ทำนาทำนานแค่ไหนถึงจะรวย วิถีชาวนาไทยที่ทำเท่าไหร่ก็ไม่รวยสักที
สำหรับอาชีพเกษตรกรชาวนา ถือเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อประเทศไทยเราเป็นอย่างมาก คนไทยถือว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของประเทศเลยก็ว่าได้ ที่ต้องให้ความสำคัญมากที่สุดและจะลืมอาชีพนี้ไม่ได้ โดยก็มีการสนับสนุนให้เกษตรกรชาวนาจากหลายๆช่องทางจากทางภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ก็ยังไม่เพียงพอและบางส่วนก็ยังเข้าไม่ถึงชาวนาอย่างแท้จริง เช่นเงินอุดหนุนชาวนาต่างๆ แล้วทำไมชาวนาไทยถึงยังจนอยู่เหมือนเดิม
จากข้อมูลทำไมชาวนาไทยส่วนใหญ่ถึง “จน” ปัจจุบันมีเกษตรกรทั้งหมดประมาณเกือบ 7 ล้านครัวเรือนประกอบด้วย ชาวนา 3.7 ล้านครัวเรือน ชาวสวนยาง 1.6 ล้านครัวเรือน ชาวไร่มันสำปะหลัง 0.5 ล้านครัวเรือน ชาวไร่ข้าวโพด 0.4 ล้านครัวเรือน ชาวไร่อ้อย 0.3 ล้านครัวเรือน ชาวสวนปาล์มน้ำมัน 0.1 ล้านครัวเรือน ที่เหลือเป็นชาวสวน คิดเป็นประชากรที่ทำเกษตรกรรมทั้งหมดประมาณ 28 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 43 ของประชากรทั้งประเทศ และการที่ชาวนาส่วนใหญ่ยากจนมาจาก 3 สาเหตุใหญ่ๆ ดังนี้
1.ผลผลิตต่อไร่ต่ำ ประเทศไทยมีที่นาทั้งหมดประมาณ 71 ล้านไร่ เป็นที่นาลุ่มประมาณ 44 ล้านไร่ เป็นที่นาดอน ประมาณ 27 ล้านไร่ ผลิตข้าวได้ทั้งนาปีและนาปรังประมาณ 38 ล้านเกวียน ผลิตข้าวได้เฉลี่ยทั้ง 71 ล้านไร่ เฉลี่ยไร่ละ 450 กิโลกรัม ในขณะที่เวียดนามผลิตข้าวได้เฉลี่ยไร่ละ 900 กิโลกรัม อินโดนีเซียผลิตข้าวได้เฉลี่ยไร่ละ 700 กิโลกรัมเศษ ส่วนฟิลิปปินส์ผลิตได้เฉลี่ยไร่ละ 600 กิโลกรัมเศษ ของไทยผลิตได้เฉลี่ยใกล้เคียงกับพม่าและเขมร
2.ต้นทุนการผลิตสูง ปัจจุบันชาวนาไทยมีค่าใช้จ่ายในการทำนาสูงมาก ได้แก่ ค่าเช่านา (บางส่วนยังต้องเช่านาทำ) ค่าไถที่นาและเตรียมดินสำหรับปลูกข้าว ค่าจ้างดำนาหรือหว่านข้าว ค่าปุ๋ยและค่าจ้างใส่ปุ๋ย ค่ากำจัดวัชพืชและแมลงศัตรูข้าว ค่าสูบน้ำเข้านา ค่าเก็บเกี่ยวข้าวและค่านวดข้าว รวมทั้งค่าขนส่งข้าวไปขาย ในกรณีที่ต้องจ้างทั้งหมดจะยิ่งทำให้ต้นทุนสูงมาก
3.ขายข้าวได้ราคาต่ำกว่าต้นทุน ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของชาวนาสูงมากแต่ราคาขายที่ขายตามราคาตลาดโลกหักด้วยกำไรของพ่อค้าคนกลางและค่าใช้จ่ายในการซื้อขายของพ่อค้าคนกลางทั้งหมด ราคาที่ถึงมือชาวนาจึงต่ำกว่าต้นทุนของชาวนา ผลก็คือชาวนาต้องขายข้าวขาดทุนทุกฤดู ถ้าเป็นคนมีความรู้ทั่วไปคงทนขาดทุนได้ไม่เกิน 2-3 ครั้งก็คงถอดใจเลิกทำนา แต่สำหรับชาวนาไทยถึงแม้จะขาดทุนทุกฤดูก็ยังคงทำนาอยู่เพราะไม่รู้จะไปทำอะไร? ในอนาคตถ้าชาวนามีความรู้และมีทางเลือกอื่นคงไม่มีใครเลือกขาดทุนซ้ำซากอยู่ทุกปีแบบนี้ ชาวนาที่ยากจนเป็นกลุ่มคนที่อ่อนแอของสังคม ไม่มีประเทศไหนแก้ไขความยากจนของชาวนาได้โดยให้ชาวนาช่วยตัวเองแบบต่างคนต่างอยู่แบบที่รัฐบาลไทยทำมาโดยตลอด ความจริงเรื่องนี้รัฐบาลก็รู้ถึงกับจัดตั้งกรมส่งเสริมสหกรณ์มาดูแล เพื่อให้ชาวนารวมตัวกันเป็นสหกรณ์จะได้มีความเข้มแข็ง ซึ่งสหกรณ์การเกษตรของญี่ปุ่นมีความเข้มแข็งมากและทำให้เกษตรกรญี่ปุ่นเลิกยากจน แล้วทำไมสหกรณ์การเกษตรของไทยส่วนใหญ่จึงไม่ประสบความสำเร็จ
จากข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้น เป็นปัญหาที่ชาวนาไทยพบเจอมาตลอดทุกภาคของประเทศไทยจากรุ่นสู่รุ่นไม่ว่ากี่ปีก็ตาม ทำไมทำนาก็ไม่รวยสักที ได้แต่พออยู่กับเสมอตัวเท่านั้น ซึ่งเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมา “ข้าว” ยังคงเป็นสินค้าเกษตรที่ราคาแทบไม่ขยับขึ้นเลย เนื่องจากเพดานราคาข้าวในตลาดที่ต่ำ ถูกกำหนดโดยปัจจัยหลายอย่าง รวมถึงราคาคู่แข่งจากข้าวต่างประเทศในตลาดโลก ดังนั้นทางพรรคชาติไทยพัฒนา จึงเสนอนโยบาย แจกพันธุ์ข้าวฟรี ทั่วประเทศ 60 ล้านไร่ พร้อม เงินตั้งต้น ไร่ละพันให้กับเกษตรกรชาวนา ซึ่งเป็นนโยบายช่วยเหลือชาวนาที่ต้นทาง และสามารถทำได้ทันทีนโยบายนี้ เพื่อช่วยลดต้นทุน ให้ชาวนามีกำไรเหลือมากขึ้น เห็นผลสำเร็จทันทีในฤดูเก็บเกี่ยวแรกได้ทันที เหมือนเอาเงินไปเข้ากระเป๋าให้ชาวนา เพื่อที่ชาวนาทุกท่านจะได้ลืมตาอ้าปากไม่เป็นหนี้เป็นสินอีกต่อไป และจะไม่มีคำว่า ทำไมทำนาไม่รวยสักทีให้ได้ยินกันอีก