เด็กในกรุงเทพฉลาดกว่าเด็กบ้านนอกจริงมั้ย ?
ปัจจุบันนี้เด็กกรุงเทพกับเด็กต่างจังหวัดมีความแตกต่างอะไรบ้าง?
กรุงเทพมหานครจะเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และเป็นจังหวัดที่มีความเจริญมากที่สุด เป็นเมืองแห่งโอกาส ที่ทุกคนต่างก็มุ่งมาเพื่ออยากจะหางานทำ สร้างเนื้อสร้างตัว ในชีวิต แต่สำหรับคนที่มีครอบครัวมีลูกแล้ว หรือกำลังวางแผนจะมีลูกเคยคิดหรือไม่ว่านี่เป็นที่ ๆ เหมาะจะให้ลูกเราเติบโตหรือเปล่า? เพราะอย่างที่เรารู้กันว่ากรุงเทพฯ นั้นเป็นเมืองที่มีแต่ความเร่งรีบ และการแข่งขันสูง รถติด สภาพอากาศแย่ลงเรื่อย ๆ จะเหมาะกับการเจริญเติบโตของเด็กจริง ๆ หรือไม่? เราเลยจะมาเปรียบเทียบ ความแตกต่างของเด็กกรุงเทพกับเด็กต่างจังหวัด ให้ดูกัน
4 ความแตกต่างของเด็กกรุงเทพกับเด็กต่างจังหวัด
ความเร่งรีบ
อย่างที่รู้กันว่ากรุงเทพนั้นเป็นเมืองที่รถติดมากที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเรื่องความเร่งรีบนั้นไม่ต้องพูดถึง การจะไปโรงเรียนได้นั้นหากใครโรงเรียนอยู่ไกลจากบ้านหน่อย ก็ต้องเผื่อเวลากันเป็นชั่วโมง ทำให้ทั้งพ่อแม่ลูกต่างก็ต้องพากันตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเตรียมตัวไปเรียนไปทำงาน ตอนเย็นกลับบ้านก็ต้องเผชิญรถติดอีกรอบ ยิ่งถ้าใครมีเรียนพิเศษกว่าจะได้อาบน้ำ กินข้าว ทำการบ้านก็ดึกแล้ว นอกจากจะเสียเวลาไปกับการเดินทางแล้วการนอนดึก ตื่นเช้ายังอาจจะทำให้เด็ก ๆ ไม่ได้พักผ่อนมากเท่าที่ควร ซึ่งส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กทั้งทางร่างกายและทางสมองโดยเฉพาะในเด็กเล็ก
กลับกันเด็กต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะไม่ต้องพบปัญหานี้เท่าไหร่นัก เพราะการจราจรไม่ติดขัดเท่าในกรุงเทพ ทำให้เด็ก ๆ ไม่จำเป็นต้องตื่นเช้ามากจนเกินไป และไม่ต้องกลับบ้านดึก ทำให้มีเวลาเหลือไปเล่นหรือทำอย่างอื่นได้ และไม่รบกวนการนอนของเด็กด้วย
การแข่งขัน
ถึงแม้ว่ากรุงเทพจะมีสถานศึกษาดี ๆ ให้เลือกเรียนมากมาย แต่ก็มาพร้อมกับการแข่งขันที่สูงมาก บางโรงเรียนต้องสอบเข้าตั้งแต่ระดับอนุบาล ระดับประถม หรือแม้กระทั่งระดับของมัธยม ทำให้เด็ก ๆ ต้องเจอกับความกดดันตั้งแต่เล็ก (โดยเฉพาะในครอบครัวที่พ่อแม่กดดัน) เลิกเรียนแทนที่เด็กจะได้เล่น ได้ใช้เวลากับพ่อแม่ตามที่เด็กวัยนี้ควรจะเป็น กลับต้องไปเรียนพิเศษเพิ่ม ซึ่งไม่ดีต่อพัฒนาการของเด็ก ในขณะที่ต่างจังหวัดนั้นการแข่งขันไม่สูง ทำให้ไม่ค่อยพบปัญหานี้เท่าไหร่นัก เด็กส่วนใหญ่เลิกเรียนก็กลับบ้านใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือเล่นกีฬากับเพื่อน ๆ ไม่ต้องมาเครียดโดยไม่จำเป็นตั้งแต่เด็ก
ค่าครองชีพ
มาที่เรื่องของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับข้อนี้ยังไงต่างจังหวัดก็ชนะกรุงเทพแน่นอน เพราะหลาย ๆ จังหวัดนั้นค่าครองชีพต่ำกว่ากรุงเทพค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะน้อยกว่า แต่พอหักลบกับส่วนต่างของค่าใช้จ่ายแล้วก็ถือว่าถูกกว่าอยู่ดี เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีเรื่องของการอวดของกันในโรงเรียน หลาย ๆ คนคงเคยได้ยินหรือเจอมากับตัวเองเรื่อง “เพื่อนมีฉันต้องมี” ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่สำหรับเด็กวัยเรียน โดยเฉพาะในโรงเรียนที่เด็กส่วนใหญ่ค่อนข้างมีฐานะอย่างโรงเรียนในกรุงเทพเป็นต้น ที่ต้องมีของใหม่ ๆ แพง ๆ มาอวดกันเสมอ ซึ่งภาระก็จะไปตกอยู่กับพ่อแม่ว่าจะสอนลูกยังไงดี ให้ลูกเข้าใจ ไม่เช่นนั้นก็ต้องเลือกระหว่าง จ่ายเงินตามใจลูก หรือปล่อยให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่น ในขณะที่ต่างจังหวัดจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการอวดของแบบนี้นัก แต่ถึงมีก็ยังน้อยกว่าในเมืองหลวง
โอกาสทางการศึกษา
สำหรับข้อนี้คงต้องยกให้เด็กกรุงเทพได้เปรียบกว่า เนื่องจากในกรุงเทพนั้นเด็ก ๆ จะมีตัวเลือกในการศึกษาที่หลากหลายกว่า ในทุก ๆ ระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นทางโรงเรียนรัฐ โรงเรียนเอกชน โรงเรียนอินเตอร์ สอบที่แรกไม่ติดก็ยังมีอีกหลายที่ดี ๆ ให้เลือก ยังไม่รวมโรงเรียนกวดวิชาดัง ๆ อีกหลายสถาบัน ทำให้เด็กกรุงเทพสามารถเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้มากกว่า
ต่างจากเด็กต่างจังหวัด ที่มีโรงเรียนให้เลือกไม่กี่โรงเรียนเท่านั้น งบประมาณสถานศึกษาก็ไม่ทั่วถึง โรงเรียนรอบนอกขาดการพัฒนา คุณภาพการเรียนการสอนไม่เทียบเท่าโรงเรียนอื่น ๆ บางจังหวัดถึงขั้นถ้าหลุดจากโรงเรียนประจำจังหวัดไปก็ต้องเรียกว่าโชคร้ายเลยทีเดียว
เคยมีการศึกษาเปรียบเทียบไอคิวของเด็กระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 พบว่า เด็กกรุงเทพนั้นมีค่าเฉลี่ยไอคิวสูงกว่าเด็กต่างจังหวัดถึง 10 จุด โดยเด็กต่างจังหวัดนั้นมีค่าเฉลี่ยไอคิวไม่ถึงเกณฑ์มาตรฐานด้วยซ้ำ ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากหลาย ๆ อย่างไม่ว่าจะเป็น การเลี้ยงดู โภชนาการ และโรงเรียนต่างจังหวัดที่ยังไม่ครอบคลุมเพียงพอและไม่ได้มาตรฐาน แต่ก็ไม่ใช่ว่าอยู่ต่างจังหวัดแล้วจะหมดโอกาสนะ เพราะในยุคสมัยนี้อินเตอร์เน็ตทั่วถึงทุกพื้นที่แบบนี้ ขอแค่เด็กมีความตั้งใจและขวนขวายก็สามารถประสบผลสำเร็จได้เช่นกัน ต่อให้อยู่ที่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา