ชาแชม โดนจอร์นวิชยิงตายคาโรง!
ชาแชม หนุ่มหน้ามนนามว่าบิลลี่ ที่ได้พลังแห่งแชมเปี้ยนนามว่า ชาแชมมาครอบครองในภาคที่ 1 บอกเลยว่า ในภาคที่ 1 นั้น ผมถือว่าเป็นศักราชใหม่ของภาพยนตร์ DC เลยก็ว่าได้ เนื่องด้วยหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา มันค่อนข้างอึมครึม หลงทิศหลงทาง และพยายามจะเร่งสปีดตามให้ทันในค่าย มาเวล กันอย่างเละเทะ ทำออกมาดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่สำหรับชาแชมในภาค 1 มันกับเป็นอะไรที่เปิดมุมมองใหม่ๆ ของ DC กันได้อย่างมากเลยทีเดียว ทั้งมุขตลก ทั้งการต่อสู้ เนื้อหา เป็นอะไรที่ค่อนข้างเรียกกระแสได้ดีทีเดียว
แต่วันนี้เมื่อภาค 2 ออกฉาย และผมก็พึ่งไปดูมา บอกได้เลยว่า ผมเองก็แบกความคาดหวังของชาแชมไว้บนหลังกันแบบเต็มที่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผมจะต้องเลือกเข้ารับชมระหว่าง จอนร์วิช 4 และ ชาแซม 2 ด้วยกระแสของจอร์นวิชมาแรงมากครับ และรู้สึกว่าหลายๆ สื่อต่างปรบมือ การแสดงอันเยี่ยมยอดของ คีอานู รีส กับจอร์นวิชกันแบบทั่วโลก ผมเลยคิดว่า ชาแชม น่าจะเป็นภาพยนตร์ฮีโร่มาเบรคจอร์นวิช 4 ได้อย่างแน่นอน เลยตัดสินใจเข้ารับชมชาแซมทันที
เอาละครับ ผมพูดมาถึงตอนนี้ ต่อจากนี้คือเนื้อหาที่บอกได้เลยว่า จะเป็นเนื้อหาในความสำคัญที่มีสปอย และเชื่อผมเถอะครับ รับฟังให้จบ เพื่อคุณ..จะได้ไม่รู้สึกบางอย่าง เหมือนผม... เรียกได้ว่า ไม่คาดหวังมาก เราก็จะไม่ผิดหวังครับ ซึ่งผมบอกได้เลยว่า ผม...ผิดหวังครับ
ชาแชม 2 จุดเดือดเทพเจ้า แค่ชื่อเรื่อง และตัวอย่าง ก็คิดว่าคงจะเดือดน่าดู แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราสมหวังมากเท่าไหร่นัก... โดยในตอนท้ายของชาแชมภาค 1 เราจะเห็นว่า บรรดาพี่น้องในบ้านของบิลลี่ ต่างได้รับพลังวิเศษของชาแซมร่วมกัน ทำให้แต่ละคน มีพลังที่แตกต่างกันออกไปตามชื่อของชาแชม พี่น้องบางคน มีพลังกายที่พิเศษ บางคนเหาะได้ บางคนมีพลังความเร็ว บางคนมีความฉลาด บางคนปล่อยพลังได้ เรียกได้ว่าเป็นการหารพลังกระจายกันไปอย่างเท่าเทียมนั้นเอง
แต่กับชาแชม 2 นั้น ทุกคนกลับเหาะได้ครับ แถมมีพลังความเร็ว และกำลังที่มหาศาลไม่ต่างกันมาก หากใครไม่ได้รับชมชาแชม 1 มา ก็คงมองว่าหนังฮีโร่ก็คงแบบนี้ แต่สำหรับผมมันคือไม่ครับ... การที่มีพลังแตกต่างกัน เวลามีภารกิจ แต่ละคนก็จะหยิบเอาจุดเด่นมาโชว์ได้ แต่นี่กลับเหาะได้เหมือนกัน มีพลังเหมือนๆ กัน ผมก็เลยเริ่มสับสนว่า พลังพี่น้องของแต่ละคนที่ได้รับมา มันคือการมากองรวมกันอีกครั้ง แล้วหารพลังแบ่งออกเป็น 6 เท่าๆ กันแบบนั้นเหรอ ... เรียกได้ว่า สับสนตั้งแต่ต้นเรื่องกันเลยทีเดียวครับ
ต่อมา เนื้อหาเมนหลักของเรื่อง เป็นเรื่องบุตรสาวทั้ง 3 ของแอตลาส อย่างเฮสเพอรา คาลิปโซ และแอนเธีย เคยถูกคุมขังในในดินแดนแอตลาส จากฤทธิ์ของพ่อมด ที่ได้ดึงพลังของเทพทั้ง 6 มาไว้ที่ไม้เท้าและหลบหนีไป ทำให้บุตรสาวทั้ง 3 เกิดความแค้นที่อยากจะกอบกู้ดินแดนของตนเอง แต่ก็ไม่สามารถหลุดออกมาจากโดมเวทมนต์ได้
และในชาแชมภาคที่ 1 เราได้เห็นว่า เมื่อบิลลี่แบ่งพลังให้น้องๆ เรียบร้อย ชาแชมเลยทำการหักไม้เท้าทิ้ง และก็ทิ้งไว้ที่นั้นจริงๆ การที่ไม้เท้าวิเศษของพ่อมดหัก ทำให้โดมเวทที่กุมขังของบุตรสาวทั้ง 3 ของแอตลาสได้พังทลายลง นางทั้ง 3 จึงได้เวลาทวงความแค้นด้วยการออกไล่ล่าเอาพลังของพี่น้องทั้ง 6 จากไม้เท้าคืน และผลไม้แอปเปิ้ลทองคำ ที่เป็นเมล็ดพันธุ์พืช ที่จะกอบกู้แผนดินตัวเองอีกครั้ง
โดยที่ความอีหยังวะก็เกิดขึ้น เมื่อเหล่าพี่น้อง ได้ไปเก็บไม้เท้ามาได้ แถมให้พ่อมดใช้คาถาชาแซม เรียกคืนให้ไม้เท้าที่หักมีสภาพกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง การดูดพลังคืนของแชมเปี้ยนสู่ไม้เท้าก็ได้เริ่มขึ้น ณ จุดนี้นั่นเองครับ
โดยที่ความงงงวย มันเกิดขึ้น เมื่อเหล่าพี่น้อง เริ่มดูดพลังแชมเปี้ยนคืน จากเหล่าพี่น้องของชาแชม ทำให้คนที่ดูดพลังไปนั้น กลายเป็นเด็ก หรือคนปกติ ไม่มีพลังพิเศษใดๆ อีกแล้ว ซึ่งจากเดิมที่เข้าใจ พลังของชาแชม มาจากเทพทั้ง 6 คือ Solomon, Hercules, Atlas, Zues, Achilles และ Mercury
S - Solomon เจ้าแห่งปัญญา
H - Hercules เจ้าแห่งพละกำลัง
A - Atlas เจ้าแห่งความอดทน
Z - Zeus เจ้าแห่งอำนาจ
A - Achiles เจ้าแห่งความกล้าหาญ
M - Mercury เจ้าแห่งความเร็ว
แต่เมื่อเหล่า 3 พี่น้องของแอตลาส เริ่มดูดพลังคืนกลับไปได้จาก 1 เป็น 2 เป็น 3 จนถึง 5 นั้นก็ควรจะเป็นไปได้ว่า ชาแชมในร่างของบิลลี่ ควรจะมีพลังแชมเปี้ยนเหลือเพียงแค่ 1 ส่วนจาก 6 ส่วนเท่านั้น แต่กลับต่อกรกับ 3 พี่น้องของแอตลาสได้เฉย ในเมื่อก่อนหน้า สู้ร่วมกับพี่น้อง กลับทำอะไรแทบไม่ได้เลย ฟังดูงงไหมครับ
ซึ่งประเด็นที่สำคัญของ 3 พี่น้อง คนนึง ต้องการสันติอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ อีกคน กลับต้องการฟื้นฟูอณาจักรของแอตลาสขึ้นมาอีกครั้ง ส่วนอีกคน กลับมีความแค้นต่อมนุษย์...เดี๋ยว.. ไปแค้นมนุษย์ตอนไหนครับ ?? พ่อมดเขาได้เอาพลังของเหล่าพี่น้องมาใส่ไม้เท้า แล้วก็กักขังพวกสูไว้ในดินแดนในโดมเวทมนต์ แต่พอออกมาได้ ข้านี่แค้นมนุษย์ยิ่งนัก จะให้มันรู้ว่ามันจะต้องเจออะไรบ้าง..
ว่าแล้วก็เอาเมล็ดพันธ์พื้นจิ้มโบ๊ะลงกับพื้นดิน เพื่อให้ต้นไม้ มันเติบโตที่โลก โดยทั้ง 3 ก็รู้กันอยู่แล้วนะว่า พันธุ์พืชนี้ ปลูกได้แค่บนแอตลาสเท่านั้น แต่ถ้าปลูกบนพื้นโลก มันจะเรียกปีศาจขึ้นมาแทน และต้นไม้จะอยู่ได้ไม่นาน แต่ก็ยังดันทุลังจะปลูกที่โลก เพื่ออยากแก้แค้นกับมนุษย์เพียงเท่านั้น
เอาละครับ โดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ บอกได้เลยว่า มันค่อนข้างอ่อนมาก กลายเป็นหนังฮีโร่เด็ก ที่ขาดเสน่ห์แบบชาแซม 1 ไปซะหมด หากใครไม่เคยดูภาค 1 กลัวจะดูภาค 2 ไม่เข้าใจ.. บอกได้เลยนะครับว่า เข้าโรงช้าไป 30 นาที ยังดูเข้าใจเลยครับ เพราะหนัง มันก็มีประเด็นแค่อยากกู้คืนอนาจักร แต่กลับแค้นมนุษย์ก็แค่นั้น
ส่วนเหล่ากองทัพปีศาจที่ถูกปลุกขึ้นมาไม่ว่าจะเป็น ฮาบี้ ไซครอป แต่ละตัวดูดุร้ายและโหดมากเลยทีเดียวครับ ซึ่งผมก็คิดว่า กองทัพปีศาจเต็มเมืองขนาดนี้ จะไปสู้ยังไง..."สิ่งเดียวที่รับมือได้ คือยูนิคอน์ มันคือสัตว์ทีน่ากลัวที่สุด ดุร้ายที่สุด มันไม่ได้น่ารักอย่างที่พวกเจ้ารู้จัก... มันจะกินแค่ผลไม้หรือของหวานทิพเท่านั้น"... ฟังดูแล้ว โอ้โห จะไปเอายูนิคอร์นมาเป็นพวกได้อย่างไรวะ ในเมื่้อมันเก่งระดับที่จะมาไล่ต้อนเหล่าปีศาจได้ แต่มันก็กลับดุร้ายจนแทบไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่ง แต่น้องสาวคนเล็กของชาแซม กลับไปกำราบยูนิคอร์น ด้วยลูกอมขนมหวานซะอย่างนั้น อะไรกันวะ
อีกสิ่งที่ไม่เข้าใจ เมื่อรู้ว่า ไม้เท้าวิเศษ สามารถดูดพลังไฟฟ้าได้.. ชาแชมเลยมองเห็นว่า ถ้าปล่อยไฟฟ้าออกจากมือ ไปโดนโดมเวทมนต์ มันจะเด้งไปเด้งมา ดังนั้น จึงคิดแผนบ้องตื้นได้ ด้วยการปล่อยไฟฟ้าไปถี่ๆ รอบๆ ตัว เพื่อให้เด้งไปเด้งมาในโดมเวทมนต์ ก่อนที่จะเอาไม้เท้ามาดูดพลังสายฟ้า มากักเก็บคล้ายแบตเตอรี่ ก่อนจะปล่อยออมาในตอนสุดท้าย... ที่ผมบอกว่าบ้องตื้นก็คือ.. ทำไมต้องปล่อยกระแสไฟฟ้าออกไปจากตัว เพื่อให้มันเด้งไปเด้งมา แล้วค่อยเอาไม้เท้ามาดูดพลังด้วย... ไม้เท้าอยู่มือขวา มือปล่อยกระแสไฟฟ้าอยู่มือซ้าย ก็ทำไมไม่ปล่อยกระแสไฟฟ้าไปที่ไม้เท้าตรงๆ เลยล่ะ... จริงไหมครับ ผมก็งงๆ ว่ามึงจะปล่อยไฟฟ้าออกไปรอบๆ ตัว เพื่อมาตามไล่เก็บชาร์ตพลังอีกทีเพื่ออะไร
สิ่งที่มีเซอร์ไพร์เล็กๆ ตอนที่บิลลี่ได้ตายในร่างของชาแซม ซึ่งผมก็มองว่า คงไม่ตายจริงมั้ง.. ตายจริงสิ.. จนมาเห็นการฝังร่างของบิลลี่..เฮ้ยมันตายจริงวะ... และ 3 พี่น้องแอตลาส ก็ตายกันไป 2 เหลือแค่แอนเธียร์ ก็เลยถามว่าแอนเธียร์จะทำอย่างไรต่อกับที่นี่ แอนเธียร์ก็บอกว่า คงทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเทพได้ตายหมดแล้ว...
"ยัง..ยังเหลืออีกคน" จู่ๆ วันเดอร์วูเม่นก็โผล่มาเฉย กับเพลงที่คุ้นเคย นางก็ใช้พลังจากไม้เท้า ด้วยการที่นางเป็นลูกสาวของเทพแอตลาสด้วยอีกคน มาทำการฟื้นฟูอาณาจักร ด้วยเวทมนต์ของไม้เท้า จนทำให้แอดลาสกลับมาสวยงามอีกครั้ง และบิลลี่หรือ ชาแชม ก็ฟื้นจากการตายด้วยเช่นกัน.. กุกะแล้ว ว่ามันไม่ได้ตายจริง
ซึ่งโดยรวมอย่างที่บอกครับ มีอีกหลายประเด็นที่ดูแล้วรู้สึกเสียดาย ที่หนังฮีโร่ชาแชมในภาค 1 ทำไว้ดีมากในภาค 2 กลับเละอย่าเหลือเชื่อ ผมออกมาจากโรงภาพยนตร์ สิ่งแรกที่ผมคิดในหัวคือ... ทำไมกูไม่ดูจอร์นวิชวะ ก็นั้นแหละครับ หวังมาก ความผิดหวังมันก็เยอะพอควร
สำหรับคะแนนเรื่องนี้ ผมให้ 4 เต็ม 10 ผมมองว่าเรื่องนี้ ควรจะจัดไปอยู่กับโทนเดียวของธอร์ 4 มากๆ ซึ่ง ธอร์ 4 เป็นหนังที่สนุกมากๆ นะครับ เนื้อหาดี ตัวร้ายก็มีปมให้น่าเห็นใจ... แต่มาพลาดตรงที่เอาเด็กๆ มาเป็นกองทัพท้ายๆ เรื่อง ที่ผมแบบ..แบบนี้ก็ได้เหรอวะ จนแม้แต่นักแสดงยังบอกว่า เขาเองก็รับไม่ได้กับบทนี้ มันกลายเป็นหนังตลกมากจนเกินไป ขาดความน่าเชื่อถือไปเยอะ... นั้นแหละครับ ชาแชมก็มาอยู่ในกลุ่มนี้ด้วยไม่ต่างกัน
เอาละครับ ขอจบแค่นี้ดีกว่า จริงๆ มีอีกเยอะกับเรื่องนี้ เยอะจนผมรู้สึกพลาดมากๆ และยอมรับนะครับว่า ผมแอบหลับด้วย ผมดูๆ อยู่ จำไม่ได้ว่าหลับตอนไหน มาตื่นอีกที ตอนที่ชาแชม กับ เอสเพอร่า คุณป้าจอมเวทมานั่งกินเบอร์เกอร์เฟรนฟรายด์ เพื่อมาต่อรองกับชาแซมกัน.. แบบตื่นมาเจอฉากนี้พอดี..อะไรวะ.. สวัสดีครับ