รู้หรือไม่! ทำนาปรัง-นาปี แบบไหนได้ผลผลิตและสร้างรายได้มากกว่ากัน
รู้หรือไม่! ทำนาปรัง-นาปี แบบไหนได้ผลผลิตและสร้างรายได้มากกว่ากัน
ทุกคนทราบไหมคะว่าการทำนานั้นมีทั้งนาปรัง และนาปี ซึ่งแต่ละพื้นที่นั้นนิยมทำนาแต่ละช่วงต่างกัน แล้วทุกคนทรายไหมคะว่าแบบไหนที่จะให้ผลผลิตเราได้มากกว่า ถ้าอยากรู้แล้ว ไปดูกันค่ะ
นาปี
คำว่า “นาปี” นั้นหมายถึง ข้าวที่ปลูกตามฤดูกาล นิยมปลูกในช่วงฤดูฝน มักจะต้องใช้เวลาในการเตรียมดิน การหว่าน การทิ้งระยะในการเพาะปลูกหลายวัน ให้ผลผลิตเพียงปีละ 1 ครั้ง มักออกผลในช่วงเดือนตุลาคม – เดือนพฤศจิกายนของทุกปี
ข้าวที่ปลูกเป็นนาปี ได้แก่ ข้าวหอมมะลิ นั่นเอง
ข้าวหอมมะลิ เป็นข้าวที่สายพันธุ์โดดเด่นเรื่องความหอมเป็นเอกลักษณ์ และความนุ่มเมื่อหุงเสร็จ นอกจากนี้ยังเป็นข้าวที่มีราคาสูง เป็นที่ต้องการของตลาด
นาปรัง
คำว่า “นาปรัง” หมายถึงข้าวที่ปลูกนอกฤดูกาล คือไม่ได่รอช่วงหน้าฝนแบบปกติ ส่วนใหญ่เป็นข้าวที่มีระยเวลาออกผลผลิตที่สั้น สามารถคำนวณได้แน่นอนว่าออกผลช่วงไหน ไม่ใช่ข้าวสายพันธุ์ที่ต้องใช้น้ำมาก/นาน แค่มีน้ำและแสงแดดเพียงพอก็สามารถออกรวงได้
ข้าวที่ทำเป็นนาปรัง เช่น ข้าวกข43 ข้าวเหนียวสันป่าตอง ข้าวหอมปทุม
อย่างข้าวกข43 นั้นออกได้ทุกฤดู ในปีหนึ่งอาจทำนาข้าวกข43 ได้ 2-4 ครั้ง แล้วแต่ความเหมาะสมและโอกาส แต่ข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองอาจจะน้อยหน่อย อย่างในภาคเหนือออกได้ปีละ 2 ครั้ง แต่ท้องที่อื่นๆ อาจะมาก-น้อยต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม ณ ช่วงเวลานั้นๆ
ข้าวนาปี-นาปรัง ต่างกันอย่างไร
สำหรับคนที่เคยไปเลือกซื้อข้าวสารตามร้านต่างๆ ที่ไม่ใช่ห้างสรรพสินค้า อาจจะเคยเจอพ่อค้าหรือแม่ค้าบอกว่าข้าวนี้เป็นข้าวใหม่ ข้าวนี้เป็นข้าวเก่าอยู่บ้าง ซึ่งข้าวเก่าหรือข้าวใหม่นี้ก็อยู่ที่สายพันธุ์ และอายุการเก็บเกี่ยวของข้าวนั่นเอง
เพราะว่าข้าวแต่ละสายพันธุ์นั้นมีระยะการเก็บเกี่ยวผลผลิตสั้น-ยาวไม่เท่ากัน ซึ่งก็แยกกันหลักๆ ด้วยคำเรียกอย่าง “นาปี” และ “นาปรัง” นั่นเอง