที่พบที่ทิเบต ก็จะมีสปีชีส์ Eremurus chinensis ที่พบที่ประเทศทิเบต และมณฑลกานซู , เสฉวน, และยูนนาน ของประเทศจีน ขณะที่ถ้าบอกว่าพบที่เทือกเขาหิมาลัย ก็จะมีสปีชีส์ Eremurus himalaicus ซึ่งพบบนเทือกเขาหิมาลัยในแนวประเทศอัฟกานิสถาน ปากีสถาน และแคว้นแคชเมียร์ ของประเทศอินเดีย Afghanistan + Pakistan + Kashmir (ข้อมูลจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Eremurus)
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องต้น Eremurus ด้านล่างครับ
รูปประกอบ ต้น Eremurus chinensis จาก http://www.efloras.org/object_page.aspx?object_id=89479&flora_id=800
----------------------
(บทความ .. เหมือนเค้าจะแปลด้วยกูเกิ้ลมา อ่านแล้วจะงงบ้าง) "การปลูกและดูแลเอเรมูรัสในทุ่งโล่ง"
Eremurus เป็นพืชที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ การปลูกและการดูแล ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบางประการ เป็นไม้ยืนต้น และมีระยะเวลาการเติบโตที่ยาวนาน อย่างไรก็ตาม ชาวสวนมักใช้ในการตกแต่งแปลง
ลักษณะเด่นของพืชคือรูปร่างของราก ซึ่งภายนอกคล้ายปลาดาว ใบเป็นรูปขอบขนานยาว ดอกไม้รูประฆัง ดอกจะถูกเก็บรวบรวมไว้ในช่อดอก พืชยืนต้น ความแข็งแกร่งในฤดูหนาวสูง เมื่อความหนาวเย็นเข้ามา รากจะเกิดดอกตูมที่หลบหนาว ซึ่งยอดจะปรากฏขึ้นหลังจากให้ความร้อนแก่ดินในฤดูใบไม้ผลิ พืชสามารถเติบโตได้สูงถึง 2 เมตรขึ้นอยู่กับความหลากหลาย
ดอกเป็นเกลียว ดอกไม้เปิดออกเริ่มจากรากและค่อยๆเลื่อนขึ้น ระยะเวลา 30-40 วันขึ้นอยู่กับความหลากหลาย หลังจากออกดอก ผลจะมีเมล็ด ช่อดอกอาจมีสีต่างกัน แต่ที่พบมากที่สุดคือเฉดสีเหลือง สีน้ำตาล สีแดง และสีชมพู